พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงมูลหนี้จากซื้อข้าวสารเป็นสัญญากู้ ไม่ถือว่าแตกต่างจากฟ้องเดิม หากจำเลยยังคงมีหน้าที่รับผิดตามสัญญา
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป รับเงินไปตามสัญญา และได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ไว้ ตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง แม้ได้ความตามทางพิจารณาว่า การกู้ยืมรายนี้มีมูลกรณีมาจากการที่จำเลยยืมเงินโจทก์ ซื้อข้าวหรือเชื่อข้าวสาร ของโจทก์แล้วสัญญาว่าจะใช้ด้วยข้าวเปลือกดังโจทก์นำสืบก็ดี แต่ภายหลังจำเลยไม่เอาข้าวเปลือกใช้หนี้ แต่มาทำสัญญากู้ให้แก่โจทก์ไว้ในภายหลังตามสัญญากู้ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องและจำเลยยังไม่ได้ใช้หนี้ กรณีเช่นนี้เป็นแต่เพียงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงว่ามูลกรณีแห่งการกู้ยืมรายนี้เป็นมาอย่างไร ไม่ใช่เรื่องได้ความแตกต่างผิดไปจากฟ้องทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ เพราะจำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ว่ามีหนี้สินเดิมกับโจทก์ มาจริงเนื่องจากการซื้อเชื่อข้าวสารโจทก์และจำเลยก็ได้เอาข้าวเปลือกชำระไปจนหมดหนี้สินแล้วไม่มีพันธะต่อกัน ลายมือชื่อในสัญญาไม่ใช่ลายมือของจำเลย หากแต่จำเลยนำสืบไม่สม จำเลยต้องใช้หนี้ตามโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับพินัยกรรมในการเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและการรับมรดกในคดีบังคับคดี
ในชั้นบังคับคดีนั้น แม้ผู้ร้องจะร้องว่า โจทก์ได้ทำพินัยกรรมยกที่พิพาทโจทก์ชนะคดี ให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงขอเข้ารับมรดกความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ดี ศาลก็ชอบที่จะส่งไปตามสิทธิที่ผู้ร้องมีอยู่ในฐานะเป็นผู้รับพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 ให้เข้าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแทนโจทก์ และดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้ หาถึงกับทำให้คำร้องของผู้ร้องเสียไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับพินัยกรรมในการเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและการบังคับคดีแทนโจทก์ผู้มรณะ
ในชั้นบังคับคดีนั้น แม้ผู้ร้องจะร้องว่าโจทก์ได้ทำพินัยกรรมยกที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดีให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงขอเข้ารับมรดกความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ดี ศาลก็ชอบที่จะสั่งไปตามสิทธิที่ผู้ร้องมีอยู่ในฐานะเป็นผู้รับพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 ให้เข้าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแทนโจทก์ และดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้ หาถึงกับทำให้คำร้องของผู้ร้องเสียไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การเกินกำหนด: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและความจงใจของจำเลยก่อนมีคำสั่ง
การที่จำเลยยื่นคำให้การเกินกำหนดศาลจะอนุญาตให้ยื่นได้หรือไม่ ต้องพิจารณาว่า การที่จำเลยไม่ได้ยื่นภายในกำหนดนั้น เป็นเพราะจำเลยจงใจหรือไม่จงใจ หรือเพราะมีหรือไม่มีเหตุสมควรประการอื่น ถ้าปรากฎว่าจำเลยมิได้จงใจหรือจำเลยมีเหตุที่เกิดความจำเป็นแก่จำเลยอันสมควรผ่อนผันให้ได้ ก็ให้ศาลรับคำให้การไว้
ในกรณีดังกล่าวนี้ ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฎชัดว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ หรือว่าจำเลยมีเหตุสมควรประการอื่นอย่างใด ศาลชอบที่จะได้ทำการไต่สวนเสียก่อนก่อนที่จะมีคำสั่งไม่อนุญาต
ในกรณีดังกล่าวนี้ ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฎชัดว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ หรือว่าจำเลยมีเหตุสมควรประการอื่นอย่างใด ศาลชอบที่จะได้ทำการไต่สวนเสียก่อนก่อนที่จะมีคำสั่งไม่อนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การเกินกำหนด ศาลต้องพิจารณาเหตุผล หากมิได้จงใจหรือมีเหตุสมควร ศาลควรอนุญาต
