คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ห้วน ประชาบาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้ที่ดินมีภารติดพันและการถอนคืนการให้เนื่องจากเนรคุณ แม้ราคาไม่สมเหตุสมผล
บิดาจำนองที่ดินไว้ ได้ตกลงให้บุตรออกเงินใช้หนี้และไถ่จำนองบุตรคนใดไม่ออกเงิน บิดาก็ไม่ยกที่ดินให้บุตรได้ออกเงินชำระหนี้ บิดาได้จดทะเบียนไถ่และจดทะเบียนยกที่พิพาทให้บุตรคนนั้นไปแล้วแม้จำนวนเงินที่บุตรออกให้ใช้หนี้ไป จะไม่สมกับราคาที่ดินก็ยังเป็นการให้สิ่งที่มีค่าภารติดพันในกรณีเช่นนี้ บิดาจะถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เช่าเคหะสิ้นสุดลง และสิทธิของผู้ให้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้เช่า
การที่ผู้เช่าทำสัญญาเช่าเคหะไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาหนึ่งเมื่อครบกำหนดแล้วผู้ให้เช่ากับผู้เช่าได้มีการต่ออายุสัญญาออกไปอีกโดยตกลงกันว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ต่อออกไปนี้แล้ว ผู้เช่ายินยอมจะออกไปจากที่เช่านั้น ถือได้ว่าได้รับความยินยอมจากผู้เช่าตามความหมายของมาตรา 17(5) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 แล้ว ผู้ให้เช่าจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมในการออกจากเคหะหลังหมดสัญญาเช่า: การต่ออายุสัญญาและการตกลงยินยอมออกไป ถือเป็นความยินยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่าเคหะ
การที่ผู้เช่าทำสัญญาเช่าเคหะไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาหนึ่ง เมื่อครบกำหนดแล้วผู้ให้เช่ากับผู้เช่าได้มีการต่ออายุสัญญาออกไปอีกโดยตกลงกันว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ต่อออกไปนี้แล้ว ผู้เช่ายินยอมจะออกไปจากที่เช่านั้น ถือได้ว่าได้รับความยินยอมจากผู้เช่าตามความหมายของมาตรา 17(5) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 แล้ว ผู้ให้เช่าจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ซื้อขาย: การค้าขายเพื่ออุตสาหกรรม vs. การค้าขายต่อ
การที่จะถืออายุความห้าปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1) ประกอบกับวรรคท้ายได้นั้น ต้องเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของให้ลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้เอาของนั้นไปประกอบอุตสาหกรรม แต่ถ้าเป็นหนี้ค่าซื้อของที่พ่อค้าขายเชื่อให้พ่อค้าอื่นไปขายอีกต่อหนึ่งแล้วไม่ใช่เป็นการที่เจ้าหนี้ทำไปเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ เพราะคำว่าอุตสาหกรรม นั้น หมายความถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น หามีความหมายไปถึงการค้าขายโดยตรงไม่ กรณีนี้จึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของไวยาวัจกร: หนังสือมอบอำนาจต้องปิดอากรแสตมป์
ไวยาวัจกรฟ้องคดีในนามของวัดผู้เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาท โดยอาศัยหนังสือซึ่งเจ้าอาวาสวัดแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรมีอำนาจหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดและดำเนินคดีแทนวัดหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ไวยาวัจกรก็ไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของไวยาวัจกรต้องมีเอกสารมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ปิดอากรแสตมป์) จึงจะสมบูรณ์
ไวยาวัจกรฟ้องคดีในนามของวัดผู้เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทโดยอาศัยหนังสือซึ่งเจ้าอาวาสวัดแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรมีอำนาจหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดและดำเนินคดีแทนวัดหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรเมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ไวยาวัจกรก็ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ซื้อเมื่อผู้ขายผิดสัญญาซื้อขาย: บังคับให้โอนทรัพย์สินได้ในราคาเดิม
ผู้ขายผิดสัญญาจะซื้อขาย ผู้ซื้อย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับให้ผู้ขายโอนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นให้ได้ในราคาที่ซื้อขายกันเดิมถ้าราคาเดิมนั้นเป็นราคาที่ไม่น้อยเกินสมควร ผู้ขายจะปฏิเสธไม่ยอมโอนโดยอ้างว่าราคาทรัพย์สินในขณะฟ้องนั้นสูงขึ้นมากหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานละเว้นการรายงานภาษีและเรียกรับผลประโยชน์เป็นการทุจริต ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154
เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตรวจสอบว่าโรงเรือนใดจะต้องเสียภาษีเมื่อตรวจพบโรงเรือนที่จะต้องเสียภาษีแล้วละเว้นไม่รายงานต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการเรียกเก็บภาษี และโดยทุจริตได้เรียกเอาทรัพย์เป็นค่าตอบแทนจากผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานละเว้นการรายงานภาษีโรงเรือนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154
เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตรวจสอบว่าโรงเรือนใดจะต้องเสียภาษี เมื่อตรวจพบโรงเรือนที่จะต้องเสียภาษ๊แล้วละเว้นไม่รายงานต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการเรียกเก็บภาษี และโดยทุจริตได้เรียกเอาทรัพย์เป็นค่าตอบแทนจากผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบวิชาชีพผดุงครรภ์เป็นการรับจ้างทำของตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร
การที่โจทก์ตั้งสถานพยาบาลและผดุงครรภ์โดยโจทก์ในฐานะนางผดุงครรภ์ จัดการให้ทารกคลอดจากครรภ์มารดาโดยมีสินจ้างซึ่งฝ่ายหญิงมีครรภ์ต้องจ่ายให้โจทก์เมื่อทำคลอดแล้วนั้นเป็นการรับจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587 ซึ่งต้องจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ.2504
of 38