คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 91

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,422 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3932/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้าม: ความผิดครอบครองรวมถึงการครอบครองแทนผู้อื่น และข้อจำกัดในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกคำพยาน
ฎีกาของจำเลยหาได้บรรยายให้เห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกคำพยานที่โจทก์นำสืบในข้อไหนอย่างไรและได้สันนิษฐานอันเป็นผลร้ายแก่จำเลยอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง,225 และฎีกาข้อนี้กล่าวโดยสรุปก็เพื่อให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงแตกต่างไปจากที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ คำว่า "ครอบครอง" ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 หาได้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า "สิทธิครอบครอง" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ แต่มีความหมายกว้างกว่าโดยหมายความรวมถึงครอบครองเพื่อตนและครอบครองแทนผู้อื่นด้วย เพราะไม่มีบทกฎหมายใดจำกัดว่าต้องเป็นการครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นความผิด และในทางอาญาการร่วมกันครอบครองไม้หวงห้ามก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3788/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ในเขตควบคุม ต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แม้มีใบอนุญาตโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรม
การที่จำเลยใช้กบไฟฟ้าและเลื่อยวงเดือนของกลางซึ่งติดตั้งบนแท่นไม้ไสและเลื่อยไม้ของกลางอันเป็นการแปรรูปไม้ที่สถานที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุจึงเป็นที่ซึ่งจัดไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้อันเป็นโรงงานแปรรูปไม้ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 4(13) แม้จำเลยได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมออกให้ตามพระราชบัญญัติ โรงงานฯ แล้วก็ตาม แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ด้วยเมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงมีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดสำเร็จเมื่อมีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะยังมิได้แปรรูปไม้ก็ตาม ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นความผิดคนละกรรมกับความผิดฐานแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3524/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างผิดแบบและก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดสองกรรม
ในระหว่างเวลาซึ่งอยู่ในอายุใบอนุญาตก่อสร้าง จำเลยที่ 1กับพวกได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารเพื่อพาณิชยกรรมและพักอาศัยผิดไปจากแผนผังบริเวณ แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตและขัดต่อข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้แก้ไขรื้อถอนและสั่งให้ระงับการก่อสร้าง จำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งแล้วไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นการที่จำเลยก่อสร้างอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นการกระทำความผิดสำเร็จไปแล้วกรรมหนึ่งและเมื่อครบกำหนดในใบอนุญาตให้ก่อสร้างแล้ว จำเลยไม่ต่อใบอนุญาตก่อสร้าง แต่ยังคงก่อสร้างต่อไปอีกอันเป็นการก่อสร้างในขณะที่ใบอนุญาตให้ก่อสร้างหมดอายุจึงเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21,65,69 และ 71อีกกรรมหนึ่งต่างไปจากกรรมแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3524/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างผิดแบบและไม่ต่อใบอนุญาตเป็นความผิดหลายกรรม การลดโทษต้องมีเหตุเฉพาะตัว
จำเลยปลูกสร้างอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตตั้งแต่ใบอนุญาตยังไม่หมดอายุ เป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้วกรรมหนึ่ง เมื่อใบอนุญาตหมดอายุแล้วจำเลยไม่ต่อใบอนุญาตก่อสร้างแต่ยังคงก่อสร้างต่อไปอีกย่อมเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21,65,69 และ 71 อีกกรรมหนึ่ง เหตุบรรเทาโทษเป็นเหตุเฉพาะตัว ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยที่ไม่มีเหตุบรรเทาโทษย่อมไม่ถูกต้อง แต่โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาไม่อาจแก้ไขได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3524/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างผิดแบบและก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดกรรมเดียวและกรรมต่างกัน
