คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 516

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3492/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดรวมทรัพย์สินหลายแปลง เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจรวมขายได้หากคาดว่าจะได้ราคาเพิ่มขึ้น การชำระเงินตามเงื่อนไขเป็นไปโดยชอบ
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 บัญญัติเป็นหลักบังคับไว้ว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไป แต่ก็ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะจัดขายอสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยสองแปลงรวมไปด้วยกัน หากจำเลยเห็นว่าควรแยกขายทีละแปลง จำเลยก็ชอบที่จะร้องคัดค้านไว้ตามมาตรา 309 วรรคท้าย จำเลยจะยกความข้อนี้เป็นเหตุคัดค้านเมื่อการขายทอดตลาดสำเร็จบริบูรณ์แล้วหาได้ไม่
การขายทอดตลาดครั้งก่อนผู้สู้ราคาสูงสุดไม่วางเงินค่าซื้อตามเงื่อนไข การขายทอดตลาด จึงประกาศขายใหม่ การขายทอดตลาดครั้งหลังแม้จะได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนก็ตาม ศาลก็อนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดในครั้งหลังได้ และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหาย เพราะราคาส่วนที่ต่ำหรือขาดไปนี้ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายครั้งก่อนยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516
เงื่อนไขในการขายทอดตลาดกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดต้องชำระเงินค่าซื้อในวันขายทอดตลาดร้อยละ 25 ของราคา จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีนี้ 118,700 บาท โจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดได้ในราคา 240,000 บาท โจทก์ขอหักหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้ชำระค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายเป็นเงิน 12,050 บาทส่วนเงินที่เหลือจำนวน 110,250 บาท โจทก์ได้ชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันขายทอดตลาดซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขการประกาศขายทอดตลาด ดังนี้ การซื้อทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3275/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีและการเพิกถอนคำสั่งอนุญาตถอนการยึดทรัพย์
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีนั้น นอกจากคู่ความในคดีแล้วจะต้องเป็นบุคคลที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 กำหนดไว้ ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้โต้แย้งสิทธิกับผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดในคดีนี้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ซื้อในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมิใช่บุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 บัญญัติไว้ ย่อมมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับการบังคับคดี ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีว่า โจทก์จะขอถอนการยึดทรัพย์ภายหลังที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นไปแล้วได้หรือไม่
ศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามวันนัดที่นัดไว้แล้วผู้ร้องก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟังก่อน เมื่อศาลชั้นต้นอ่านให้ผู้ร้องฟังแล้ว สิทธิในการฎีกาของผู้ร้องจึงจะเริ่มนับหรือถ้าศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมอ่าน ผู้ร้องจึงจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ การที่ผู้ร้องใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเสียก่อนเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3275/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการโต้แย้งการบังคับคดี: ผู้มีส่วนได้เสียต้องเป็นไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 280 และกระบวนการขออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีนั้น นอกจากคู่ความในคดี แล้วจะต้องเป็นบุคคลที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 กำหนดไว้ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้โต้แย้งสิทธิกับ ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดในคดีนี้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ซื้อ ในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมิใช่ บุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 บัญญัติไว้ ย่อมมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับการบังคับคดี ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีว่า โจทก์จะขอถอนการยึดทรัพย์ภายหลังที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นไปแล้วได้หรือไม่
ศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามวันนัดที่นัดไว้แล้วผู้ร้องก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟังก่อน เมื่อศาลชั้นต้นอ่านให้ผู้ร้องฟังแล้ว สิทธิในการฎีกาของผู้ร้องจึงจะเริ่มนับหรือถ้าศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมอ่าน ผู้ร้องจึงจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ การที่ผู้ร้องใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้อง ต่อศาลชั้นต้นเสียก่อนเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดและการละเลยไม่ใช้ราคาทรัพย์สิน ผู้ประมูลละเลยสิทธิ ศาลชอบที่จะสั่งขายใหม่ได้
เมื่อผู้ประมูลซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่ชำระเงินตามเงื่อนไขที่กำหนด ศาลสั่งให้ขายทอดตลาดใหม่ตามคำขอของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: ผู้สู้ราคาสูงสุดไม่ชำระเงิน ศาลต้องขายทอดตลาดใหม่ตามกฎหมาย
ในการขายทอดตลาดของศาล ว. ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช. ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว.ให้ว. วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว. และให้ขายแก่ ช.ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ว. ขอผัดวางเงินศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช. ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนดและศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีกว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคาศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิมจำเลยโดย ว. ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: สิทธิของผู้สู้ราคา & ผลของการไม่ชำระราคาตามกำหนด
ในการขายทอดตลาดของศาล ว.ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช.ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว. ให้ ว.วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว.และให้ขายแก่ ช. ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ ว. ขอผัดวางเงิน ศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช.ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนด และศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีก ว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคา ศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม จำเลยโดย ว.ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น
of 4