พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดหลุมส้วมใกล้เขตที่ดิน: ข้อจำกัดและผลกระทบ
จะขุดหลุมส้วมในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไม่ได้แม้จะได้ใช้ความระมัดระวังตามควร เพื่อป้องกันมิให้ทรายพังลงหรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมได้ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดหลุมส้วมใกล้แนวเขตที่ดิน: ห้ามขุดภายใน 2 เมตร แม้ใช้ความระมัดระวัง
จะขุดหลุมส้วมในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไม่ได้ แม้จะได้ใช้ความระมัดระวังตามควรเพื่อป้องกันมิให้ทรายพังลงหรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมได้ก็ตาม
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2505)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายเครื่องหมายทะเบียนปืน ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 369 ที่คุ้มครองเอกสารประกาศหรือโฆษณาของเจ้าพนักงาน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุด ฉีก หรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใด ๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้นผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 หากไม่ใช่ประกาศหรือเอกสารโฆษณา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุดฉีกหรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใดๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้น ผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงปากเปล่าเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการทำถนน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสัญญากู้ สามารถนำสืบพยานได้และหักกลบลบหนี้ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลย จำเลยชำระราคายังไม่ครบเงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยทำถนนเสร็จแล้วเมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกแล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ ข้อตกลงเช่นนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ จำเลยจึงนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 และหนี้ดังกล่าวก็อยู่ในลักษณะที่อาจหักกลบลบหนี้กันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความโอนที่ดินมือเปล่าไม่ถือเป็นการส่งมอบการครอบครอง สิทธิยังอยู่กับเจ้าของเดิม
สามีจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่า ซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองอย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินนั้นยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหนี้อื่นของจำเลยมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังยอมความ ศาลตัดสินว่าการยอมความยังไม่ทำให้สิทธิครอบครองเปลี่ยนมือ
สามีของจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่าซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้วนั้น ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองแต่อย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหน้อื่นของจำเลยจึงมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าใหม่ต่อสิ่งปลูกสร้างของอดีตผู้เช่าที่ดิน ซึ่งไม่มีนิติสัมพันธ์กัน
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่จะฟ้องขับไล่หรือให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ปลูกจากผู้เช่าคนเดินไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งจำเลยก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่และรื้อถอน ขึ้นอยู่กับนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟ้องกับผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่ จะฟ้องขับไล่และให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่มีผู้ปลูกไว้โดยได้รับอนุญาตจากผู้เช่าคนเดิมไม่ได้เพราะโจทก์กับผู้นั้นต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และผู้นั้นก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของพินัยกรรมและการเรียกร้องสิทธิในมรดก โดยมีข้อโต้แย้งเรื่องการตอบแทนและพินัยกรรมใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มารดาของโจทก์จำเลยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จำเลยและหลาน ดังสำเนาท้ายฟ้องโจทก์ไปขอรับมรดกที่ดินตามรายการข้อ 1 ของพินัยกรรมครึ่งหนึ่งจำเลยร้องคัดค้านเจ้าพนักงานจึงงดการรับมรดกไว้ และสั่งให้โจทก์ฟ้องต่อศาล ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้นเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายการที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน)ทำศพ ตามคำสั่งของผู้ตายแล้ว ดังนี้ แม้รายการข้อ 1ของพินัยกรรมท้ายฟ้องจะว่าที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์จำเลยบุตรจัดการขาย นำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เมื่อตาย แต่เมื่ออ่านประกอบฟ้องก็พอจะได้ความว่ามิใช่กรณีรับมรดกเฉยๆ หากแต่มีการกระทำของโจทก์เป็นการตอบแทนอยู่ ครั้นเมื่อจำเลยให้การ จำเลยมิได้เถียงถึงสิทธิของโจทก์อันจะได้จากพินัยกรรมนี้เลย เป็นแต่เถียงว่าผู้ตายทำพินัยกรรมใหม่แล้วยกเลิกพินัยกรรมที่โจทก์อ้าง ประเด็นในคดีคงมีแต่เพียงว่าพินัยกรรมที่ฝ่ายใดอ้างเป็นพินัยกรรมที่ใช้ได้ ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป จะว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกครึ่งหนึ่ง และพิพากษายกฟ้องเสียโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงต่อไปนั้น ไม่ชอบ