พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.ค.) เป็นทรัพย์สินในกองมรดก ผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใดก็ได้ แม้จะระบุไว้ในสมุดประวัติก่อนหน้า
เมื่อปรากฎว่าเงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.+.) ของผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟ เป็นเงินที่เก็บจากผู้ปฎิบัติงานร้อยละ 5 ของเงินเดือนทุกเดือน และการรถไฟจ่ายสมทบอีกมีจำนวนร้อยละ 10 ถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องออกจากงาน นอกจากถูกไล่ออกก็ให้จ่ายให้แก่ผู้ปฏิบัติงานรวมทั้งดอกเบี้ยและกองทุนจ่ายเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ากันนั้น เห็นได้ว่าเงินทุนสงเคราะห์นี้เป็นเงินที่ผู้ปฎิบัติงานมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หากผู้นั้นตายลงก็ย่อมตกเป็นมรดก
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินทุนสงเคราะห์ ท.ส.ค. เป็นทรัพย์มรดก ผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ผู้อื่นได้ แม้ระบุผู้รับไว้ก่อน
เมื่อปรากฏว่าเงินทุนสงเคราะห์ (ท.ส.ค.) ของผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟ เป็นเงินที่เก็บจากผู้ปฏิบัติงานร้อยละ 5 ของเงินเดือนทุกเดือน และการรถไฟจ่ายสมทบอีกมีจำนวนร้อยละ 10 ถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องออกจากงานรวมทั้งดอกเบี้ยและกองทุนจ่ายเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ากันนั้น เห็นได้ว่าเงินทุนสงเคราะห์นี้เป็นเงินที่ผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หากผู้นั้นตายลงก็ย่อมตกเป็นมรดก
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค.) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น
แม้จะระบุในสมุดประวัติ (ท.ส.ค.) ให้จำเลยเป็นผู้รับเงินทุนสงเคราะห์ก็ดี แต่หากต่อมาภายหลังเจ้าของเงินทุนสงเคราะห์ทำพินัยกรรมระบุยกให้โจทก์เป็นผู้รับ ก็เป็นการตัดจำเลยไปตามพินัยกรรมนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดลามกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลือยร่างกาย
คำว่า "กระทำการถามอย่างอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 นั้น ไม่ได้หมายเฉพาะแต่เรื่องเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น ย่อมหมายถึงวาจาด้วย
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง" ต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง" ต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดลามกเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.388 แม้ไม่ได้กระทำต่อร่างกาย
คำว่า"กระทำการลามกอย่างอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 นั้นไม่ได้หมายเฉพาะแต่เรื่องเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น ย่อมหมายถึงวาจาด้วย
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง"ต่อหน้าธารกำนัลจึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง"ต่อหน้าธารกำนัลจึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อกระบือที่ได้มาจากการลักทรัพย์ โดยผู้ซื้อมีความรู้หรือควรจะรู้ว่าเป็นของโจร
จำเลยที่ 2 รับของโจรกระบือจาก + แล้วขายให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 รับซื้อไว้โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นกระบือของร้าย ก็มีความผิดฐานรับของโจรได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อของโจร: พฤติการณ์ส่อแสดงเจตนาของผู้รับซื้อที่รู้ว่าเป็นของร้าย
จำเลยที่ 2 รับของโจรกระบือจากบุคคลที่ลักมา แล้วขายให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 รับซื้อไว้โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นกระบือของร้าย ก็มีความผิดฐานรับของโจรได้