พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร: กำหนดราคาสูงสุดได้หรือไม่
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นมีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการอันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ แทนคณะกรรมการเท่านั้นหามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรไม่ เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ'สั่งการ'ได้ตามที่เห็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)(อ้างฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรีเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ประกาศดังกล่าวจึงหามีผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรีเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ประกาศดังกล่าวจึงหามีผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่: กำหนดราคาสูงสุดเนื้อสุกรต้องเป็นคำสั่งของคณะกรรมการฯ เท่านั้น
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร แต่ตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น มีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการ อันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ
แทนคณะกรรมการเท่านั้น หามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไนเกินควรไป เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ "สั่งการ" ได้ตามที่เป็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)
(อ้างถึงฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้น ได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรี เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ ประกาศดังกล่าวจึงหาผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
แทนคณะกรรมการเท่านั้น หามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไนเกินควรไป เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ "สั่งการ" ได้ตามที่เป็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)
(อ้างถึงฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้น ได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรี เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ ประกาศดังกล่าวจึงหาผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธขายสินค้าควบคุมราคาโดยไม่มีเหตุผลสมควรเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ไม่ยอมขายสิ่งของที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรกำหนดราคาไว้อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร2490 มาตรา 21 นั้น สิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดคือสิ่งของที่มีผู้ขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้ แต่ผู้ขายไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเท่านั้น และย่อมริบได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่ยอมขายดังกล่าวเท่านั้น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดีค้ากำไรเกินควร: ริบเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธการขายโดยไม่มีเหตุผล
ไม่ยอมขายสิ่งของที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรกำหนดราคาไว้อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้น สิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดคือสิ่งของที่มีผู้ขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้ แต่ผู้ขายไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันควรเท่านั้น และย่อมริบได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่ยอมขายดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร และผลของประกาศที่เกินอำนาจ
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร นั้นหามีอำนาจที่จะสั่งการวางระเบียบการแก่บุคคลภายนอกอันถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาอย่างใดไม่
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด15 วันหากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดจะทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้วบุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชนิดนั้นไม่มีทางที่จะทำการได้เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด15 วันหากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดจะทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้วบุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชนิดนั้นไม่มีทางที่จะทำการได้เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: การออกข้อกำหนดที่เกินขอบเขตและกระทบสิทธิการประกอบอาชีพ
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น หามีอำนาจที่จะสั่งการวางระเบียบการแก่บุคคลภายนอก อันถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาอย่างใดไม่
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด 15 วัน หากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้ว บุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชะนิดนั้น ไม่มีทางที่จะทำการได้ เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้ จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ประกาศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกาศให้ผู้ขายปลีกเนื้อหมูชำแหละมาจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าภายในกำหนด 15 วัน หากผู้ใดมิได้มาจดทะเบียนภายในกำหนดทำการจำหน่ายปลีกเนื้อหมูชำแหละในเขตเทศบาลกรุงเทพฯไม่ได้ ดังนี้ เมื่อพ้นกำหนดตามประกาศแล้ว บุคคลที่ต้องการประกอบอาชีพชะนิดนั้น ไม่มีทางที่จะทำการได้ เป็นการสงวนอาชีพไว้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วในระหว่างเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากการป้องกันการค้ากำไรเกินควรประกาศเช่นนี้ จึงย่อมไม่มีผลบังคับได้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินรางวัลให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมจาก พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร แม้ฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรและขอให้จ่ายรางวัลด้วย ตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่ว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่พลตำรวจผู้หนึ่งโดยระบุชื่อตำรวจผู้นั้นลงไปโดยไม่ได้กล่าวยืนยันว่าตำรวจผู้นั้นเป็นผู้จับจำเลยด้วยหรือไม่ดังนี้ ศาลก็พิพากษาให้จ่ายเงินรางวัลให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับจำเลยได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อว่า จ่ายให้ใคร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินรางวัลให้เจ้าพนักงานผู้จับกุม แม้คำขอท้ายฟ้องไม่ได้ระบุชัดเจน ศาลสามารถพิจารณาจากอำนาจของพนักงานอัยการได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรและขอให้จ่ายรางวัลด้วย ตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่ว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่พลตำรวจผู้หนึ่ง โดยระบุชื่อตำรวจผู้นั้นลงไปโดยไม่ได้กล่าวยืนยันว่าตำรวจผู้นั้นเป็นผู้จับจำเลยด้วยหรือไม่ดังนี้ศาลก็พิพากษาให้จ่ายเงินรางวัลให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับจำเลยได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อว่าจ่ายให้ใคร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสินค้าพิเศษเกินราคาควบคุมและไม่ออกใบรับเงิน ไม่ถือว่าผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร หากผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าพิเศษและยินยอม
ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องบริโภคเป็นพิเศษ ผู้ค้าก็จัดให้ตามต้องการและคิดราคาเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเช่นนี้ จะถือว่าขายเครื่องบริโภคเกินกว่าราคาควบคุม ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ได้
จำเลยรับเงินจากผู้ซื้อเครื่องบริโภคแล้ว ไม่ได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้ซื้อเมื่อปรากฎว่าจำเลยเป็นเพียงผู้รับใช้และมีคนอื่น มีหน้าที่รับเงินและออกใบรับเงินในร้านนั้น ดังนี้จะเอาผิดแก่จำเลยฐานไม่ออกใบรับเงินไม่ได้
จำเลยรับเงินจากผู้ซื้อเครื่องบริโภคแล้ว ไม่ได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้ซื้อเมื่อปรากฎว่าจำเลยเป็นเพียงผู้รับใช้และมีคนอื่น มีหน้าที่รับเงินและออกใบรับเงินในร้านนั้น ดังนี้จะเอาผิดแก่จำเลยฐานไม่ออกใบรับเงินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสินค้าพิเศษเกินราคาควบคุมและความรับผิดชอบในการออกใบรับเงินของผู้รับใช้
ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องบริโภคเป็นพิเศษ ผู้ค้าก็จัดให้ตามต้องการและคิดราคาเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเช่นนี้ จะถือว่าขายเครื่องบริโภคเกินกว่าราคาควบคุม ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ได้
จำเลยรับเงินจากผู้ซื้อเครื่องบริโภคแล้ว ไม่ได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้ซื้อเมื่อปรากฏว่า จำเลยเป็นเพียงผู้รับใช้และมีคนอื่น มีหน้าที่รับเงินและออกใบรับเงินในร้านนั้น ดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานไม่ออกใบรับเงินไม่ได้
จำเลยรับเงินจากผู้ซื้อเครื่องบริโภคแล้ว ไม่ได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้ซื้อเมื่อปรากฏว่า จำเลยเป็นเพียงผู้รับใช้และมีคนอื่น มีหน้าที่รับเงินและออกใบรับเงินในร้านนั้น ดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานไม่ออกใบรับเงินไม่ได้