คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 442

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งความรับผิดในคดีละเมิด: พิจารณาจากการกระทำละเมิดเป็นหลัก ไม่ใช่ความเสียหาย
ในเรื่องละเมิด ข้อที่ว่าฝ่ายไหนจะต้องรับผิดเพียงใดนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 ให้พิจารณาถึงพฤติการณ์ด้วยว่าฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร ต้องถือเอาการกระทำละเมิดมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ไม่ถือความเสียหายมากน้อยเป็นเกณฑ์ ดังนั้น เมื่อต่างฝ่ายต่างกระทำละเมิดต่อกันและมีส่วนประมาทพอๆ กัน จึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อทั้งสองฝ่าย ค่าเสียหายเป็นพับกันไป จำเลยไม่ต้องรับผิด
เมื่อคนขับรถยนต์ของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยต่างขับรถชนกันโดยความประมาทเลินเล่อมิได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน ก็เท่ากับว่าทั้งสองฝ่ายต่างทำละเมิดต่อกันเท่าๆ กันค่าเสียหายย่อมเป็นพับกันไปจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107-108/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ความเสียหายเป็นพับกันไป
ความเสียหายฐานละเมิดเกิดจากความประมาทเลินเล่อของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งร้ายแรงพอ ๆ กัน จึงพับกันไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททั้งสองฝ่ายและการแบ่งความรับผิดในความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากันโจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000 บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถยนต์: การแบ่งความรับผิดและค่าเสียหาย
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากัน โจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียหายจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการจดทะเบียนสิทธิที่ดินปลอม และความประมาทของผู้รับซื้อฝาก
จำเลยที่ 2 ผู้ช่วยหัวหน้าเขตที่ดินมีหน้าที่สอบสวนการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้แทนของกรมที่ดินจำเลยที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ของผู้ขายฝากโดยประมาทเลินเล่อจึงไม่ทราบว่าผู้ขายฝากไม่ใช่เจ้าของที่ดิน และรับจดทะเบียนขายฝากไป ทำให้โจทก์ผู้รับซื้อฝากเสียหายจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากที่ดินโดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่า โจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2 ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในนั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดในกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าหน้าที่ที่ดิน, ผู้รับซื้อฝาก และการประมาทเลินเล่อในการจดทะเบียนสิทธิที่ดิน
จำเลยที่ 2 ผู้ช่วยหัวหน้าเขตที่ดินมีหน้าที่สอบสวนการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้แทนของกรมที่ดินจำเลยที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ของผู้ขายฝากโดยประมาทเลินเล่อจึงไม่ทราบว่าผู้ขายฝากไม่ใช่เจ้าของที่ดินและรับจดทะเบียนขายฝากไปทำให้โจทก์ผู้รับซื้อฝากเสียหาย จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
โจทก์รับซื้อฝากที่ดิน โดยไม่ได้สืบสวนว่าจำเลยที่ 1เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดหรือไม่ แต่ให้คำรับรองต่อจำเลยที่ 2 ว่าโจทก์ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรง หากเกิดความผิดพลาดโจทก์ขอรับผิดชอบเอง ถือได้ว่าโจทก์มีส่วนส่งเสริมให้จำเลยที่ 2ประมาทนับว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วยควรร่วมรับผิดในผลละเมิดเป็นจำนวนหนึ่งในห้า
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดน้อยลง ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลตลอดถึงจำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329-2330/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ, การประนีประนอมยอมความมีเงื่อนเวลา, และผลของการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
จำเลยขับรถโดยใช้ความเร็วขณะฝนตกหนักและถนนลื่นจึงเสียหลักเข้าปะทะกับรถของโจทก์ซึ่งจอดคร่อมอยู่ในผิวจราจรถือได้ว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะจำเลยขับรถโดยประมาท แม้จะฟังว่าโจทก์จอดรถอยู่ในผิวจราจร 90 เซนติเมตร แต่ถนนบริเวณนั้นผิวจราจรกว้างถึง 8 เมตร ยังเหลือผิวจราจรกว้างพอที่จำเลยจะขับรถผ่านไปได้โดยสะดวก จึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์มีส่วนประมาทด้วย
โจทก์และจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายไว้ว่า จำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ หากจำเลยชำระเงินภายในกำหนด โจทก์จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีเงื่อนเวลาสิ้นสุดกำหนดไว้ เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด ข้อตกลงย่อมสิ้นผลบังคับ มูลหนี้ละเมิดจึงไม่ระงับ และเมื่อจำเลยยกเรื่องข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นข้อต่อสู้ว่ามูลหนี้ละเมิดระงับ ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าข้อตกลงตามเอกสารดังกล่าวมีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับหรือไม่ แม้โจทก์จะมิได้ยกประเด็นข้อนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2324/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ค่าเสียหายต่างกัน ไม่สมควรได้ค่าสินไหม
เหตุที่รถยนต์โจทก์ที่ 1 และรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ชนกัน เป็นเพราะจำเลยที่ 1 ผู้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 มีส่วนประมาทด้วย เมื่อประมาทไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน และรถจำเลยที่ 2 เสียหายน้อยกว่ารถโจทก์ที่ 1 มากเฉลี่ยแล้ว จำเลยที่ 2 ย่อมไม่สมควรจะได้ค่าสินไหมทดแทนจากโจทก์ที่ 1 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากทรัพย์อันตราย การประมาทเลินเล่อของผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ต้องเสียหาย
กระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์อันเกิดอันตรายได้โดยสภาพ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยผู้ผลิตและจำหน่ายเป็นผู้มีไว้ในครอบครองจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา437 การที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจรไหม้ทรัพย์สินของโจทก์เพราะเหตุที่ต้นมะพร้าวอยู่ใกล้ชิดกับแนวสายไฟฟ้าเป็นเหตุให้ทางมะพร้าวพาดไปถูกสายไฟฟ้าเมื่อมีลมพัด มิใช่เหตุสุดวิสัยเพราะจำเลยอาจป้องกันได้ถ้าตัดต้นมะพร้าวหรือแจ้งให้โจทก์ตัดอันเป็นหน้าที่จำเลย แต่โจทก์ไม่สนใจตัดต้นมะพร้าวในที่ดินที่โจทก์เช่าหรือแจ้งให้จำเลยตัดถือได้ว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไม่ยิ่งหย่อนกว่าจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงควรรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงครึ่งหนึ่ง
of 28