พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่เจตนาแท้จริงเป็นการจำนอง ศาลต้องบังคับตามจำนอง
โจทก์ขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าเจตนาแท้นั้นตกลงกันทำจำนองสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางจึงเป็นโมฆะบังคับไม่ได้
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินและการจดทะเบียนที่ดิน: พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจขัดขวางการจดทะเบียนโดยไม่ชอบ
ไม่มีบทกฎหมายในที่ใดว่า คนไทยจะถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนก่อน หรือว่าจะมีกฎหมายให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนให้หน่วงเหนี่ยวขัดขวางการรับจดทะเบียนไว้ได้ตามอำเภอใจพระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2486 ซึ่งแก้ไข พ.ศ.2492 ก็ได้แต่เพียงบัญญัติให้บุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ระบุไว้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขึ้นตามประมวลกฎหมายเท่านั้น หาได้มีข้อความใดที่จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอนุญาตการซื้อขาย หรือหน่วงเหนี่ยวขัดขวางการขอจดทะเบียนนิติกรรมของราษฎรไว้ได้ไม่ ตรงกันข้ามกลับมีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 26 ระบุไว้อีกว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในทรัพย์สินฯลฯ ทั้งนี้ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย" ฉะนั้นการที่ราษฎรคนไทยขอให้นายอำเภอในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการเพื่อทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินให้ตน แต่นายอำเภออ้างว่าผู้ร้องมีบิดาเป็นคนต่างด้าว จึงต้องทำการสอบสวน และส่งเรื่องไปให้กรมที่ดินก่อนตามที่กระทรวงมหาดไทยวางระเบียบไว้ โดยที่ปรากฏอยู่ตามคำพิพากษาของศาลแล้วว่า ผู้นั้นเป็นคนสัญชาติไทย นั้น ย่อมเป็นข้ออ้างที่ปราศจากมูลที่จะหน่วงเหนี่ยวขัดขวางการรับจดทะเบียนนิติกรรมเสียเลยการกระทำของนายอำเภอจึงเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายย่อมเป็นการกระทำละเมิด และจะอ้างว่า มีบุคคลอื่นใช้ให้ทำก็หาทำให้พ้นจากความรับผิดไม่ และระเบียบของกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวหากจะมีจริงก็มิใช่กฎหมาย และไม่มีกฎหมายอันใด ให้อำนาจให้ออกระเบียบเช่นนั้นได้ ฉะนั้นจะใช้บังคับแก่ประชาชน จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่เขานั้น ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินของคนไทย: พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจขัดขวางการจดทะเบียนโดยไม่ชอบ
ไม่มีบทกฎหมายในที่ใดว่า คนไทยจะถือกรรมสิทธิที่ดินจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนก่อน หรือว่าจะมีกฎหมายให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนให้หน่วงเหนียวขัดขวางการรับจดทะเบียนไว้ตามอำเภอใจ พ.ร.บ.ว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2486 ซึ่งแก้ไข พ.ศ.2492 ก็ได้แต่เพียงบัญญัติให้บุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ระบุไว้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขึ้นตามประมวลกฎหมายเท่านั้น หาได้ม่ข้อควาามใดที่จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอนุญาตการซื้อขาย หรือหน่วงเหนียวขัดขวางหารขอจดทะเบียนนิติกรรมของราษฎรไว้ได้ไม่ ตรงกันข้ามกลับมีบายัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 26 ระบุไว้อีกว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในทรัพย์สิน ฯลฯ ทั้งนี้ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย" ฉะนั้นการที่ราษฎรคนไทยขอให้นายอำเภอในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการเพื่อทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินให้ตน แต่นายอำเภออ้างว่าผู้ร้องมีบิดาเป็นคนต่างด้าว จึงต้องทำการสอบสวน และส่งเรื่องไปให้กรมที่ดินก่อนตามที่กระทรวงมหาดไทย วางระเบียบไว้ โดยที่ปรากฎอยู่ตามคำพิพากษาของศาลแล้วว่า ผู้นั้นเป็นคนสัญชาติไทย นั้น ย่อมเป็นข้ออ้างที่ปราศจากมูลที่จะหน่วงเหนียวขัดขวางการรับจดทะเบียนนิติกรรมเสียเลย การกระทำนายอำเภอจึงเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายย่อมเป็นการกระทำละเมิดและจะอ้างว่า มีบุคคลอื่นใช้ให้ทำก็หาให้พ้นจากความรับผิดไม่ และระเบียบของกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวหากจะมีจริงก็มิใช่กฎหมาย และไม่มีกฎหมายอันใด ให้อำนาจให้ออกระเบียบเช่นนั้นได้ ฉะนั้นจะใช้บังคับแก่ประชาชน จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่เขานั้น ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834-835/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมีตราจองต้องทำที่หอทะเบียนที่ดิน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ และการได้สิทธิครอบครองปรปักษ์
การทำสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีตราจองแล้ว ต้องทำกัน ณ ที่หอทะเบียนที่ดิน จึงจะสมบูรณ์ จะทำกันที่อำเภอไม่ได้ตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจให้สรรพสามิตต์อำเภอทำสัญญาซื้อขายที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย
นายอำเภอป่วยไม่ได้มาทำงาน ปลัดอำเภอเป็นผู้ทำการแทนนายอำเภอแล้ว ไปราชการเสียได้มอบให้สรรพสามิตต์อำเภอทำการแทน สรรพสามิตต์อำเภอเป็นคณะกรรมการอำเภอด้วยผู้หนึ่ง จึงย่อมเป็นผู้ทำการแทนนายอำเภอได้โดยชอบด้วย ก.ม.และมีอำนาจและหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมทำสัญญาซื้อขายที่ดินได้ตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตาม ก.ม.แพ่งและพาณิชย์ 2486 มาตรา 4(ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829-830/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่มีสิทธิ เจ้าของที่ดินที่แท้จริงไม่ผูกพันสัญญา
ห. ขายสวนยางที่มีใบเหยียบย่ำให้แก่ ส. โดยทำสัญญาซื้อขายจดทะเบียนกันที่อำเภอ แต่ปรากฏว่า ห. ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินและทั้งไม่เคยมีชื่อปรากฏในทางทะเบียนให้บุคคลภายนอกเช่น ส. เข้าใจผิดแต่ประการใดดังนี้ ส. จะอ้างความคุ้มครองตามมาตรา 1299,1300ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829-830/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยผู้ไม่มีสิทธิและผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ห. ขายสวนยางที่มีใบเหยียบย่ำให้แก่ ส. โดยทำสัญญาซื้อขายจดทะเบียนกันที่อำเภอ แต่ปรากฎว่า ห.ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินและทั้งไม่เคยมีชื่อปรากฎในทางทะเบียนให้บุคคลภายนอกเช่น ส. เข้าใจผิดแต่ประการใด ดังนี้ ส.จะอ้างความคุ้มครองตามมาตรา 1299,1300 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้.