พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สลักหลังในฐานะผู้รับอาวัลเช็ค: ไม่อาจอ้างระยะเวลาตามมาตรา 990 เพื่อปฏิเสธความรับผิด
การสลักหลังในฐานะผู้รับอาวัลเป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติความรับผิดไว้เป็นกรณีพิเศษ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 940 มิใช่เป็นการสลักหลังโดยทั่วๆ ไป ย่อมมีผลผูกพันที่จะต้องรับผิดเช่นเดียวกับผู้สั่งจ่ายซึ่งตนเข้ารับประกันจึงไม่อาจอ้างระยะเวลาตาม มาตรา 990 มาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4027/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดหน้าที่ธนาคารเมื่อผู้สั่งจ่ายเช็คเสียชีวิต ผู้ทรงเช็คไม่ต้องเรียกเก็บเงินก่อน
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย อำนาจและหน้าที่ของธนาคารซึ่งใช้เงินตามเช็คสิ้นสุดลงเมื่อธนาคารทราบว่าผู้สั่งจ่ายตาย ผู้ทรงเช็คจึงไม่ต้องนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคารอีก กรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับว่าผู้ทรงเช็คจะต้องนำเช็คเรียกเก็บเงินจากธนาคารเสียก่อนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 แม้จะถือว่าการนำเช็คไปยื่นต่อธนาคารก่อนกำหนดวันสั่งจ่ายเงินเป็นการมิชอบ ก็หาทำให้ผู้สลักหลังพ้นความรับผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4027/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผู้สั่งจ่ายเสียชีวิต: ธนาคารไม่ต้องจ่ายเงิน ผู้ทรงเช็คไม่ต้องเรียกเก็บเงินก่อนกำหนด
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย อำนาจและหน้าที่ของธนาคารซึ่งใช้เงินตามเช็คสิ้นสุดลงเมื่อธนาคารทราบว่าผู้สั่งจ่ายตาย ผู้ทรงเช็คจึงไม่ต้องนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคารอีก กรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับว่าผู้ทรงเช็คจะต้องนำเช็คเรียกเก็บเงินจากธนาคารเสียก่อนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990แม้จะถือว่าการนำเช็คไปยื่นต่อธนาคารก่อนกำหนดวันสั่งจ่ายเงินเป็นการมิชอบ ก็หาทำให้ผู้สลักหลังพ้นความรับผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกัน (อาวัล) และผลของการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็ค
จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ให้ถือว่าการสลักหลังนั้นเป็นเพียงประกัน (อาวัล)สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตนเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามมาตรา 940, 967, 989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสลักหลังเช็คในฐานะอาวัลและความรับผิดชอบต่อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็ค
จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ให้ถือว่าการสลักหลังนั้นเป็นเพียงประกัน (อาวัล)สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตนเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามมาตรา 940,967,989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้ทรงเช็คเมื่อผู้สั่งจ่ายเสียชีวิต และการโต้แย้งหนี้โดยผู้จัดการมรดก
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 992 ได้บัญญัติถึงหน้าที่และอำนาจของธนาคารซึ่งจะใช้เงินตามเช็คอันเบิกแก่ตนนั้นว่าเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อรู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย เมื่อ ส. ผู้สั่งจ่ายตายโจทก์ในฐานะผู้ทรงซึ่งทราบอำนาจหน้าที่ของธนาคารตามข้อกฎหมายดังกล่าว จึงไม่จำต้องนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเสียก่อนกรณีไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 990เมื่อ ส. ตายบรรดาทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ย่อมตกได้แก่ทายาทตามมาตรา1599,1600 จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. ได้รับการบอกกล่าวให้ชำระหนี้เงินตามเช็คที่ ส. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์แล้วเพิกเฉยถือได้ว่าสิทธิของโจทก์ในมูลหนี้เงินดังกล่าวได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คและการผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ผลของการทำเช็คหายต่อการระงับหนี้
