พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินในความผิด พ.ร.บ.ข้าว: เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจ ย่อมมีสิทธิขอคืนได้
การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตกำหนดซึ่งไม่ใช่ไปทางทะเลหรือออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวนั้น ต้องใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับการริบทรัพย์สินโดยทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ เพราะมิได้มีข้อความระบุให้ริบทรัพย์สินนั้นได้ในกรณีที่เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้อง ดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้อง ดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าว ต้องพิจารณาเจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วย จึงต้องใช้บทบัญญัติทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา
การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตกำหนดซึ่งไม่ใช่ไปทางทะเลหรือออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวนั้น ต้องใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับการริบทรัพย์สินโดยทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ เพราะมิได้มีข้อความระบุให้ริบทรัพย์สินนั้นได้ในกรณีที่เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้องดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้องดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวสารผิดกฎหมาย: ศาลยกฟ้องจำเลย แต่ริบข้าวสารของกลาง
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวฯที่ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ข้าวสารของกลางมีคนขนย้ายไปไว้ที่ริมฝั่งทะเลติดต่อกับต่างประเทศตระเตรียมขนย้ายออกนอกเขตอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้วริบข้าวสารของกลางได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวสารผิดกฎหมาย แม้จำเลยปฏิเสธ แต่มีหลักฐานการเตรียมขนย้ายออกนอกประเทศ ศาลริบข้าวสารได้
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว ฯ ที่ศาลพิพากษายกฟ้องแต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าข้าวสารของกลางมีคนขนย้ายไปไว้ที่ริมฝั่งทะเลติดต่อกับต่างประเทศ ตระเตรียมขนย้ายออกนอกเขต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว ริบข้าวสารของกลางได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงซ้ำ และฎีกาเรื่องริบของกลางไม่ถูกต้อง
ฎีกาขอให้ริบของกลางโดยกล่าวขึ้นมาลอย ๆ ไม่ปรากฏว่าเป็นของกลางรายใด และไม่แสดงเหตุแห่งข้อเท็จจริงว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้ไม่ชอบไม่ควรประการใด เป็นฎีกาที่ไม่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดต้องกันมาแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบให้เห็นชัดว่าจำเลยกระทำการขนย้ายข้าวเพื่อจะนำออกไปนอกราชอาณาจักร ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 13 ทวิ(2) ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6 จำคุก 5 ปี การที่โจทก์ฎีกาว่าพยานหลักฐานและพฤติการณ์แห่งคดีแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าจะขนย้ายข้าวของกลางออกไปนอกราชอาณาจักรต้องลงโทษด้วยมาตรา 13ทวิ(1) แห่งพระราชบัญญัติที่กล่าวข้างต้นเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดของจำเลยที่ศาลล่างทั้งสองศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดมาแล้ว ต้องห้ามมิให้ฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดต้องกันมาแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบให้เห็นชัดว่าจำเลยกระทำการขนย้ายข้าวเพื่อจะนำออกไปนอกราชอาณาจักร ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 13 ทวิ(2) ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6 จำคุก 5 ปี การที่โจทก์ฎีกาว่าพยานหลักฐานและพฤติการณ์แห่งคดีแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าจะขนย้ายข้าวของกลางออกไปนอกราชอาณาจักรต้องลงโทษด้วยมาตรา 13ทวิ(1) แห่งพระราชบัญญัติที่กล่าวข้างต้นเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดของจำเลยที่ศาลล่างทั้งสองศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดมาแล้ว ต้องห้ามมิให้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาและการริบของกลางเมื่อข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง จำเลยไม่มีความผิด ศาลไม่อาจริบของกลางได้
คดีที่หาว่าจำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว เมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความทางพิจารณาต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และศาลต้องยกฟ้องแล้ว ศาลจะริบข้าวและเรือของกลางมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่นำสืบ หากข้อเท็จจริงไม่สอดคล้องกัน แม้จำเลยไม่มีความผิด ศาลก็ไม่สามารถสั่งริบของกลางได้
คดีที่หาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวเมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความทางพิจารณาต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และศาลต้องยกฟ้องแล้ว ศาลจะริบข้าวและเรือของกลางมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 เท่านั้น
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หากยังไม่ปรากฎว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดี พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 จึงจะริบได้
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฏว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 10 หากยังไม่ปรากฏว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวในเขตจังหวัดเดียวกัน ไม่ผิดตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ผู้ที่จะมีความผิดตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ต้องปรากฏว่าได้ขนย้ายข้าวจากเขตจังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดอื่น หากขนย้ายในเขตจังหวัดเดียวกันแล้วไม่ผิดตามมาตรานี้
และเมื่อไม่ผิดตามมาตรา 10 แล้วจะใช้พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ 2)2489 มาใช้บังคับไม่ได้
และเมื่อไม่ผิดตามมาตรา 10 แล้วจะใช้พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ 2)2489 มาใช้บังคับไม่ได้