พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,422 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ: การพิจารณาความผิดหลายกรรมต่อเนื่อง
จำเลยปลอมบัตรนำนักทัศนาจรชาวต่างประเทศเข้าชมพระราชฐานขอสำนักพระราชวังจำนวน 4 ฉบับ ให้แก่ผู้มีชื่อในบัตร แม้บัตรแต่ละฉบับที่จำเลยทำปลอมขึ้นเป็นการออกให้ต่างบุคคลกัน และวันออกบัตรกับวันบัตรหมดอายุแตกต่างทั้ง 4 ฉบับ แต่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยและยึดเอกสารต่าง ๆ ได้ในคราวเดียวกัน โดยโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้ปลอมบัตรทั้ง 4 ฉบับต่างวันต่างเวลาและโดยมีเจตนาที่จะให้เกิดผลต่างกรรมกัน จึงต้องฟังว่าจำเลยกระทำเพียงกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับตัวเด็กและหญิงเพื่อการอนาจารและค้าประเวณี การรับฟังพยานบอกเล่า และการรับรองสำเนาเอกสาร
แม้คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายจะเป็นพยานบอกเล่าแต่กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้รับฟัง เพียงแต่ลำพังมีน้ำหนักน้อยจึงรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายประกอบกับพยานบุคคลและพยานเอกสารลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ ภาพถ่ายธนบัตรที่มีลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งพนักงานสอบสวนลงลายมือชื่อรับรองว่าถ่ายมาจากต้นฉบับจริงเป็นสำเนาเอกสารที่เจ้าพนักงานรับรองจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านความถูกต้องแท้จริงย่อมรับฟังได้โดยชอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 238 จำเลยรับเด็กหญิงและหญิงหลายคนซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น โดยรับไว้หลายครั้งครั้งละ 2 คนบ้าง 1 คนบ้างนั้น การรับไว้แต่ละครั้งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แต่ในครั้งเดียวกันแม้รับเด็กหญิงหรือหญิงไว้หลายคนก็เป็นการกระทำกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2079/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้จ้างวานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ฯ ผู้ใช้เป็นผู้สนับสนุน ไม่ใช่ตัวการ ความผิดหลายกรรมต่างกัน
การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของเจ้าพนักงาน ผู้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริมด้วยวิธีอื่นใด ให้เจ้าพนักงานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84แต่ต้องรับโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนตามมาตรา 86 และเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยให้ถูกต้องได้ กรอกข้อความและรับรองเอกสารเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จในใบรับคำขอมีบัตรประชาชน (บ.ป.2) และแบบแจ้งย้ายที่อยู่(ท.ร.17) เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบียดบังทรัพย์สินโดยมีเจตนาเดียว แม้มีการเบิกถอนหลายครั้ง ถือเป็นกรรมเดียว และประเด็นการไม่รอการลงโทษเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย
คดีต้องห้ามโจทก์อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษแก่จำเลย อันเป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษและเป็นปัญหาข้อเท็จจริงการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่รอการลงโทษจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้ จำเลยเบิกถอนเงินจากบัญชีของมารดารวม 5 ครั้ง โดยมีเจตนาเบียดบังเงินส่วนที่เหลือจากการนำไปใช้จ่ายตามคำสั่งมารดาก่อนตายเป็นเจตนาเดียวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1774/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการลงโทษจำเลยตามคำฟ้อง: ศาลจำกัดการลงโทษเฉพาะความผิดที่โจทก์ฟ้องเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้พรากเด็กหญิงผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277,317,90 ซึ่งมิได้มีรายละเอียดให้เห็นว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษทุกกรรม ทั้งอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 มาด้วย ดังนี้แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์กับข่มขืนกระทำชำเรา อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจะลงโทษจำเลยในแต่ละกรรมนอกเหนือจากคำฟ้องและคำขอของโจทก์หาได้ไม่ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ โดยให้ลงโทษในความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม มาตรา 317 วรรคสาม กรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานซื้อตัวผู้เยาว์และเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจาร แม้มีเจตนาเดียวแต่เป็นกรรมต่างกัน
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง คำว่าซื้อหรือรับตัวมีผลเป็นทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตัวนางสาว ก. ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรกมาอยู่กับจำเลย ส่วนเหตุแห่งการได้ตัวมานั้นไม่ว่าจะได้มาโดยเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน ฉะนั้นที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาว ก. ผู้เยาว์ไว้ โดยไม่ได้ระบุว่ากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม แม้ความมุ่งหมายในการกระทำของจำเลยจะมีอย่างเดียวคือเป็นธุระจัดหาหญิงไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 แต่การที่จำเลยจะได้นางสาว ก.ผู้เยาว์ไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นนั้นจำเลยรับซื้อเอานางสาว ก. ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากจากมารดามาไว้กับจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอีกอันหนึ่ง ตามมาตรา 319 วรรคสอง ด้วยเพื่อบรรลุผลตามความมุ่งหมาย ซึ่งเป็นความผิดต่างฐานกันต้องถือว่าเป็นเจตนาอีกอันหนึ่งต่างหาก ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นหลายกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานซื้อ-รับตัวผู้เยาว์ถูกพราก และเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ถือเป็นความผิดหลายกรรม
การที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง บัญญัติว่าผู้ใดโดยทุจริตซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ฯลฯ นั้น หมายความว่า การกระทำผิดจะต้องกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาวก. มีผลเป็นทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตัวนางสาวก.ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรกมาอยู่กับจำเลย ส่วนเหตุแห่งการได้ตัวมานั้นไม่ว่าจะได้มาโดยเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม แม้จำเลยมีเจตนาอย่างเดียวคือเป็นธุระจัดหาหญิงไว้เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น แต่การที่จำเลยจะได้นางสาวก.ไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นนั้น จำเลยรับซื้อเอานางสาวก.ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากจากมารดามาไว้กับจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอีกอันหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง ด้วย ซึ่งเป็นความผิดต่างฐานกัน ต้องถือว่าเป็นเจตนาอีกอันหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตยาเสพติดจากของเดิมที่มีไว้จำหน่าย
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงหลอดพลาสติกเบอร์ 5จำนวน 161 หลอด ถือได้ว่าเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีผลิตและมีไว้จำหน่ายยาเสพติดโทษหนัก
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงหลอดพลาสติกเบอร์ 5 จำนวน 161 หลอด ถือได้ว่าเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับอาวุธปืนและบทลงโทษที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา
ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้กระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาด้วยแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์จำเลยสืบพยานมาจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงไปได้ โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2วินิจฉัยก่อน จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพื่อแกล้งให้ผู้เสียหายต้องรับโทษ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ประกอบ มาตรา 174 วรรคสอง ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผิดมาตรา 172,181(1) แล้วลงโทษตาม มาตรา 181(1) ไม่ถูกต้องเพราะคำว่า "เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 181(1) หมายความว่ากรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องมีอัตราโทษขั้นต่ำจำคุกสามปี แต่คดีนี้จำเลยแจ้งความเท็จว่าผู้เสียหายมีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งมีระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี โทษขั้นต่ำไม่ถึงสามปี จำเลยจึงไม่ผิดมาตรา 181(1) แม้โจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาปรับบทการลงโทษจำเลยให้ถูกต้อง โดยไม่กำหนดโทษให้สูงขึ้นอีกได้