บทบัญญัติมาตรา 321 วรรคท้ายมิได้จำกัดว่า ต้องเป็นกรณีผู้ทรงได้นำตั๋วเงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินแล้ว แต่ผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงินหนี้เดิมจึงจะไม่ระงับ แม้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทำเช็คที่จำเลยโอนชำระหนี้หายไป จึงมิได้นำเช็คไปยื่นเพื่อให้ใช้เงิน และไม่มีการใช้เงินตามเช็คนั้นก็อยู่ในบังคับของมาตรานี้ อันมีผลว่าหนี้เดิมยังไม่ระงับไปเช่นเดียวกัน การที่โจทก์เพิ่งแจ้งเหตุขัดข้องในการเรียกเก็บเงินตามเช็คดังกล่าวให้จำเลยทราบ จำเลยจะได้รับความเสียหายอย่างไรหรือไม่ ย่อมเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากมูลหนี้เดิม เมื่อมูลหนี้ดังกล่าวยังมีอยู่ไม่ระงับไป จำเลยย่อมมีหน้าที่ต้องชำระหนี้นั้นให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยเป็นผู้ออกข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมอบเช็คซึ่งมี อ. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันเดียวกันกับที่จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็คนั้นถึงกำหนดใช้เงินก่อนตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน อ. มีฐานะการเงินเป็นที่เชื่อถือในวงการค้า เชื่อได้ว่าหากโจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินโจทก์ก็จะได้รับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น แต่โจทก์หาได้กระทำไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จึงตกเป็นผู้ผิดนัด ซึ่งตามมาตรา 221 มิให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างนั้น จำเลยจึงไม่ต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยเป็นผู้ออกข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมอบเช็คซึ่งมี อ. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันเดียวกันกับที่จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็คนั้นถึงกำหนดใช้เงินก่อนตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน อ. มีฐานะการเงินเป็นที่เชื่อถือในวงการค้า เชื่อได้ว่าหากโจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินโจทก์ก็จะได้รับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น แต่โจทก์หาได้กระทำไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จึงตกเป็นผู้ผิดนัด ซึ่งตามมาตรา 221 มิให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างนั้น จำเลยจึงไม่ต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค, การสลักหลัง, การรับสภาพหนี้, และการเลื่อนคดีสืบพยาน
ทนายโจทก์แถลงต่อศาลว่า โจทก์นำพยานมาศาลสองปาก คือ ตัวทนายโจทก์ และ ร. เมื่อประเด็นรับฟังกันได้เป็นส่วนมาก โจทก์ไม่ติดใจสืบพยานสองปากนี้ และติดใจสืบตัวโจทก์ กับ ว. เพียง 2 ปาก วันนี้ไม่มาศาล โจทก์ขอเลื่อนคดีทนายจำเลยมิได้คัดค้านประการใด จึงเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ต่อ ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านว่าศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ไม่ชอบหาได้ไม่ และการที่โจทก์นำพยานที่โจทก์แถลงไม่ติดใจสืบเข้าเบิกความต่อศาลทนายจำเลยก็ได้ซักค้านพยานปากนี้โดยมิได้โต้แย้งประการใด แม้ต่อมาจำเลยจะได้ยื่นคำแถลงคัดค้าน ก็ไม่ตัดอำนาจศาลที่จะรับฟังพยานดังกล่าว
จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงวันที่ในเช็คเอาเอง ทั้งไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าผู้ใดลงวันที่ในเช็คไม่ถูกต้องและปราศจากอำนาจ จึงต้องฟังว่าวันที่ปรากฏในเช็คนั้นเป็นวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริง เมื่อโจทก์นำเช็คดังกล่าวมาขึ้นเงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ลงในเช็ค และฟ้องคีดภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ และโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังได้
ตามคำแถลงรับของคู่ความ จำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คทุกฉบับประเด็นที่ว่า โจทก์เป็นผู้ทรงหรือไม่ จึงเป็นอันยุติตามที่จำเลยยอมรับ และจำเลยรับต่อไปว่า จำเลยเป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยจึงต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914
จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงวันที่ในเช็คเอาเอง ทั้งไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าผู้ใดลงวันที่ในเช็คไม่ถูกต้องและปราศจากอำนาจ จึงต้องฟังว่าวันที่ปรากฏในเช็คนั้นเป็นวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริง เมื่อโจทก์นำเช็คดังกล่าวมาขึ้นเงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ลงในเช็ค และฟ้องคีดภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ และโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังได้
