คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 91

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,422 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมเป็นคนละกระทง แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ใช้เครื่องหมายการค้าปลอมและผลิตอาหารปลอม รวมจำเลยที่ 2 จำคุก3 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 11,000 บาท ศาลอุทธรณ์แก้เป็น ฐานปลอมและใช้เครื่องหมายการค้าปลอมเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ตาม ป.อ. มาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักโดยลดโทษแล้ว จำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 500 บาท เป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อย และยังคงจำคุกไม่เกินห้าปี คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ลงชื่อในคำพิพากษาอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ข้อเท็จจริงนั้นก็ต้องยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมลักษณะของการกระทำผิดแยกจากกัน เมื่อมีการปลอมเครื่องหมายการค้าและนำไปใช้ก็เป็นความผิดสำเร็จกระทงหนึ่ง เมื่อนำอาหารที่ส่วนประกอบไม่ใช่สูตรของแท้มาปิดเครื่องหมายการค้าปลอมเพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นอาหารสูตรของแท้ก็เป็นความผิดฐานผลิตอาหารปลอมอีกกระทงหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินต่อเนื่องกัน แม้คดีของเจ้าของที่ดินส่วนหนึ่งยกฟ้อง สิทธิฟ้องของเจ้าของที่ดินส่วนอื่นยังคงมีอยู่
จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินทั้งส่วนที่เป็นของโจทก์ และส่วนที่เป็นของ พ. ที่อยู่ติดต่อกันเป็นการกระทำความผิดคนละกรรมกันเพราะมิใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวกัน แต่เป็นการกระทำต่อเนื่องกันแม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องคดีของ พ. คดีถึงที่สุดแล้วก็ตามสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องของโจทก์หาระงับไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ติดตาม ยิงขณะอยู่ในที่คับขัน และความแค้นส่วนตัว
จำเลยกับพวกร่วมกันขับรถยนต์ติดตามรถยนต์ ล. ถึง 3 กิโลเมตรและใช้อาวุธปืนยิง ล. 2 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งหลัง เป็นการยิงขณะ ล. อยู่ในหนองน้ำไม่อาจหลบหนีได้อีก เป็นการส่อให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะฆ่า ล. ให้ได้ เมื่อประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยประกาศชื่อตน และถาม ล. ว่า ล. เป็นผู้ฆ่าบิดามารดาและ น้องสาวจำเลยทำไม ทั้งได้ความว่าจำเลยตามฆ่า ล.มา 3 ปีแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) จำเลยยิง ล. แต่กระสุนปืนพลาดไปถูก จ. ถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่า จ. โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 60 กระทงหนึ่งต่อมาจำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง ล. บาดเจ็บและถึงแก่ความตายในภายหลัง จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่า ล. โดยไตร่ตรองตามมาตรา 289(4) อีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันแต่โจทก์มิได้ฟ้องหรืออุทธรณ์ฎีกาประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทุกกรรม จึงไม่อาจลงโทษจำเลยเป็นแต่ละกรรมได้ คงลงโทษจำเลยฐานฆ่า ล. และ จ. โดยไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ความผิดหลายกรรม, โจทก์มิได้ฟ้องทุกกรรม ศาลลงโทษกรรมเดียวได้
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แต่โจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรม ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยได้เพียงกรรมเดียวเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีอาวุธปืนและการพาอาวุธปืนเป็นคนละกรรมกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปตามทางสาธารณะ มีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน และเจตนาในการกระทำความผิดก็เป็นคนละอย่างแตกต่างจากกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ครอบครองอาวุธปืนและพาอาวุธปืนในทางสาธารณะ
ความผิดข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาพาอาวุธปืนไปตามถนนอันเป็นสาธารณะ มีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกันและเจตนาในการกระทำความผิดก็เป็นคนละอย่างแตกต่างกัน ความผิดทั้งสองข้อหาจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดหลายบท – อาหารผิดมาตรฐานและไม่บริสุทธิ์ – ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาทั้งหมด
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ก็ตามจำเลยก็หยิบยกขึ้นในชั้นฎีกาได้
แม้ความผิดฐานผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารผิดมาตรฐานตามฟ้องข้อ ก. อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 25 (3), 60 และความผิดฐานผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารไม่บริสุทธิ์ตามฟ้องข้อ ข. อันเป็นความผิดตามมาตรา 25 (1), 58 จะเป็นความผิดที่มีองค์ประกอบความผิดและบทลงโทษแตกต่างกันก็ตาม เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารผิดมาตรฐานและอาหารไม่บริสุทธิ์ตามฟ้องทั้งสองข้อดังกล่าวในวันเดียวกัน และอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่ายก็เป็นอาหารกระป๋องซึ่งภายในบรรจุปลาเกล็ดขาวทอดกรอบอย่างเดียวกัน อีกทั้งไม่ปรากฏตามคำฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องทั้งสองข้อดังกล่าวด้วยเจตนาต่างกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา 90 หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา 91 ไม่
ปัญหาว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน รวมทั้งปัญหาว่าศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยสูงเกินสมควรนั้น ล้วนเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาด้วยได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท อาหารผิดมาตรฐาน - ไม่บริสุทธิ์ ศาลฎีกาแก้ไขโทษปรับ/จำคุก
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ก็ตาม จำเลยก็หยิบยกขึ้นในชั้นฎีกาได้ แม้ความผิดฐานผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารผิดมาตรฐานตามฟ้องข้อ ก. อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา25(3),60 และความผิดฐานผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารไม่บริสุทธิ์ตามฟ้องข้อ ข. อันเป็นความผิดตามมาตรา 25(1),58 จะเป็นความผิดที่มีองค์ประกอบความผิดและบทลงโทษแตกต่างกันก็ตาม เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารผิดมาตรฐานและอาหารไม่บริสุทธิ์ตามฟ้องทั้งสองข้อดังกล่าวในวันเดียวกันและอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่ายก็เป็นอาหารกระป๋องซึ่งภายในบรรจุปลาเกล็ดขาวทอดกรอบอย่างเดียวกัน อีกทั้งไม่ปรากฏตามคำฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องทั้งสองข้อดังกล่าวด้วยเจตนาต่างกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา 91 ไม่ ปัญหาว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกันรวมทั้งปัญหาว่าศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยสูงเกินสมควรนั้นรวมทั้งปัญหาว่าศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยสูงเกินสมควรนั้นล้วนเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาด้วยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา-ความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพคดีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การฎีกาว่าไม่มีเจตนาและกรรมเดียวไม่รับฟัง เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นว่ากล่าว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดกฎหมายฐานผลิตเหล็กเส้นต่ำกว่ามาตรฐานกับมีไว้เพื่อจำหน่ายเหล็กเส้นที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างละ 4 กรรม รวม 8 กรรมจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ จำเลยทั้งสองมีความผิดรวม 8 กรรมตามฟ้อง หาใช่กรรมเดียวไม่ จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว จะฎีกาว่าไม่มีเจตนากระทำผิดหาได้ไม่ เพราะมิใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผลิตเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน จำเลยรับสารภาพ ศาลฎีกายืนโทษ ไม่รอการลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดกฎหมายฐานผลิตเหล็กเส้นต่ำกว่ามาตรฐาน กับมีไว้เพื่อจำหน่ายเหล็กเส้นที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างละ 4 กรรม รวม 8 กรรมจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพจำเลยทั้งสองจึงมีความผิดรวม 8กรรมตามฟ้อง จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว จะฎีกาว่าไม่มีเจตนากระทำผิดหาได้ไม่ เพราะมิใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น.
of 243