คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 91

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,422 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่เริ่มต้นจากการทำร้ายร่างกายแล้วจึงลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยกับพวกโกรธผู้เสียหาย ที่ไม่ยอมให้จำเลยกับพวกนั่งข้าง ๆ ในรถยนต์โดยสารจึงเกิดการโต้เถียงกัน พวกของจำเลยชกต่อยผู้เสียหายและดึงแว่นตาของผู้เสียหายออกจนหล่น ที่พื้นโดยประสงค์จะแกล้งผู้เสียหาย มิได้มีเจตนาทุจริตคิดที่จะลักแว่นตาผู้เสียหายไปตั้งแต่แรก เมื่อทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเสร็จแล้วก่อนจะหนีไป จำเลยกับพวกจึงลักเอาแว่นตาและเศษสตางค์ของผู้เสียหายที่หล่น จากกระเป๋าเสื้อไปในภายหลัง การกระทำของจำเลยกับพวกจึงเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายกระทงหนึ่ง และความผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่ง มิใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์นายจ้างและการกดเงินจากบัตร ATM เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยเป็นพนักงานของธนาคาร ก. ลักเอาบัตรเงินสดทันใจเอ.ที.เอ็ม. ของธนาคาร ก. นายจ้างแล้วนำไปเข้าเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ ของธนาคาร ก. กดเบิกเงินไปจำนวน 5,000 บาท แม้จำเลยจะมีความประสงค์เพื่อเอาบัตรเงินสดทันใจ เอ.ที.เอ็ม. ที่ลักมาไปกดเบิกเงินจากเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ แต่ทรัพย์ที่จำเลยลักไปจากธนาคาร ก. นายจ้างเป็นคนละประเภทกัน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จในตัวต่างกรรมต่างวาระกัน แยกกระทงลงโทษจำเลยได้ การกระทำผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์บัตรเอทีเอ็มและกดเงินเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยลักบัตรเงินสดทันใจ เอ.ที.เอ็ม ของธนาคารนายจ้าง1 ใบ ไปในขณะที่ได้รับมอบหมายให้จัดรหัสของบัตรให้เข้าคู่กันวันต่อมาจำเลยนำบัตรเงินสดทันใจที่ลักมาไปเข้าเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติของนายจ้างกดเบิกเงินเอาไปจำนวน 5,000 บาท ทรัพย์ที่จำเลยลักไปเป็นคนละประเภทกัน แม้จำเลยจะมีความประสงค์เพื่อเอาบัตรเงินสดทันใจที่ลักมาไปกดเบิกเงินจากเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติแต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จในตัวต่างกรรมต่างวาระกันแยกกระทงลงโทษจำเลยได้ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์บัตรเอทีเอ็มแล้วกดเงิน ถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างวาระ
การที่จำเลยได้ลักเอาบัตรเอ.ที.เอ็ม. 1 ใบราคา 30 บาท ของธนาคารกสิกรไทย แล้วจำเลยได้นำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ที่ลักมานั้นไปเข้าเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ กดเบิกเงินเอาไปจำนวน 5,000 บาทแล้วได้นำบัตร เอ.ที.เอ็ม. ดังกล่าวโยนทิ้งน้ำไปนั้น ทรัพย์ที่จำเลยลักไปจากธนาคารกสิกรไทยเป็นคนละประเภทกัน แม้จำเลยจะมีความประสงค์เพื่อเอาบัตร เอ.ที.เอ็ม. ที่ลักมาไปกดเบิกเงินจากเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จในตัวต่างกรรมต่างวาระกัน แยกกระทงลงโทษจำเลยได้ การกระทำผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1432/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทขับรถชนต้นไม้ ตู้สำนักงานหล่นทับรถคันอื่น ทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิต ศาลฎีกายืนความผิดฐานประมาท
จำเลยขับรถเทรลเลอร์ บรรทุกตู้สำนักงานชั่วคราวไปตามถนนวิทยุด้วยความเร็วสูงชนกับต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ที่เกาะกลางถนน เป็นเหตุให้ตู้สำนักงานชั่วคราวหลุดตกลงกระแทกกับรถยนต์ที่ผู้ตายขับสวนทางมารถผู้ตายเสียการทรงตัวแล่นไถลไปชนกับรถยนต์โดยสารปรับอากาศขนาดกลางและต้นไม้ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่จำเลยขับรถยนต์ลากจูงรถพ่วงบรรทุกตู้สำนักงานขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสูงจากพื้นถนนถึง 3.60 เมตร ไปตามถนนซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมบนเกาะกลางถนนตลอดเส้นทางด้วยความเร็วสูง ในขณะที่ไฟฟ้าสาธารณะริมถนนดับหมด จนเป็นเหตุให้ตู้สำนักงานชั่วคราวที่บรรทุกมาบนรถจำเลยเฉี่ยวชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ถือได้ว่า เป็นการกระทำโดยประมาทจำเลยจึงมีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 กับตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 35,157 และมาตรา78,160 วรรคแรก เป็นความผิดต่างกรรม รวม 3 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชน, ความผิดฐานปล้นทรัพย์, ตัวการร่วม, ลดโทษตามมาตรา 76/78
พระราชบัญญัติ ญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494มาตรา 8(1) กำหนดให้ศาลคดีเด็กและเยาวชนมีอำนาจเช่นเดียวกับศาลจังหวัดในคดีอาญาที่มีข้อหาว่า เด็กหรือเยาวชนกระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดเว้นแต่คดีอาญาที่มีข้อหาว่า เยาวชนซึ่งอายุเกินสิบหกปีบริบูรณ์กระทำความผิดในเหตุฉกรรจ์บางประเภทตามที่ระบุไว้รวมทั้งความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เมื่อจำเลยที่ 5 มีอายุเกินกว่าสิบหกปีบริบูรณ์และกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้จะกระทำความผิดในท้องที่ที่มีศาลคดีเด็กและเยาวชนเปิดดำเนินการแล้วก็ตาม เมื่อเป็นความผิดที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กและเยาวชน ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ จำเลยที่ 5 ร่วมกับพวกอีก 4 คน พากันขึ้นไปบนรถยนต์โดยสารขณะที่พวกจำเลยทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหายอยู่นั้น จำเลยที่ 5ยืนโหนบันไดรถบังไม่ให้คนอื่นเห็นการปล้นทรัพย์ที่พวกจำเลยกระทำอยู่เป็นการร่วมกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 5จึงเป็นตัวการร่วมในความผิดฐานปล้นทรัพย์ การกำหนดโทษและการไม่ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย สำหรับความผิดที่ร่วมกันเป็นตัวการปล้นทรัพย์ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเป็นเหตุในลักษณะคดี เมื่อศาลฎีกาพิพากษาลดมาตราส่วนโทษและลดโทษให้จำเลยที่ฎีกา ย่อมมีอำนาจพิพากษาเลยไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฉ้อโกง: การร้องทุกข์เกิน 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดทำให้คดีขาดอายุความ
ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 เป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายจะต้องร้องทุกข์ภายในกำหนด3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติเรื่องอายุความคดีอาญาไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะแล้ว หาได้มีบทบัญญัติเรื่องเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถทำให้อายุความสะดุดหยุดลง อันเป็นเหตุให้อายุความยังไม่ครบบริบูรณ์ดังที่บัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 187 ไม่ จึงจะนำบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้ในคดีอาญาไม่ได้ดังนั้น เมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเกินกว่า3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้วคดีโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์หลายกรรมต่างกัน ร่วมกันกระทำความผิด มีอาวุธ ร่วมขู่เข็ญบังคับ
คนร้าย 5 คน มีปืนเป็นอาวุธเข้าทำการปล้นทรัพย์ของ ป.ที่บ้านพักของ ป. ได้เงินสดและทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แล้วคนร้ายขู่บังคับ ป. ให้เดินไปกับคนร้ายไปทำการปล้นทรัพย์ที่บ้านของ จ.ซึ่งอยู่ห่างบ้านของ ป.ประมาณ 3 เส้น ได้ทรัพย์ของ จ.ทั้งเงินสดและทรัพย์สินอื่น ๆ หลายรายการ แล้วคนร้ายพากันออกจากบ้านของ จ.ไปปล้นทรัพย์ของ ผ.ที่บ้านพักของผ.ได้เงินสดและทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้ การกระทำผิดของคนร้ายเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์หลายกรรมต่างกัน
คนร้าย 5 คน มีปืนเป็นอาวุธเข้าทำการปล้นทรัพย์ของ ป.ที่บ้านพักของ ป. ได้เงินสดและทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แล้วคนร้ายขู่บังคับ ป.ให้เดินไปกับคนร้ายไปทำการปล้นทรัพย์ที่บ้านของ จ.ซึ่งอยู่ห่างบ้านของ ป.ประมาณ3 เส้น ได้ทรัพย์ของ จ.ทั้งเงินสดและทรัพย์สินอื่น ๆ หลายรายการ แล้วคนร้ายพากันออกจากบ้านของ จ.ไปปล้นทรัพย์ของ ผ.ที่บ้านพักของ ผ.ได้เงินสดและทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้ การกระทำผิดของคนร้ายเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานทำและมีสุรากลั่น/แช่หลายกรรมต่างกัน ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการกระทำผิดหลายกระทง และฎีกาขอรอการลงโทษเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
จำเลยทำความผิดข้อหาทำสุราแช่กับมีสุราแช่ และข้อหาทำสุรากลั่นกับมีสุรากลั่นคนละวันเวลากัน มิใช่ทำผิดในวันเวลาเดียวกันหรือในคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษรวม 4 กระทงทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.
of 243