พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน - การรับจำนำเกิน 400 บาท - สิทธิติดตามเอาคืน - เจ้าของกรรมสิทธิ์มีสิทธิเหนือผู้รับจำนำ
ผู้รับอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำจะถือเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ได้ก็ต่อเมื่อเป็นการรับจำนำทรัพย์ไว้ในราคารายละไม่เกินสี่ร้อยบาทหากรับจำนำไว้เกินสี่ร้อยบาท ก็เป็นเรื่องที่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้นผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้นผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์เมื่อจำนำเกิน 400 บาท: คุ้มครองตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำจำกัดเฉพาะราคาน้อยกว่า 400 บาทเท่านั้น
ผู้รับอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำจะถือเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ได้ ก็ต่อเมื่อเป็นการรับจำนำทรัพย์ไว้ในราคารายละไม่เกินสี่ร้อยบาท หากรับจำนำไว้เกินสี่ร้อย ก็เป็นเรื่องที่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้น ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้น ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766-767/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาโอนสิทธิการเช่าเพื่อชำระหนี้กู้ยืมที่ขัดต่อมาตรา 656 วรรค 2 พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ เป็นโมฆะ
ข้อสัญญาเด็ดขาดว่า เมื่อผู้กู้ไม่ใช้เงินต้องโอนสิทธิการเช่าให้แก่ผู้ให้กู้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าสิทธิแห่งการเช่านั้นมีราคาเท่าใดในท้องตลาดในเวลาส่งมอบ ย่อมขัดกับมาตรา 656 วรรค 2 ย่อมเป็นโมฆะตามวรรค 3 ตามนัยฎีกาที่ 779/2497 ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิฟ้องให้โอนสิทธิการเช่าดังกล่าว.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2506).
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2506).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766-767/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาโอนสิทธิการเช่าเพื่อชำระหนี้กู้ยืมที่เป็นโมฆะ หากมิได้ตกลงราคาตลาดของทรัพย์สิน
ข้อสัญญาเด็ดขาดว่า เมื่อผู้กู้ไม่ใช้เงินต้องโอนสิทธิการเช่าให้แก่ผู้ให้กู้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าสิทธิแห่งการเช่านั้นมีราคาเท่าใดในท้องตลาดในเวลาส่งมอบย่อมขัดกับมาตรา 656 วรรคสอง ย่อมเป็นโมฆะตามวรรคสาม ตามนัยฎีกาที่ 779/2497 ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิฟ้องให้โอนสิทธิการเช่าดังกล่าว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2506)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินในสัญญากู้ และผลกระทบต่อการบังคับคดีเมื่อไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงิน 22,500 บาท จำเลยปฏิเสธว่า ไม่ได้กู้ สัญญากู้ปลอม ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกู้จริง 2,500 บาท ส่วนเลข 2 และ คำว่า สองหมื่นโจทก์เติมลงไป จึงให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 2,500 บาท โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิด 22,500บาท จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังว่ามีการตกเติมจำนวนเงินให้มากขึ้นจริงแต่จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยรับผิด 2,500 บาทจึงไม่มีประเด็นสำหรับเงินจำนวนนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบจดข้อความเท็จ และความรับผิดของตัวการแม้ใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือ
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1,2 สมคบกันจดข้อความเท็จทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 2 ผู้เดียวเอาคนอื่นเป็นเครื่องมือในการจดเท็จ ดังนี้ จำเลยที่ 2 ย่อมเป็นตัวการในการกระทำความผิดข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาจึงไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดั่งที่กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันจดข้อความเท็จ การกระทำความผิดทางอาญาโดยใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือ และการรอการลงโทษ
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1, 2 สมคบกันจดข้อความเท็จทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 2 ผู้เดียวเอาคนอื่นเป็นเครื่องมือในการจดเท็จ ดังนี้ จำเลยที่ 2 ย่อมเป็นตัวการในการกระทำความผิด ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในการพิจารณาจึงไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดั่งที่กล่าวในฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงขายทรัพย์จำนองก่อนกำหนด & การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์
การที่ผู้จำนองตกลงให้ผู้รับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองไว้ก่อนหนี้ถึงกำหนดชำระ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 นั้นก็มีผลเพียงไม่สมบูรณ์โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องปฏิบัติตามข้อตกลงไม่ได้เท่านั้น แต่ถ้าผู้รับจำนองเอาทรัพย์นั้นขายให้แก่บุคคลอื่นตามข้อตกลง โดยผู้จำนองรู้เห็นด้วย และมิได้ทักท้วงอย่างใดทั้งผู้ซื้อก็ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ โดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลา 20 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อก็ได้กรรมสิทธิ์ ผู้จำนองจะรื้อฟื้นเอาความไม่สมบูรณ์นั้นมาว่ากล่าวขอไถ่ถอนจำนองอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองและการซื้อขายก่อนกำหนด: สิทธิของเจ้าหนี้และผู้ซื้อเมื่อข้อตกลงไม่สมบูรณ์แต่มีการยินยอม
การที่ผู้จำนองตกลงให้ผู้รับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองได้ก่อนหนี้ถึงกำหนดชำระ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 นั้นก็มีผลเพียงไม่สมบูรณ์โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องปฏิบัติตามข้อตกลงไม่ได้เท่านั้น แต่ถ้าผู้รับจำนองเอาทรัพย์นั้นขายให้แก่บุคคลอื่นตามข้อตกลง โดยผู้จำนองรู้เห็นด้วย และมิได้ทักท้วงอย่างใด ทั้งผู้ซื้อก็ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ โดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ดังนี้ ผู้ซื้อก็ได้กรรมสิทธิ์ ผู้จำนองจะรื้อฟื้นเอาความไม่สมบูรณ์นั้นมาว่ากล่าวขอไถ่ถอนจำนองอีกหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นแชร์ประมูลดอกเบี้ยไม่เป็นการกู้ยืมเงิน สิทธิของนายวงแชร์และการรับผิดของผู้ค้ำประกัน
การเล่นแชร์เปียหวยนั้น ผู้เล่นประมูลให้ดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายก็ได้ เพราะไม่เข้าลักษณะเป็นการกู้ยืมเงิน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้