คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยุ้ย อาตมียะนันทน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 172 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นบริษัทที่ไม่ได้ออกใบหุ้น การโอนทำได้โดยไม่ต้องทำเป็นหนังสือ และชื่อในทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน
บริษัทจำกัดที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งไว้แล้วแต่ไม่ได้ออกใบหุ้นเลยนั้นการโอนขายหุ้นให้แก่กันในระหว่างผู้ถือหุ้นจึงหาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่
การมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนของทางการนั้นเป็นแต่ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายซึ่งอาจนำสืบหักล้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นบริษัทจำกัดที่ไม่ได้ออกใบหุ้น: สิทธิผู้ถือหุ้นและการมีอำนาจฟ้อง
บริษัทจำกัดที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งไว้แล้ว แต่ไม่ได้ออกใบหุ้นเลยนั้น การโอนขายหุ้นให้แก่กันในระหว่างผู้ถือหุ้นจึงหาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่
การมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนของทางการนั้นเป็นแต่ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายซึ่งอาจนำสืบหักล้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จของผู้ต้องหา: การกล่าวแก้ข้อหาไม่ใช่ความเท็จ
ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกจับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ และค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยานและกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข 2 ฉบับ จำเลยแจ้งว่าเป็นสลากกินรวบซื้อมาจากโจทก์ ดังนี้ ถือว่าจำเลยกล่าวในฐานะผู้ต้องหา หรือ เสมือนผู้ต้องหา จำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จในฐานะผู้ต้องหา: การให้ข้อมูลเท็จระหว่างถูกสอบสวนไม่ใช่ความผิดฐานแจ้งความเท็จ
ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกจับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ และค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยานและกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข 2 ฉบับ จำเลยแจ้งว่าเป็นสลากกินรวบซื้อมาจากโจทก์ดังนี้ ถือว่าจำเลยกล่าวในฐานะผู้ต้องหาหรือเสมือนผู้ต้องหาจำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคนไทยกระทำผิดนอกประเทศ: อำนาจศาลไทยและไม่ต้องอ้างอิงกฎหมายต่างประเทศ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8(ก) วรรคสอง(9) นั้นเมื่อจำเลยเป็นคนไทยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์นอกประเทศ ผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษในราชอาณาจักรและในคำฟ้องก็ไม่ต้องอ้างกฎหมายอาญาของประเทศที่จำเลยไปกระทำผิด กับโจทก์ไม่จำต้องนำสืบกฎหมายต่างประเทศ
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ส่งประเด็นไปสืบตำรวจพม่า 3 คน ณประเทศพม่า หรือ ณ สถานทูตประเทศพม่าและร้อยตำรวจเอกจำนงเบิกความประกอบยืนยันในคำให้การตำรวจเหล่านั้น ย่อมไม่มีน้ำหนักอะไร นั้น เป็นฎีกาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคนไทยกระทำผิดนอกประเทศ: ฟ้องได้โดยไม่ต้องอ้างกฎหมายต่างประเทศ และการพิจารณาข้อโต้แย้งเรื่องการสืบพยาน
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8(ก) วรรค 2(9) นั้น เมื่อจำเลยเป็นคนไทยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์นอกประเทศ ผู้เสียหารได้ร้องขอให้ลงโทษแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษในราชอาณาจักร และในคำฟ้องก็ไม่ต้องอ้างกฎหมายอาญาของประเทศที่จำเลยไปกระทำผิด กับโจทก์ไม่จำต้องนำสืบกฎหมายต่างประเทศ
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ส่งประเด็นไปสืบตำรวจพม่า 3 คน ณ ประเทศพม่าหรือ ณ สถานทูตประเทศพม่า และร้อยตำรวจเอกจำนงเบิกความประกอบยืนยันในคำให้การตำรวจเหล่านั้น ย่อมไม่มีน้ำหนักอะไร นั้น เป็นฎีกาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปและครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แม้ได้รับอนุญาตทำไม้แล้ว ก็ต้องขออนุญาตแปรรูปอีก
ไม้ซึ่งแต่แรกจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำ และมีไว้โดยชอบนั้น ถ้าจำเลยจะมีไม้นั้นซึ่งได้แปรรูปแล้วไว้ในครอบครองต่อไป จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง ฉะนั้นเป็นผิดตามาตรา 48 การถากซ้อมไม้นั้นเป็น+ โดยไม่ได้ขออนุญาตไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 50(1) จำเลยจึงมีความผิดฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 48 ด้วย และไม้นั้นเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ต้องริบตามมาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 1551/2497)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่าลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา73(2) แก้ไขโดย(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทงโทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปและครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ถือเป็นความผิด 2 กระทง ศาลลงโทษกระทงเดียวได้
ไม้ซึ่งแต่แรกจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำ และมีไว้โดยชอบนั้นถ้าจำเลยจะมีไม้นั้นซึ่งได้แปรรูปแล้วไว้ในครอบครองต่อไป จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง มิฉะนั้นเป็นผิดตามมาตรา 48 การถากซ้อมไม้นั้นเป็นเสาโดยไม่ได้ขออนุญาต ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 50(1)จำเลยจึงมีความผิดฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 48 ด้วย และไม้นั้นเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ฯต้องริบตามมาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 1551/2497)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่า ลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73(2) แก้ไขโดย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทง โทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการจำนำทรัพย์ที่ยังผ่อนชำระค้างอยู่ ถือเป็นความผิดฐานยักยอกได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าซื้อจักรเย็บผ้า 1 หลัง จากบริษัทซิงเกอร์โซอิงแมชีน จำเลยต้องส่งเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน ได้ผ่อนชำระมาบ้างแล้ว ที่เหลือจำเลยไม่ยอมชำระ และจำเลยได้นำเอาจักรดังกล่าวไปจำนำเสียที่สถานธนานุบาล โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกเบียดบังเอาจักรเป็นอาณาประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาจักรเป็นของตนโดยทุจริต อันเป็นองค์สำคัญในความผิดทางอาญาฐานยักยอกแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดทางอาญาฐานยักยอกโดยสมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์สินเช่าซื้อเป็นความผิดฐานยักยอก แม้ผิดสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าซื้อจักรเย็บผ้า 1 หลังจากบริษัทซิงเกอร์โชอิงแมชีน. จำเลยต้องส่งเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน ได้ผ่อนชำระมาบ้างแล้ว ที่เหลือจำเลยไม่ยอมชำระ และจำเลยได้นำเอาจักรดังกล่าวไปจำนำเสียที่สถานธนานุบาล โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกเบียดบังเอาจักร เป็นอาณาประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาจักรเป็นของตนโดยทุจริต อันเป็นองค์สำคัญในความผิดทางอาญาฐานยักยอกแล้วฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดทางอาญาฐานยักยอกโดยสมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยได้
of 18