คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ห้วน ประชาบาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชั่งน้ำหนักพยาน: หากไม่มีพยานชัดเจนแสดงความเท็จ สันนิษฐานว่าพยานอีกฝ่ายไม่ได้เบิกความเท็จ
คดีก่อนศาลยกฟ้องโจทก์โดยว่า คำพยานโจทก์ขัดกัน เป็นถ้อยคำที่น่าสงสัย ไม่มีน้ำหนัก ดังนี้ เป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักคำพยานว่าพยานฝ่ายใดดีกว่ากันเท่านั้น หากจำเลยในคดีนั้นไม่มีพยานอื่นใดมาแสดงให้ชัดแจ้งว่าพยานโจทก์เบิกความเท็จแล้ว ก็จะสันนิษฐานว่าพยานโจทก์เบิกความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาไม่ตัดสิทธิจำเลยในการนำสืบพยาน และการขอตั้งผู้เชี่ยวชาญร่วมกันย่อมมีผลผูกพัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรค 2 บัญญัติห้ามมิให้จำเลยเรียกพยานเข้าสืบเฉพาะกรณีที่ขาดนัดยื่นคำให้การเท่านั้นฉะนั้นเมื่อจำเลยเพียงแต่ขาดนัดพิจารณาแต่มิได้ขาดนัดยื่นคำให้การจำเลยจึงหาหมดสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานของตนเข้าสืบไม่
การขาดนัดพิจารณาในนัดหนึ่งนัดใด ถ้าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานหลักฐานเข้าสืบยังไม่หมด นัดต่อไปคู่ความที่ขาดนัดมาศาลก็ย่อมมีสิทธิที่จะถามค้านได้ เพราะไม่ใช่เป็นพยานที่ได้สืบไปแล้ว
การที่คู่ความแถลงร่วมกันขอให้ศาลตั้งผู้เชียวชาญแล้วแม้ต่อมาจะไม่ตกลงกันในเรื่องค่าใช้จ่ายและในที่สุดฝ่ายหนึ่งได้ขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญไปฝ่ายเดียว ดังนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกลับมาคัดค้านภายหลังหาได้ไม่
การขออ้างพยานเพิ่มเติม แม้จะล่วงเวลาหลังจากสืบพยานฝ่ายตรงข้ามแล้วถ้าศาลเห็นมีเหตุสมควร ก็มีอำนาจอนุญาตได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณา ไม่ตัดสิทธิการนำสืบพยาน หากจำเลยได้ยื่นคำให้การสู้คดีไว้แล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 199 วรรค 2 บัญญัติห้ามมิให้จำเลยเรียกพยานเข้าสืบเฉพาะกรณีที่ขาดนัดยื่นคำให้การเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยเพียงแต่ขัดนัดพิจารณาแต่มิได้ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยจึงหาหมดสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานของตนเข้าสืบไม่
การขัดนัดพิจารณาในนัดหนึ่งนัดใด ถ้าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานหลักฐานเข้าสืบยังไม่หมด นัดต่อไปคู่ความที่ขาดนัดมาศาลก็ย่อมมีสิทธิที่จะถามค้านได้เพราะไม่ใช่เป็นพยานที่ได้สืบไปแล้ว
การที่คู่ความแถลงร่วมกันขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้ว แม้ต่อมาจะไม่ตกลงกันในเรื่องค่าใช้จ่าย และในที่สุดฝ่ายหนึ่งได้ขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญไปฝ่ายเดียว ดังนี้อีกฝ่ายหนึ่งจะกลับมาคัดค้านภายหลังหาได้ไม่
การขออ้างพยานเพิ่ม แม้จะล่วงเวลาหลังจากสืบพยานฝ่ายตรงข้ามแล้ว ถ้าศาลเห็นมีเหตุสมควร ก็มีอำนาจอนุญาตได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351-352/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความเอกสารใบรับเงินค่าหม้อมิเตอร์: การนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายลักษณะการชำระเงิน
บริษัทที่ตั้งโรงผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าแก่ประชาชน ออกใบเสร็จรับเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีข้อความสำคัญแต่เพียงว่าบริษัทได้รับเงินจากผู้ใด ชำระค่าหม้อมีเตอร์ขนาดใด เป็นเงินเท่าใด เมื่อวันที่เท่าใด การชำระเงินเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง และตามเอกสารนี้ก็ไม่มีถ้อยคำบ่งชัดว่ารับชำระราคาค่าซื้อขายหม้อแอมป์มีเตอร์หรือว่ารับชำระค่าประกันหม้อแอมป์มีเตอร์ การที่ผู้ใช้ไฟฟ้านำสืบพยานบุคคลว่า เงินที่ชำระนี้เป็นค่าประกันหม้อแอมป์มีเตอร์ โดยบริษัทตกลงไว้ว่าบริษัทจะคืนเงินนี้ให้เมื่อเลิกใช้ไฟฟ้า จึงเป็นการสืบอธิบายข้อความในเอกสาร การนำสืบเช่นนี้จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 (ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษนักโทษที่กระทำความผิดซ้ำระหว่างต้องโทษจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93
ผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 12 ปีฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาระหว่างต้องโทษได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายซ้ำอีก นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 ย่อมเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลังนี้ด้วย
โทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น เมื่อมีกรณีเพิ่มโทษและลดโทษเสมอกันแล้วก็ย่อมหักกลบลบกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษนักโทษที่กระทำความผิดซ้ำระหว่างต้องโทษคดีเดิม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93
ผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 12 ปี ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ระหว่างต้องโทษได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายซ้ำอีก นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 ย่อมเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งตามโทษที่ศาลกำหนด สำหรับความผิดครั้งหลังด้วย
โทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น เมื่อมีกรณีเพิ่มโทษและลดโทษเสมอกันแล้ว ก็ย่อมหักกลบลบกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การชดใช้ค่าเสียหายจากการละเมิดสิทธิ และผลผูกพันของสัญญา
น้องชายจำเลยฉุดคร่าพาบุตรสาวที่อยู่ในความปกครองของโจทก์ไป อันเป็นการละเมิดเมื่อจำเลยมาขอขมาผูกพันทำสัญญาให้เงินแก่โจทก์เป็นการตอบแทนที่โจทก์ยอมให้บุตรได้อยู่กินกับน้องจำเลยนั้น สัญญาเช่นนี้ เป็นสัญญาตกลงกันระงับข้อพิพาทอันปรับได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งบังคับกันได้ตามกฎหมาย หาใช่เป็นการให้ตามหน้าที่ในทางศีลธรรมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การตกลงชดใช้ค่าเสียหายจากการละเมิดเพื่อระงับข้อพิพาท
น้องชายจำเลยฉุดคร่าพาบุตรสาวที่อยู่ในความปกครองของโจทก์ไป อันเป็นการละเมิด เมื่อจำเลยมาขอขมาผูกพันทำสัญญาให้เงินแก่โจทก์เป็นการตอบแทนที่โจทก์ยอมให้บุตรได้อยู่กินกับน้องจำเลยนั้น สัญญาเช่นนี้ เป็นสัญญาตกลงกันระงับข้อพิพาทอันปรับได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งบังคับกันได้ตามกฎหมาย หาใช่เป็นการให้ตามหน้าที่ในทางศีลธรรมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบ แม้ผู้เช่าอยู่ต่างประเทศ โดยผ่านตัวแทน และการแสดงเจตนาถึงผู้เช่า
ผู้เช่าไปต่างประเทศ ได้มอบอำนาจคนอื่นเป็นตัวแทนไว้และผู้ให้เช่ากับตัวแทนได้ติดต่อเรื่องส่งค่าเช่าและไม่ยอมรับเงินธนาณัติค่าเช่ากันได้ตลอดมา ครั้นโจทก์ส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังสำนักงานเดิมของตัวแทนนั่นเอง แต่กลับหาตัวคนรับไม่ได้ แต่ในระยะเดียวกันตัวแทนกลับส่งธนาณัติค่าเช่ามาให้อีก โดยระบุตำบลที่อยู่เดิมอันแสดงว่าตัวแทนยังอยู่ที่เดิม และเมื่อส่งทางไปรษณีย์ไม่ได้ ผู้ให้เช่ายังเอาคำบอกเลิกไปปิดไว้ ณ ที่เช่าอีก ยังมีผู้ฉีกเอาไปให้พวกพ้องของโจทก์ได้ดูด้วย และเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในบ้านนั้น ตัวแทนก็ไปแจ้งความหาว่าบุกรุก พฤติการณ์ทั้งนี้เห็นได้ว่าผู้ให้เช่าได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าการแสดงเจตนาของฝ่ายผู้ให้เช่าถือว่าไปถึงฝ่ายผู้เช่าแล้ว (อ้างฎีกาที่ 97/2496) สัญญาเช่าย่อมระงับไป
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 41/2505

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่า: การแสดงเจตนาถึงผู้เช่าผ่านตัวแทน แม้ผู้เช่าอยู่ต่างประเทศ และผลกระทบต่อสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้เช่าไปต่างประเทศ ได้มอบอำนาจคนอื่นเป็นตัวแทนไว้และผู้ให้เช่ากับตัวแทนได้ติดต่อเรื่องส่งค่าเช่าและไม่ยอมรับเงินธนาณัติค่าเช่ากันได้ตลอดมา ครั้นผู้ให้เช่าส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังสำนักงานเดิมของตัวแทนนั่นเองแต่กลับหาตัวคนรับไม่ได้ แต่ในระยะเดียวกันตัวแทนกลับส่งธนาณัติค่าเช่ามาให้อีก โดยระบุตำบลที่อยู่เดิมอันแสดงว่าตัวแทนยังอยู่ที่เดิม และเมื่อส่งทางไปรษณีย์ไม่ได้ ผู้ให้เช่ายังเอาคำบอกเลิกไปปิดไว้ ณ ที่เช่า ยังมีผู้ฉีกเอาไปให้พวกพ้องของผู้เช่าได้ดูด้วย และเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในบ้านเช่านั้นตัวแทนก็ไปแจ้งความหาว่าบุกรุก พฤติการณ์ทั้งนี้เห็นได้ว่า ผู้ให้เช่าได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าการแสดงเจตนาของฝ่ายผู้ให้เช่าถือว่าไปถึงฝ่ายผู้เช่าแล้ว(อ้างฎีกาที่ 97/2496) สัญญาเช่าย่อมระงับไป
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 41/2505)
of 38