พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497-2500/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของรถไฟต่ออุบัติเหตุทางตัดกับถนน: หน้าที่ป้องกันภัยตามกฎหมาย
ในคดีที่โจทก์และจำเลยต่างฟ้องซึ่งกันและกันโดยกล่าวอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งประมาทและให้รับผิดฐานละเมิดซึ่งจำเลยเรียกค่าเสียหายเพียง 800 บาทเศษนั้นเมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยประมาทฝ่ายเดียวและให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นความประมาทของโจทก์ฝ่ายเดียวหรือเป็นความประมาทร่วมกันของจำเลยและโจทก์ เป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้
พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 ส่วนที่ 5ว่าด้วยความปราศจากภัยแห่งประชาชน มาตรา 72, 88 บัญญัติว่า เมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญ ให้ทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำรางกั้นขวางถนนหรือทางนั้น ๆ ตามควรแก่การพนักงานรถไฟคนใดละเลยไม่กระทำตามหน้าที่โดยประมาทท่านว่ามีความผิด ดังนี้การรถไฟ ฯ จำเลยผู้ดำเนินกิจการรถไฟมีหน้าที่ต้องป้องกันภัยในการที่จะเดินรถไฟผ่านถนนสายนั้นๆ
ตรงที่เกิดเหตุเป็นที่ซึ่งถนนตัดกับทางรถไฟ จำเลยได้ทำเครื่องกั้นถนนไว้โดยใช้คนหมุนขึ้นลงปิดกั้นถนนขณะรถไฟแล่นผ่าน แต่ขณะเกิดเหตุพนักงานของจำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยไม่ปิดเครื่องกั้นถนน อันเป็นการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายที่ประสงค์จะปกป้องอันตรายประชาชน เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์แล่นผ่านเข้าไปถูกรถไฟของจำเลยชนเกิดความเสียหายขึ้น ถือได้ว่าพนักงานของจำเลยประมาทเลินเล่อ เพราะฝ่าฝืนกฎหมาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วย
พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 ส่วนที่ 5ว่าด้วยความปราศจากภัยแห่งประชาชน มาตรา 72, 88 บัญญัติว่า เมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญ ให้ทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำรางกั้นขวางถนนหรือทางนั้น ๆ ตามควรแก่การพนักงานรถไฟคนใดละเลยไม่กระทำตามหน้าที่โดยประมาทท่านว่ามีความผิด ดังนี้การรถไฟ ฯ จำเลยผู้ดำเนินกิจการรถไฟมีหน้าที่ต้องป้องกันภัยในการที่จะเดินรถไฟผ่านถนนสายนั้นๆ
ตรงที่เกิดเหตุเป็นที่ซึ่งถนนตัดกับทางรถไฟ จำเลยได้ทำเครื่องกั้นถนนไว้โดยใช้คนหมุนขึ้นลงปิดกั้นถนนขณะรถไฟแล่นผ่าน แต่ขณะเกิดเหตุพนักงานของจำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยไม่ปิดเครื่องกั้นถนน อันเป็นการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายที่ประสงค์จะปกป้องอันตรายประชาชน เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์แล่นผ่านเข้าไปถูกรถไฟของจำเลยชนเกิดความเสียหายขึ้น ถือได้ว่าพนักงานของจำเลยประมาทเลินเล่อ เพราะฝ่าฝืนกฎหมาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของรถไฟกับการส่งของทางรถไฟ: ละเมิด vs. สัญญา
ส่งรถแทรกเตอร์ทางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตาม มาตรา 609 ในส่วนที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 ซึ่ง มาตรา 51 บัญญัติว่า การรถไฟไม่รับผิดเว้นแต่ได้ส่งโดยประกัน จำเลยได้รับความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดทางสัญญา แต่โจทก์ฟ้องการรถไฟฯ เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ที่ดินเวนคืนเพื่อสาธารณูปโภค: การถมดิน ปลูกต้นไม้ ติดตั้งไฟฟ้าถือเป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว
ที่ดินที่เวนคืนส่วนหนึ่งได้ทำเป็นถนนคอนกรีต นอกนั้นได้ถมดินปรับเป็นลานหญ้าปลูกต้นไม้ติดตั้งเสาโคมไฟฟ้าใน 5 ปี เพื่อขยายถนน ดังนี้ ถือว่า ได้ใช้ในการสาธารณูปโภคตามความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.เวนคืนฯ แล้ว
อนึ่งถนนตาม พ.ร.บ.ทางหลวงมิได้หมายเฉพาะส่วนที่เป็นถนนแท้ๆแต่ยังคลุมถึงที่ซึ่งเป็นส่วนอุปกรณ์ของถนนด้วย
อนึ่งถนนตาม พ.ร.บ.ทางหลวงมิได้หมายเฉพาะส่วนที่เป็นถนนแท้ๆแต่ยังคลุมถึงที่ซึ่งเป็นส่วนอุปกรณ์ของถนนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเวนคืนที่ดินเพื่อขยายถนน: การใช้ประโยชน์ที่ดินส่วนอุปกรณ์ของถนนภายใน 5 ปี ถือเป็นการใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณูปโภคแล้ว
ที่ดินที่เวนคืนส่วนหนึ่งได้ทำเป็นถนนคอนกรีต นอกนั้นได้ถมดินปรับเป็นลานหญ้าปลูกต้นไม้ติดตั้งเสาโคมไฟฟ้าใน 5 ปี เพื่อขยายร่วมถนน ดังนี้ ถือว่า ได้ใช้ในการสาธารณูปโภคตามความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.เวนคืน ฯ แล้ว.
อนึ่งถนนตาม พ.ร.บ.ทางหลวงมิได้หมายฉะเพาะส่วนที่เป็นถนนแท้ๆ แต่ยังคลุมถึงที่ซึ่งเป็นส่วนอุปกรณ์ของถนนด้วย.
อนึ่งถนนตาม พ.ร.บ.ทางหลวงมิได้หมายฉะเพาะส่วนที่เป็นถนนแท้ๆ แต่ยังคลุมถึงที่ซึ่งเป็นส่วนอุปกรณ์ของถนนด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงาน: ผู้จัดการรถไฟอิสระไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นนายสถานีแม่กลองแห่งรถไฟสายแม่กลอง รถไฟสายแม่กลองนี้เป็นองค์การอิสระ อยู่ในความควบคุมของกรมรถไฟ เจ้าหน้าที่ของรถไฟสายนี้กินเงินเดือนรายได้ของรถไฟสายนี้ ไม่ได้กินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดิน การแต่งตั้งถอดถอนการขึ้นเงินเดือนเป็นอำนาจของผู้จัดการคนเดียว ดังนี้จะถือว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายไม่ได้ จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 131,132 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงาน: กรณีรถไฟสายแม่กลองเป็นองค์การอิสระ ไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นนายสถานีแม่กลองแห่งรถไฟสายแม่กลอง รถไฟสายแม่กลองนี้เป็นองค์การอิสระ อยู่ในความควบคุมของกรมรถไฟเจ้าหน้าที่ของรถไฟสายนี้กินเงินเดือนรายได้ของรถไฟสายนี้ ไม่ได้กินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดิน การแต่งตั้งถอดถอน การขึ้นเงินเดือนเป็นอำนาจของผู้จัดการคนเดียว ดังนี้ จะถือว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายไม่ได้จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 131,132 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องเนื่องจากโจทก์มิได้ระบุบทกฎหมายที่จำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โดยความผิดของจำเลยไม่ต้องด้วยบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง โจทก์มิได้แสดงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่า จำเลยควรมีผิดตามบทกฎหมายใด เพราะเหตุใด ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีหลีกเลี่ยงค่าระวางรถไฟ เนื่องจากการไม่ระบุบทกฎหมายที่จำเลยผิดในฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โดยความผิดของจำเลยไม่ต้องด้วยบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง โจทก์มิได้แสดงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่า จำเลยควรมีผิดตามบทกฎหมายใด เพราะเหตุใด ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย