คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ม. 41

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2317/2564

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉ้อฉลในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ สัญญาไม่เป็นโมฆะหากผู้รับทราบแหล่งเงินช่วยเหลือและสิทธิอุทธรณ์
แม้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคู่ฉบับจะมีข้อความว่า "1.ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมร่วมกันว่า โรงพยาบาล ฯ จ่ายเงิน จำนวน 280,000 บาท... ให้แก่ ศ. ผู้รับสัญญา เป็นค่าเยียวยาและมนุษยธรรม..." ซึ่งไม่ตรงตามข้อเท็จจริงก็ตาม แต่เมื่อมารดาโจทก์เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ 3 เขตนครราชสีมา เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 มาตรา 41 และได้รับแจ้งผลการพิจารณารวมถึงสิทธิในการยื่นอุทธรณ์แล้ว ในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความก่อนรับเงินจากจำเลยที่ 1 มารดาโจทก์ได้อ่านข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความ และลงชื่อโดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญใด ๆ ทั้งเมื่อพิจารณาใบสำคัญรับเงินก็มีข้อความระบุว่าเงินที่โจทก์ได้รับเป็นเงินของจำเลยที่ 3 สอดคล้องกับสำเนาเช็คที่ระบุชื่อจำเลยที่ 3 และระบุว่าเป็นการจ่ายเงินตามมติประชุมอนุกรรมการ มาตรา 41 จำนวนเงินก็สอดคล้องกับที่มารดาโจทก์ได้รับแจ้ง ทั้งภาพถ่ายก็ปรากฏว่าผู้ที่ถือป้ายที่เหน็บเช็คไว้ด้านบนเป็นเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 3 ในป้ายมีข้อความว่า สปสช. มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น มาตรา 41 พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่า มารดาโจทก์ทราบดีว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินของจำเลยที่ 3 การที่ระบุข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความว่าโรงพยาบาลเป็นผู้จ่ายเงินจึงยังไม่อาจถือได้ว่าทำให้โจทก์เสียหาย เนื่องจากมารดาโจทก์ทราบถึงสิทธิของตนว่ายังสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์เพื่อขอเงินเพิ่มและใช้สิทธิฟ้องร้องจำเลยที่ 2 กับพวกในข้อหาละเมิดได้ ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ในข้อหาละเมิดเป็นอีกคดีหนึ่งก่อนฟ้องคดีนี้ การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นการฉ้อฉลหลอกลวงมารดาโจทก์ให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์