ตามคำแถลงรับของคู่ความ จำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คทุกฉบับประเด็นที่ว่า โจทก์เป็นผู้ทรงหรือไม่ จึงเป็นอันยุติตามที่จำเลยยอมรับ และจำเลยรับต่อไปว่า จำเลยเป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยจึงต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค, การสลักหลัง, และการรับรองข้อตกลงการรับสภาพหนี้
ทนายโจทก์แถลงต่อศาลว่า โจทก์นำพยานมาศาลสองปาก คือ ตัวทนายโจทก์ และ ร. เมื่อประเด็นรับฟังกันได้เป็นส่วนมาก โจทก์ไม่ติดใจสืบพยานสองปากนี้ และติดใจสืบตัวโจทก์กับ ว. เพียง 2 ปาก วันนี้ไม่มาศาล โจทก์ขอเลื่อนคดี ทนายจำเลยมิได้คัดค้านประการใด จึงเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ต่อ ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านว่าศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ไม่ชอบหาได้ไม่ และการที่โจทก์นำพยานที่โจทก์แถลงไม่ติดใจสืบเข้าเบิกความต่อศาล ทนายจำเลยก็ได้ซักค้านพยานปากนี้โดยมิได้โต้แย้งประการใด แม้ต่อมาจำเลยจะได้ยื่นคำแถลงคัดค้าน ก็ไม่ตัดอำนาจศาลที่จะรับฟังพยานดังกล่าว
จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงวันที่ในเช็คเอาเอง ทั้งไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าผู้ใดลงวันที่ในเช็คไม่ถูกต้องและปราศจากอำนาจ จึงต้องฟังว่าวันที่ปราฏในเช็คนั้นเป็นวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริง เมื่อโจทก์นำเช็คดังกล่าวมาขึ้นเงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ลงในเช็ค และฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ และโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังได้
ตามคำแถลงรับของคู่ความ จำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คทุกฉบับ ประเด็นที่ว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คหรือไม่ จึงเป็นอันยุติตามที่จำเลยยอมรับ และจำเลยรับต่อไปว่า จำเลยเป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยจึงต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914
จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงวันที่ในเช็คเอาเอง ทั้งไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าผู้ใดลงวันที่ในเช็คไม่ถูกต้องและปราศจากอำนาจ จึงต้องฟังว่าวันที่ปราฏในเช็คนั้นเป็นวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริง เมื่อโจทก์นำเช็คดังกล่าวมาขึ้นเงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ลงในเช็ค และฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ และโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังได้
ตามคำแถลงรับของคู่ความ จำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คทุกฉบับ ประเด็นที่ว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คหรือไม่ จึงเป็นอันยุติตามที่จำเลยยอมรับ และจำเลยรับต่อไปว่า จำเลยเป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยจึงต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็ค, การรับรองการใช้เงิน, อายุความ, การผิดนัดชำระหนี้, ความรับผิดของผู้สลักหลัง
จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทได้แก้วันที่ลงในเช็คสองครั้ง ครั้งสุดท้ายวันที่ 1 ธันวาคม 2513 โจทก์ฟ้องคดีเรียกเงินตามเช็ควันที่ 25 พฤศจิกายน 2514 จึงไม่พ้นเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
ผู้สลักหลังเช็คเป็นประกันการใช้เงินตามเช็คนั้นต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับผู้สั่งจ่ายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940, 967, 989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงือนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ทรงเช็คใช้สิทธิไล่ เบี้ยต่อผู้สลักหลังเช็คเป็นประกันซึ่งต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลด้วย
โจทก์เพิ่งนำเช็คไปยื่นต่อธนาคาร เพื่อให้ใช้เงินหลังวันที่ลงในเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์เพราะเหตุผิดนัดแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
ผู้สลักหลังเช็คเป็นประกันการใช้เงินตามเช็คนั้นต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับผู้สั่งจ่ายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940, 967, 989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงือนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ทรงเช็คใช้สิทธิไล่ เบี้ยต่อผู้สลักหลังเช็คเป็นประกันซึ่งต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลด้วย
โจทก์เพิ่งนำเช็คไปยื่นต่อธนาคาร เพื่อให้ใช้เงินหลังวันที่ลงในเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์เพราะเหตุผิดนัดแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน