คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 82

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ยืมเงินปลอม การกู้เงินจริงไม่ตรงตามจำนวนที่ระบุในสัญญา ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินไปจากโจทก์ 45,000 บาท และลงลายมือชื่อในสัญญากู้ยืมเงินที่ยังไม่ได้กรอกจำนวนเงินไว้ แล้วมีการนำสัญญากู้ยืมเงินไปกรอกจำนวนเงินกู้เป็น 200,000 บาท ในภายหลัง โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ยินยอม สัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม ถือได้ว่าโจทก์มิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ โจทก์จึงไม่อาจฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง ดังนั้น แม้จำเลยที่ 1 ให้การรับว่าได้กู้และรับเงินกู้ไปเป็นเงิน 45,000 บาท จำเลยที่ 1 ก็ไม่ต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวและแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้ฎีกามาด้วย คงมีแต่จำเลยที่ 1 ฎีกายกเหตุดังกล่าว แต่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้เป็นอย่างเดียวกับจำเลยที่ 1 ถือเป็นการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 245 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่น่าเชื่อถือ: ศาลไม่รับฟังเอกสาร บ.ท.4 ที่ไม่มีผู้รับรองและพยานบุคคลยืนยันความถูกต้อง
(คดีนี้สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว แต่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขออ้างเอกสาร บ.ท.4 เพิ่มเติมเพื่อหักล้างคำพยานจำเลยที่เบิกความเกี่ยวกับความกว้างยาวของที่พิพาทเอกสาร บ.ท. 4 นี้โจทก์อ้างว่าพยานจำเลยปากนี้ได้เป็นผู้ทำขึ้น และว่าพยานจำเลยปากนี้เบิกความชั้นศาลไม่ตรงกับข้อความในเอกสาร ศาลไม่ควรรับฟังคำพยานจำเลยปากนี้ ควรฟังตามพยานเอกสารที่โจทก์อ้าง เพื่อความเที่ยงธรรมศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์อ้างเพิ่มเติมพยานเอกสารดังกล่าวได้)
ดังนี้เมื่อปรากฎว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบ ไม่แน่ว่าจะเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีเจ้าพนักงานรับรองความแท้จริง ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองความแท้จริง และพยานจำเลยปากนี้ก็ไม่มีโอกาศให้การชี้แจงอธิบายถึงเอกสารฉบับนี้ จึงไม่มีเหตุควรรับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างขึ้นมานี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพะยานจำเลย: ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนตัดพยาน
ในวันพิจารณาครั้งแรกปรากฎว่าทนายจำเลยได้ยื่นบัญชีพะยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ไว้ต่อศาล แต่ในสำนวนไม่ปรากฎว่า จำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้ก่อน วันนัดสืบพะยาน 3 วัน ทนายจำเลยแถลงยืนยันว่าได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้แล้ว พนักงานศาลอาจกลัดสำนวนผิดได้ ดังนี้ศาลควรไต่สวนรเื่องระบุพะยานจำเลยก่อนดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป จะตัดพะยานจำเลยเสียทีเดียวไม่ได้.