พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลวิกลจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 29: ขอบเขตและลักษณะอาการ
คำว่า บุคคลวิกลจริต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 นั้น มิได้หมายเฉพาะถึงบุคคลผู้มีจิตผิดปกติหรือตามที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นบ้าเท่านั้นไม่ แต่หมายรวมถึงบุคคลที่มีกิริยาอาการผิดปกติเพราะสติวิปลาส คือ ขาดความรำลึก ขาดความรู้สึก และขาดความรู้สึกผิดชอบด้วย เพราะบุคคลดังกล่าวนี้ไม่สามารประกอบกิจการงานของตนหรือประกอบกิจส่วนตัวของตนได้ทีเดียว
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา มีอาการพูดไม่ได้ หูไม่ได้ยิน ตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น มีอาการอย่างคนไม่มีสติสัมปชัญญะใด ๆ ไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 แล้ว.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2509)
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา มีอาการพูดไม่ได้ หูไม่ได้ยิน ตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น มีอาการอย่างคนไม่มีสติสัมปชัญญะใด ๆ ไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 แล้ว.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลวิกลจริต: ขอบเขตความหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 29 และการพิจารณาความเป็นผู้อนุบาล
คำว่า บุคคลวิกลจริต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 นั้น มิได้หมายเฉพาะถึงบุคคลผู้มีจิตผิดปกติหรือตามที่เข้าใจกันทั่วๆ ไปว่าเป็นบ้า เท่านั้นไม่ แต่หมายรวมถึงบุคคลที่มีกิริยาอาการผิดปกติเพราะสติวิปลาศ คือ ขาดความรำลึก ขาดความรู้สึก และขาดความรู้สึกผิดชอบด้วยเพราะบุคคลดังกล่าวนี้ไม่สามารถประกอบกิจการงานของตน หรือประกอบกิจส่วนตัวของตนได้ทีเดียว
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลามีอาการพูดไม่ได้ หูไม่ได้ยินตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น มีอาการอย่างคนไม่มีสติสัมปชัญญะใดๆ ไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 แล้ว
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลามีอาการพูดไม่ได้ หูไม่ได้ยินตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น มีอาการอย่างคนไม่มีสติสัมปชัญญะใดๆ ไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ยึดถือครอบครอง: แม้ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ ก็มีสิทธิฟ้องหากถูกรบกวน
โจทก์เป็นผู้ยึดถือครอบครองที่ดิน ได้ใช้น้ำและทางสัญจรไปมาทางคลองหนึ่งจนได้ภารจำยอมแล้ว เมื่อจำเลยได้ปิดขวางคลองนั้นแม้ที่ดินที่โจทก์ครอบครองจะอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามอันเป็นเหตุให้โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่แปลงนี้ก็ดีแต่เมื่อโจทก์ถูกรบกวนสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ยึดถือครอบครองจนได้รับความเสียหายโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ซึ่งรบกวนสิทธิของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์และสิทธิในการฎีกาของโจทก์
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 1 ปี และรอการลงโทษด้วย เป็นการแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์และสิทธิฎีกาของโจทก์
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 1 ปี และรอการลงโทษด้วย เป็นการแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสระหว่างคู่สมรสที่เลิกร้างกัน: ทรัพย์ที่ได้มาระหว่างร้างไม่เป็นสินสมรส
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสของสามีโจทก์ จากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก และจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมของสามีโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ให้ ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะไม่อุทธรณ์จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียวก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นผู้จะได้รับมรดกตามพินัยกรรม เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์พิพาทโดยตรง ทั้งถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ทรัพย์ที่สามีได้มาระหว่างร้างกันไม่เป็นสินสมรส(อ้างฎีกาที่ 84/2497 และฎีกาที่ 991/2501)
