พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของห้างหุ้นส่วนและผู้เป็นหุ้นส่วนในเช็คที่ลงชื่อสลักหลังเพื่อชำระหนี้ของห้าง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยต่อสู้ว่าเช็คนั้นไม่ใช่เช็คของห้างหุ้นส่วนเป็นเช็คส่วนตัวของจำเลยที่ 2 การสลักหลังเช็คไม่ใช่วัตถุประสงค์ของห้าง อีกทั้งตราที่ประทับมิใช่ตราของห้างที่จดทะเบียนไว้ ห้างและผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ต้องรับผิด เมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิดในเช็คเช่นนี้ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าเช็คนั้นเป็นเช็คของห้างซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องรับผิดและนำสืบได้ว่าหนี้สินของหุ้นส่วนนั้นเป็นมาอย่างไร
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้จัดการกับหุ้นส่วนได้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์สั่งซื้อสินค้า เมื่อได้รับสินค้ามาแล้วและจำหน่ายหมดไปแล้ว จำเลยที่ 2 จึงได้จ่ายเช็คของจำเลยที่ 2 เองชำระหนี้แก่โจทก์ เพราะเช็คของห้างหมดและธนาคารปิดบัญชี การที่จำเลยที่ 2 เซ็นชื่อสลักหลังไปในเช็คโดยเอกตราของห้างซึ่งใช้เป็นประจำประทับลงไปแสดงว่าการกระทำในนามของห้าง ชำระหนี้ของห้าง กิจการที่กระทำนี้อยู่ในชอบวัตถุประสงค์ของห้าง ดังนี้ ห้างหุ้นส่วนและผู้เป็นหุ้นส่วนจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้จัดการกับหุ้นส่วนได้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์สั่งซื้อสินค้า เมื่อได้รับสินค้ามาแล้วและจำหน่ายหมดไปแล้ว จำเลยที่ 2 จึงได้จ่ายเช็คของจำเลยที่ 2 เองชำระหนี้แก่โจทก์ เพราะเช็คของห้างหมดและธนาคารปิดบัญชี การที่จำเลยที่ 2 เซ็นชื่อสลักหลังไปในเช็คโดยเอกตราของห้างซึ่งใช้เป็นประจำประทับลงไปแสดงว่าการกระทำในนามของห้าง ชำระหนี้ของห้าง กิจการที่กระทำนี้อยู่ในชอบวัตถุประสงค์ของห้าง ดังนี้ ห้างหุ้นส่วนและผู้เป็นหุ้นส่วนจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารสิทธิด้วยการลบข้อความชำระหนี้ และการแสดงพยานหลักฐานเท็จต่อศาล มีความผิดตามกฎหมายอาญา
(1) เมื่อปรากฏว่า สัญญากู้เงินซึ่งเป็นเอกสารสิทธินั้น มีเรื่องที่แท้จริงรวมกันอยู่ 2 เรื่อง คือ มีหนังสือสัญญากู้เงิน 1 มีบันทึกการชำระหนี้เงินกู้รายนี้บางส่วน 1 แต่จำเลยได้ลบบันทึกนั้นออกก็เพื่อให้โจทก์หรือศาลหลงเชื่อว่า เอกสารสิทธิมีหนังสือสัญญากู้เงินเพียงเรื่องเดียวซึ่งแสดงว่าไม่เคยผ่อนชำระหนี้กันเลย การกระทำเช่นนี้เป็นการตัดทอนหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสาที่แท้จริง เป็นผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264
(2) แม้จำเลยจะยังมิได้นำสืบ แต่ได้แสดงพยานหลักฐานเท็จต่อศาลแล้ว โดยส่งเอกสาร(หมาย จ.1) ซึ่งเดิมมีอยู่ 2 หลักฐาน แต่จำเลยส่งแสดงว่ามีหลักฐานเดียวย่อมเป็นการแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาลตามมาตรา 180 แล้ว
(3) การปลอมเอกสารซึ่งอยู่ในความยึดถือของจำเลยนั้น ย่อมมีโอกาสทำได้ในที่ลับ เป็นการยากที่จะมีประจักษ์พยาน ฉะนั้น พยานประพฤติเหตุบ่งว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารไม่ผิดตัว ก็ฟังลงโทษจำเลยได้
(4) เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำพยานสืบแก้ฟ้องโจทก์แล้ว ยังอ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อตรวจพิสูจน์เอกสารที่โจทก์อ้างไว้ว่ามีรอยลอยอากรแสตมป์ และมีรอยลบข้อความบางประการออกหรือไม่ ซึ่งข้อความที่จะนำสืบพยานผู้เชี่ยวชาญนี้ พยานจำเลยไม่ได้เบิกความมาก่อนเลย และโจทก์ก็ไม่รู้ว่าจำเลยจะนำสืบประเด็นเช่นนี้ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจให้โจทก์นำสืบแก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 89 วรรค 3
หมายเหตุ หมายเลข(1) วินิจฉัย โดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2508
(2) แม้จำเลยจะยังมิได้นำสืบ แต่ได้แสดงพยานหลักฐานเท็จต่อศาลแล้ว โดยส่งเอกสาร(หมาย จ.1) ซึ่งเดิมมีอยู่ 2 หลักฐาน แต่จำเลยส่งแสดงว่ามีหลักฐานเดียวย่อมเป็นการแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาลตามมาตรา 180 แล้ว
(3) การปลอมเอกสารซึ่งอยู่ในความยึดถือของจำเลยนั้น ย่อมมีโอกาสทำได้ในที่ลับ เป็นการยากที่จะมีประจักษ์พยาน ฉะนั้น พยานประพฤติเหตุบ่งว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารไม่ผิดตัว ก็ฟังลงโทษจำเลยได้
(4) เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำพยานสืบแก้ฟ้องโจทก์แล้ว ยังอ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อตรวจพิสูจน์เอกสารที่โจทก์อ้างไว้ว่ามีรอยลอยอากรแสตมป์ และมีรอยลบข้อความบางประการออกหรือไม่ ซึ่งข้อความที่จะนำสืบพยานผู้เชี่ยวชาญนี้ พยานจำเลยไม่ได้เบิกความมาก่อนเลย และโจทก์ก็ไม่รู้ว่าจำเลยจะนำสืบประเด็นเช่นนี้ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจให้โจทก์นำสืบแก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 89 วรรค 3
หมายเหตุ หมายเลข(1) วินิจฉัย โดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2508
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ศาลยกฟ้องจำเลยที่ศาลทหารยกฟ้องแล้ว แม้เปลี่ยนความผิดฐาน
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันพยายามฆ่าคนตายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83 ต่อศาลทหาร ศาลทหารพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มิได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด ส่วนจำเลยที่ 2 ฟังว่า ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายบาดเจ็บตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารพิจารณาพิพากษาได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยทั้งสามพ้นข้อหาไป ดังนี้ คดีสำหรับตัวจำเลยที่ 1 และ 3 ถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องไปแล้ว เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ต่อศาลพลเรือนอีก คดีสำหรับตัวจำเลยที่ 1 และที่ 3 ่ย่อมต้องห้าม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2505)