คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตการก่อสร้างอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
เมื่อมีผู้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 ย่อมมีอำนาจหน้าที่ที่จะใช้ดุลพินิจเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าวนั้น ในการอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้บุคคลปลูกสร้างอาคารอย่างใดๆ ได้
โจทก์ยื่นขออนุญาตก่อสร้างกำแพงต่อจำเลย จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์แจ้งไม่อนุญาตโดยอ้างเหตุขัดข้อง 3 ประการ ครั้นเมื่อโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย จำเลยได้ยื่นคำให้การแสดงถึงเหตุหลายประการนอกเหนือไปจากเหตุที่จำเลยอ้างไว้ ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิยกขึ้นเป็นประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยในคดีได้ ซึ่งศาลจะต้องรับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างอาคารละเมิดสิทธิหรือไม่: การละเลยระยะร่นตามเทศบัญญัติไม่ใช่การโต้แย้งสิทธิทางแพ่ง
การปลูกสร้างอาคารชิดที่ดินของโจทก์โดยไม่ละเว้นระยะไว้ห่าง 50 เซนติเมตร ตามเทศบัญญัติซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 นั้นไม่ใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ตามกฎหมายแพ่ง ถ้าหากจำเลยได้กระทำผิดกฎหมายนั้นก็เป็นเรื่องของเทศบาลหรือทางราชการที่จะเข้าควบคุมฟ้องร้องเอาเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลูกสร้างอาคารละเมิดสิทธิหรือไม่: สิทธิส่วนบุคคลกับการควบคุมอาคาร
การปลูกสร้างอาคารชิดที่ดินของโจทก์โดยไม่ละเว้นระยะไว้ให้ห่าง50 เซนติเมตร ตามเทศบัญญัติซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 นั้นไม่ใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ตามกฎหมายแพ่ง ถ้าหากจำเลยได้กระทำผิดกฎหมายนั้นก็เป็นเรื่องของเทศบาลหรือทางราชการที่จะเข้าควบคุมฟ้องร้องเอาเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031-1041/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องฐานปลูกสร้างอาคาร ต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดให้ชัดเจน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อกล่าวหา
พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 7แยกเป็นการกระทำได้ 3 อย่างคือ (1) สร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วน (2) ต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะอันเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมาก หรือเป็นการเพิ่มหรือขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมาก (3) แปลงอาคารสำหรับบุคคลอาศัยเป็นอาคารเพื่อประโยชน์อย่างอื่นหรือกลับกัน การกระทำอย่างใดหนึ่งในสามอย่างนี้ถือว่าทำการปลูกสร้างอาคาร ฉะนั้น โจทก์จะบรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยทำการปลูกสร้างอาคารเท่านั้นก็ไม่ชัดพอจะให้จำเลยเข้าใจฟ้องว่าจำเลยได้ทำการปลูกสร้างอาคารอย่างไหนในสามอย่างดังกล่าว
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารโดยการต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารเดิมในลักษณะที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมาก ดังนี้ ไม่ว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นการสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนหรือไม่ ศาลก็จะลงโทษจำเลยในเรื่องปลูกสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลสั่งรื้อถอนอาคารผิดกฎหมาย: ไม่จำเป็นต้องรื้อเสมอไป
การที่จะให้รื้อถอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขอาคารที่ปลูกขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ตามความใน มาตรา 11แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 ให้อำนาจศาลเป็นผู้ใช้ดุลพินิจพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปตามสมควรแก่กรณี อาจเพียงให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยไม่ต้องรื้อถอนก็ได้หาใช่ว่าเมื่อมีเอกชนผู้ใดทำการปลูกสร้างอาคารขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วศาลจะต้องสั่งบังคับให้รื้อถอนอาคารนั้นเสมอไป
ปลูกสร้างอาคารขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ปรากฏว่าอาคารนั้นมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือผิดสุขลักษณะอนามัยหรือไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ทั้งมิได้รุกล้ำที่ของบุคคลใด ดังนี้ ศาลชอบที่จะไม่สั่งให้รื้ออาคารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้จะไม่ได้ลงมือเอง ถือเป็นผู้ปลูกสร้างอาคารตามกฎหมาย
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสะพานไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือเอง การปลูกสร้างอาคารโดยไม่ขออนุญาตเป็นความผิด
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสพานไม่เป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการปลูกสร้างอาคารเป็นคนละส่วนกับกรรมสิทธิในที่ดิน การก่อสร้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร และข้อจำกัดตามพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดิน
กรรมสิทธิในที่ดินเป็นสิทธิอย่างหนึ่งต่างหากจากการขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร เพราะการปลูกสร้างอาคารนั้นมีกฎหมายบัญญัติไว้อีกต่างหาก ผู้ใดจะทำการปลูกสร้างอาคารต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง
ที่พิพาทอยู่ในเขตที่จะต้องตัดถนนตามพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ฯลฯ 2473 โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารในที่พิพาท จำเลยมีคำสั่งไม่อนุญาตดังนี้เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพราะตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 2 บัญญัติว่า"ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดปลูกสร้างโรงเรือนหรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดลงในที่ดินภายในเขตนั้น นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าพนักงาน"

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการก่อสร้างอาคารแยกจากกรรมสิทธิที่ดิน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการก่อสร้าง แม้กรรมสิทธิยังไม่ถูกเวนคืน
กรรมสิทธิในที่ดินเป็นสิทธิอย่างหนึ่งต่างหากจากการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารเพราะการปลูกสร้างอาคารนั้นมีกฎหมายบัญญัติไว้อีกต่างหาก ผู้ใดจะทำการปลูกสร้างอาคารต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมการก่อสร้าง
ที่พิพาทอยู่ในเขตที่จะต้องตัดถนนตามพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ 2473 โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารในที่พิพาท จำเลยมีคำสั่งไม่อนุญาตดังนี้เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพราะตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 2 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดปลูกสร้างโรงเรือนหรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดลงในที่ดินภายในเขตนั้น นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าพนักงาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ก่อสร้างอาคารล้ำหลังคา และสิทธิในการฟ้องร้องเมื่อไม่ละเมิดสิทธิ
การที่ยอมให้ผู้ครอบครองที่ดินใกล้เคียงปลูกอาคาร หลังคาเหลื่อมล้ำคลุมหลังคาเรือนของตนบางส่วนเช่นนี้ ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขอให้รื้อถอนไป และแม้ผู้ปลูกสร้างอาคารในที่ดินใกล้เคียงจะปลูกผิดเทศบัญญัติก็ดี หากมิได้ละเมิดสิทธิโจทก์ ๆ ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง.
of 5