คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสนอ บุณยเกียรติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 664 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสื่อปรือรองโขกโบกเป็นเครื่องมือพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องใช้ดุลพินิจ
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย 2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริงแต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อปรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้ 3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองการริบหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลแต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบก็สั่งไม่ริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์คดีขับไล่: กรณีบริวารของผู้เช่าอ้างประเด็นใหม่ ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง หากมีกรณีพิพาทในชั้นบังคับคดีแก่บริวารของผู้เช่า โดยผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นบริวารตั้งประเด็นพิพาทโต้แย้งขึ้นมาใหม่ ไม่เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเดิม ทั้งตามรูปเรื่องไม่เป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้ว ย่อมอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินเช่า: การละเมิดต่อผู้เช่าเดิม vs. ผู้เช่าใหม่ และหลักการรอนสิทธิ
เรือนที่จำเลยปลูกสร้างให้ชายคารุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะสร้างขึ้นหลังจากที่โจทก์ได้เช่าที่ดินแล้วก็ตาม เมื่อแนวชายคานั้นไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนที่โจทก์จะมาเช่าที่แปลงนั้นแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนชายคานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนำที่ดินที่มีพฤติการณ์คล้ายขายฝาก หากไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่ดินตกเป็นของผู้นำจำนำ
เมื่อหลักฐานในสำนวนฟังได้ว่าการจำนำที่ดินพิพาทได้ปฏิบัติต่อกันอย่างขายฝาก คือ ผู้จำนำได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำครอบครองทำกินต่างดอกเบี้ย แม้จะได้ทำสัญญาจำนำไว้ก็ดี (ทำสัญญาจำนำที่ดินมีโฉนด โดยจดทะเบียนไว้ที่หอทะเบียนที่ดิน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2466 โดยมีข้อสัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยให้ชั่งละ 1 บาท 25 สตางค์ ต่อเดือน และยอมให้ผู้รับจำนำถือโฉนดไว้) ก็ต้องถือตามกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันมาว่า เป็นจำนำหรือขายฝาก เมื่อพฤติการณ์เป็นขายฝากและไม่ไถ่ใน 10 ปี ที่พิพาทย่อมหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสังหาริมทรัพย์เกิน 500 บาท การส่งมอบทำให้สัญญาเสร็จเด็ดขาด แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ราคาตั้งแต่ 500 บาท หรือกว่านั้นขึ้นไป ถ้าผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมเป็นเรื่องการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้ไม่ทำหลักฐานเป็นหนังสือ ผู้ขายก็ฟ้องร้องให้ชำระราคาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายข้าวสารแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลผูกพัน เมื่อมีการส่งมอบข้าวสารแล้ว ถือเป็นสัญญาซื้อขายสมบูรณ์
การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ราคาตั้งแต่ 500 บาทหรือกว่านั้นขึ้นไป ถ้าผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมเป็นเรื่องการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้ไม่ทำหลักฐานเป็นหนังสือ ผู้ขายก็ฟ้องร้องให้ชำระราคาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบกิจการในไทยโดยตัวแทนต่างประเทศ: ภาษีเงินได้และภาษีการค้า
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าบริษัทในต่างประเทศ มีบริษัทโจทก์เป็นผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยแล้ว กรณีภาษีเงินได้ย่อมต้องปรับบทตามประมวลรัษฎากรมาตรา 76 ทวิ ซึ่งบัญญัติให้ถือว่า บริษัทในต่างประเทศนั้นประกอบกิจการในประเทศไทยและให้ถือว่าบริษัทโจทก์เป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศนั้นและบริษัทโจทก์ย่อมมีหน้าที่ และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีตามความที่บัญญัติไว้นั้น แต่จะนำมาตรา 76 ทวินี้ไปใช้กับกรณีภาษีการค้าหาได้ไม่ เพราะอยู่ต่างส่วนต่างหมวดกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าบริษัทโจทก์ เป็นแต่เพียงผู้ติดต่อแทน บริษัทในต่างประเทศเฉพาะในกิจการลงนามในสัญญาการทวงถามให้จ่ายเงินตามสัญญา การจัดให้มีการออกใบรับเงินและการรับส่งวัสดุเครื่องอุปกรณ์ตามสัญญาซึ่ง เป็นการกระทำเป็นผู้ติดต่อในกิจการเฉพาะรายตามสัญญาเท่านั้น จะถือว่าได้มีการประกอบหรือดำเนินการค้าเป็นปกติธุระอันมีบริษัทโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าแทนยังไม่ได้ บริษัทโจทก์จึงไม่ต้องรับผิดในภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758-1762/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกแถว: การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เกิดขึ้นเมื่อจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้
ในคดีที่ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากตึกแถวที่ให้เช่าจะมีประเด็นว่าจำเลยผู้เช่า เช่าเพื่อประกอบการค้าหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ต่อเมื่อจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อกรณีจะเกิดเป็นประเด็นต่อเมื่อจำเลยอ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ก็ไม่จำต้องกล่าวเป็นประเด็นมาในฟ้องในข้อนี้
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถลงของจำเลยต่อศาลที่ไม่ใช่การแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 แม้จะไม่ได้ยืนยันความถูกต้องของเอกสาร
การที่จำเลยแถลงต่อศาลโดยศาลนัดพร้อมและสอบถามเพื่อรับรองข้อเท็จจริงในคดี โดยจำเลยมิได้แถลงปฏิเสธหรือยืนยันอย่างใดนั้น จึงมิใช่เป็นการแจ้งความเท็จตามความแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเรือนพิพาทบนที่ดินเช่า: ความสมบูรณ์ของสัญญาและการมีเจตนาที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้ขายขายบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่เช่าจากสำนักงานทรัพย์สินฯได้รับชำระราคาครบถ้วน และมอบให้ผู้ซื้อเข้าอยู่อาศัยแล้ว แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะผู้ขายอ้างว่าหากไปทำโอนกันสำนักงานทรัพย์สินฯทราบเรื่องเข้าจะหาว่าผิดสัญญาและเลิกสัญญาเช่าที่ดิน ซึ่งผู้ซื้อก็ยอม ดังนี้ แสดงว่าคู่กรณีมิได้มีเจตนาจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายมาแต่แรกแล้ว สัญญาซื้อขายจึงเป็นโมฆะและจะถือว่าคู่กรณีตั้งใจจะให้สมบูรณ์ในฐานเป็นสัญญาจะซื้อขายก็ไม่ได้
of 67