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ทรัพย์ที่สามีได้มาระหว่างร้างกันไม่เป็นสินสมรส(อ้างฎีกาที่ 84/2497 และฎีกาที่ 991/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสระหว่างคู่สมรสที่เลิกร้างกัน ทรัพย์ที่ได้มาระหว่างร้างไม่เป็นสินสมรส
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสของสามีโจทก์จากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก และจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมของสามีโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ให้ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะไม่อุทธรณ์ จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว็้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นผู้จะได้รับมรดกตามพินัยกรรม เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์พิพาทโดยตรง ทั้งถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ทรัพย์ที่สามีได้มาระหว่างร้างกันไม่เป็นสินสมรส (อ้างฎีกาที่ 84/2497 และฎีกาที่ 991/2501)
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ทรัพย์ที่สามีได้มาระหว่างร้างกันไม่เป็นสินสมรส (อ้างฎีกาที่ 84/2497 และฎีกาที่ 991/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบสันดานเด็กเกิดจากหญิงอยู่กินกับชายอื่นหลังสามีตาย บุตรเกิดหลัง 310 วัน ไม่เป็นบุตรตามกฎหมาย
เด็กซึ่งเกิดจากหญิงผู้ซึ่งได้อยู่กินกับชายฉันสามีภริยาหลังจากที่ชายได้ตายไปเกินกว่า 310 วันแล้ว ย่อมมิใช่บุตรของชายผู้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1519, 1520 และ 1521 และมาตรา 1519,1520,1521 นี้ย่อมนำมาใช้บังคับในกรณีที่ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสได้ ในเมื่อมีปัญหาว่าเด็กที่เกิดจากหญิงนั้นเป็นบุตรของชายที่อยู่กินด้วยกันหรือมิใช่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นบุตรเมื่อพ่อเสียชีวิตก่อนเด็กเกิด และการใช้กฎหมายกับคู่ความที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
เด็กซึ่งเกิดจากหญิงผู้ซึ่งได้อยู่กินกับชายฉันสามีภริยา หลังจากที่ชายได้ตายไปเกินกว่า 310 วันแล้ว ย่อมมิใช่บุตรของชายผู้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1519,1520 และ 1521 และมาตรา 1519,1520,1521 นี้ ย่อมนำมาใช้บังคับในกรณีที่ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสได้ ในเมื่อมีปัญหาว่าเด็กที่เกิดจากหญิงนั้นเป็นบุตรของชายที่อยู่กินด้วยกันหรือมิใช่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินในความผิดการพนัน: ตะเกียงไม่ใช่เครื่องมือในการเล่นพนัน
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 บัญญัติให้ริบทรัพย์สินไว้ 2 ประเภท คือ ทรัพย์สินพนันกันที่จับได้ในวงเล่น และเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน
แม้จะฟังว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมเล่นการพนันไพ่ผสมสิบพนันเอาทรัพย์สินกันที่ทุ่งนาในเวลากลางคืนโดยใช้ตะเกียงของกลางจุดให้แสงสว่างในการเล่นการพนัน ดังที่โจทก์ฟ้องก็ตาม ตะเกียงของกลางก็เพียงให้แสงสว่างเพื่อให้จำเลยกับพวกเล่นการพนันได้ถนัดหรือสะดวกขึ้นเท่านั้น หาใช่เครื่องที่ใช้ในการเล่นพนันไม่ ดังนี้ จึงไม่เป็นของที่จะริบได้ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478
แม้จะฟังว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมเล่นการพนันไพ่ผสมสิบพนันเอาทรัพย์สินกันที่ทุ่งนาในเวลากลางคืนโดยใช้ตะเกียงของกลางจุดให้แสงสว่างในการเล่นการพนัน ดังที่โจทก์ฟ้องก็ตาม ตะเกียงของกลางก็เพียงให้แสงสว่างเพื่อให้จำเลยกับพวกเล่นการพนันได้ถนัดหรือสะดวกขึ้นเท่านั้น หาใช่เครื่องที่ใช้ในการเล่นพนันไม่ ดังนี้ จึงไม่เป็นของที่จะริบได้ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478