การที่จำเลยก่อสร้างอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นในขณะที่ใบอนุญาตให้ก่อสร้างยังไม่หมดอายุนั้น เป็นการกระทำความผิดสำเร็จไปแล้วกรรมหนึ่ง และเมื่อครบกำหนดในใบอนุญาตให้ก่อสร้างจำเลยไม่ต่อใบอนุญาตก่อสร้าง แต่ยังคงก่อสร้างต่อไปอีก อันเป็นการก่อสร้างในขณะที่ใบอนุญาตให้ก่อสร้างหมดอายุ จึงเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21,65,69 และ71 อีกกรรมหนึ่ง จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9 ให้การปฏิเสธทั้งในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ซึ่งเป็นเหตุเฉพาะตัว ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษให้จึงไม่ถูกต้อง แต่โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขให้เป็นอย่างอื่นได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเกินคำขอในฟ้องฎีกาของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3345/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกคำให้การ, ความหมายของการครอบครองตาม พ.ร.บ.ป่าไม้, และการกระทำความผิดหลายกรรม
ฎีกาว่าศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกเหนือจากคำให้การของพยานและเสริมแต่งข้อสันนิษฐานพยานหลักฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยโดยไม่ได้บรรยายว่านอกเหนือจากคำให้การของพยานในข้อไหนอย่างไร และได้เสริมแต่งให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยอย่างไรเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งทั้งเป็นฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงแตกต่างไปจากศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 "การครอบครอง" ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หาได้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า "สิทธิครอบครอง" ตาม ป.พ.พ.ไม่ แต่มีความหมายกว้างกว่าโดยหมายความรวมถึงครอบครองเพื่อตนและครอบครองแทนผู้อื่นด้วย ทั้งนี้เพราะไม่มีบทกฎหมายใดจำกัดว่าต้องเป็นการครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้น การตัดไม้หวงห้ามและมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองในคดีก่อนเป็นการกระทำต่างสถานที่กับคดีนี้ และไม้คนละจำนวนกัน จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3298/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานทำไม้หวงห้าม: ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรม
ความผิดฐานทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย และโดยพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมายแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่นั้นความผิดแต่ละกรรมเป็นความผิดสำเร็จในตัวเอง จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามป.อ. มาตรา 91.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3203/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาทำให้ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,288,295ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และผู้ตายถึงแก่ความตายในที่ชุลมุนต่อสู้นั้น โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำให้ตาย ดังนี้เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3049/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงประชาชนและการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยมีความผิดทั้งสองฐาน
การที่จำเลยกับพวกได้หลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศโดยเรียกเงินค่าดำเนินการหรือค่าใช้จ่ายในการสมัคร และจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานให้คนหางานไปทำงานต่างประเทศดังนี้การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนงานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง อันเป็นการจัดหางานตามความหมายของ พ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528มาตรา 4 แล้ว เมื่อจำเลยได้กระทำการดังกล่าวโดยรู้สำนึกในการกระทำ และขณะเดียวกันก็ประสงค์ต่อผลของการกระทำนั้นจึงถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดในฐานนี้อีกกระทงหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมเป็นคนละกระทง แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ใช้เครื่องหมายการค้าปลอมและผลิตอาหารปลอม รวมจำเลยที่ 2 จำคุก3 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 11,000 บาท ศาลอุทธรณ์แก้เป็น ฐานปลอมและใช้เครื่องหมายการค้าปลอมเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ตาม ป.อ. มาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักโดยลดโทษแล้ว จำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 500 บาท เป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อย และยังคงจำคุกไม่เกินห้าปี คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ลงชื่อในคำพิพากษาอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ข้อเท็จจริงนั้นก็ต้องยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมลักษณะของการกระทำผิดแยกจากกัน เมื่อมีการปลอมเครื่องหมายการค้าและนำไปใช้ก็เป็นความผิดสำเร็จกระทงหนึ่ง เมื่อนำอาหารที่ส่วนประกอบไม่ใช่สูตรของแท้มาปิดเครื่องหมายการค้าปลอมเพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นอาหารสูตรของแท้ก็เป็นความผิดฐานผลิตอาหารปลอมอีกกระทงหนึ่ง.
of 243