คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวัสดิ์ พานิชอัตรา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 509 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดของกลางโดยอธิบดีศุลกากร แม้ศาลไม่อยู่ด้วย ก็ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นละเมิด
การที่อธิบดีศุลกากรสั่งขายทอดตลาดของที่ยึดตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ แม้ต่อมาศาลจะสั่งไม่ริบของที่ยึดนั้นก็ตาม คำสั่งของอธิบดีที่สั่งขายไปนั้นก็ยังเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขายของที่ยึดนั้นไปตามคำสั่งของอธิบดีศุลกากรดังกล่าว จึงหาเป็นการละเมิดต่อเจ้าของทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการครอบครองปรปักษ์ ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยทำให้ฎีกาต้องห้าม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกครึ่งหนึ่ง ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์จำเลยได้แบ่งกันครอบครองเป็นส่วนสัดแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้แบ่งให้แก่โจทก์จำเลยตามข้อเท็จจริงที่ฟังได้นั้น ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาห้ามฎีกาเพราะเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกครึ่งหนึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์จำเลยได้แบ่งกันครอบครองเป็นส่วนลัดแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้แบ่งให้แก่โจทก์จำเลยตามข้อเท็จจริงที่ฟังได้นั้น ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีและการจำหน่ายคดี: สิทธิในการอุทธรณ์ถูกจำกัดเมื่อจำเลยไม่ติดใจให้ดำเนินคดีต่อ
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยแถลงว่าตนไม่ติดใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสีย แล้วโจทก์จะมาอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา แล้วให้ดำเนินคดีต่อไป ดังนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี: สิทธิอุทธรณ์จำกัดเมื่อจำเลยไม่ติดใจให้พิจารณาต่อไป
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยแถลงว่าตนไม่ติดใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสีย แล้วโจทก์จะมาอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา แล้วให้ดำเนินคดีต่อไปดังนี้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับในคดีศุลกากรและสุรา: ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาเนื่องจากเป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยในข้อเท็จจริง
ศาลขั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากร เข้าด้วยแล้ว เป็นเงินคนละ 36,068 บาท บังคับค่าปรับตามมาตรา 29,30 หากต้องกักขังแทนค่าปรับ ให้กักขังคนละ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยทั้งสามเป็นเงิน 36,068 บาท โดยแยกเรียงตัวคนละ 12,022 บาท 66 สตางค์ ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 หากต้องกักขังแทน ให้กักขังคนละ 8 เดือน ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับเล็กน้อยโดยศาลอุทธรณ์ ไม่ถือเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ฎีกาแก้ไขได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วเป็นเงินคนละ 36,068 บาท บังคับค่าปรับตามมาตรา 29, 30 หากต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังคนละ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยทั้งสามเป็นเงิน 36,068 บาท โดยแยกเรียงตัวคนละ 12,022 บาท 66 สตางค์ ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 หากต้องกักขังแทนให้กักขังคนละ 8 เดือน ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถแซงบนสะพานแคบ ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ความตาย
จำเลยขับรถยนต์โดยสารซึ่งกว้างถึง 2 เมตรเศษ โดยไม่ใช้ความระมัดระวัง แซงขึ้นหน้ารถกะบะลากเข็นและรถจักรยานสองล้อบนสะพานซึ่งกว้างประมาณ 6 เมตรพอที่รถยนต์สองคันจะหลีกกันได้เท่านั้น เมื่อมีรถยนต์อื่นวิ่งสวนขึ้นสะพานมา จำเลยจึงเบนรถกลับเข้าไปโดนรถจักรยานสองล้อซึ่งผู้ตายขับขี่อยู่ล้มลง ผู้ตายบาดเจ็บและต่อมาถึงแก่ความตาย เช่นนี้ นับว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถแซงบนสะพานแคบ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
จำเลยขับรถยนต์โดยสารซึ่งกว้างถึง 2 เมตรเศษ โดยไม่ใช้ความระมัดระวังแซงขึ้นหน้ารถกะบะลากเซ็นและรถจักรยานสองล้อบนสะพานซึ่งกว้างประมาณ 6 เมตร ขณะที่รถยนต์สองคันจะหลีกกันได้เท่านั้น เมื่อมีรถยนต์อื่นซึ่งสวนขึ้นสะพานมา จำเลยจึงเบนรถกลับเข้าไปโดนรถจักรยานสองล้อซึ่งผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ นับว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1799/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่? ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เสนอสิทธิทั้งสัญญาจำนองและประนีประนอมได้ ไม่เคลือบคลุม
คำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
of 51