การที่จำเลยยื่นคำให้การเกินกำหนด ศาลจะอนุญาตให้ยื่นได้หรือไม่ ต้องพิจารณาว่า การที่จำเลยไม่ได้ยื่นภายในกำหนดนั้น เป็นเพราะจำเลยจงใจหรือไม่จงใจ หรือเพราะมีหรือไม่มีเหตุสมควรประการอื่น ถ้าปรากฏว่าจำเลยมิได้จงใจหรือจำเลยมีเหตุที่เกิดความจำเป็นแก่จำเลยอันสมควรผ่อนผันให้ได้ ก็ให้ศาลรับคำให้การไว้
ในกรณีดังกล่าวนี้ ถ้าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ หรือว่าจำเลยมีเหตุสมควรประการอื่นอย่างใด ศาลชอบที่จะได้ทำการไต่สวนเสียก่อน ก่อนที่จะมีคำสั่งไม่อนุญาต
ในกรณีดังกล่าวนี้ ถ้าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ หรือว่าจำเลยมีเหตุสมควรประการอื่นอย่างใด ศาลชอบที่จะได้ทำการไต่สวนเสียก่อน ก่อนที่จะมีคำสั่งไม่อนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้ายังไม่ได้จดทะเบียน: การประดิษฐ์เครื่องหมายก่อนและการไม่มีสิทธิฟ้องร้อง
การที่บุคคลใดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าขึ้นเพื่อสำแดงว่าสินค้านั้น ๆ เป็นของตน แม้จะยังไม่ได้สำแดงกับสินค้าของตน ก็ย่อมถือเป็นเครื่องหมายการค้าตามนัยแห่งมาตรา 1 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474
ตราบใดที่เครื่องหมายการค้าของบุคคลใดยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าถูกละเมิดสิทธิโดยถูกลอกหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29
ตราบใดที่เครื่องหมายการค้าของบุคคลใดยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าถูกละเมิดสิทธิโดยถูกลอกหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าและการคุ้มครองสิทธิ: สิทธิเกิดจากการจดทะเบียน
การที่บุคคลใดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าขึ้นเพื่อสำแดงว่า สินค้านั้นๆเป็นของตน แม้จะยังไม่ได้สำแดงกับสินค้าของตน ก็ย่อมถือเป็นเครื่องหมายการค้าตามนัยแห่ง มาตรา 3พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474
ตราบใดที่เครื่องหมายการค้าของบุคคลใดยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาล เพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าถูกละเมิดสิทธิ โดยถูกลอกหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29
ตราบใดที่เครื่องหมายการค้าของบุคคลใดยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาล เพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าถูกละเมิดสิทธิ โดยถูกลอกหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีทุนทรัพย์เกินห้าพันบาท แต่สละข้อหาบางส่วน ทำให้เหลือทุนทรัพย์น้อยกว่าห้าพันบาท ไม่อาจฎีกาข้อเท็จจริงได้
ทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิม แม้จะเกินห้าพันบาทแต่คู่ความได้สละข้อหาบางข้อเสียตั้งแต่ในศาลชั้นต้นคงเหลือทุนทรัพย์พิพาทกันต่อมาราคาเพียงสามพันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยในการบังคับจำเลยเช่นนี้ คู่ความจะฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเช่าที่แท้จริงสำคัญกว่าข้อตกลงในสัญญา หากมีหลักฐานว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
แม้จะระบุในสัญญาเช่าว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้าก็ดี จำเลยก็นำสืบว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียว ตลอดมาได้ เพราะเป็นการนำสืบถึงเจตนาอันแท้จริง และความจริงที่จำเลยปฏิบัติซึ่งหากได้ความว่า จำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยแล้ว จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาที่แท้จริงของการเช่าสำคัญกว่าข้อตกลงในสัญญา หากผู้เช่าได้เช่าเพื่ออยู่อาศัยตั้งแต่แรก สัญญาเช่าเพื่อค้าจึงไม่ผูกพัน
แม้จะระบุในสัญญาเช่าว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้าก็ดี จำเลยก็นำสืบว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียวตลอดมาได้ เพราะเป็นการนำสืบถึงเจตนาอันแท้จริง และความจริงที่จำเลยปฏิบัติ ซึ่งหากได้ความว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยแล้ว จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