พบผลลัพธ์ทั้งหมด 172 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่ผูกพันโจทก์ในคดีแพ่งหากมิได้เป็นคู่ความในคดีอาญา
ย.ขับรถยนต์ขนรถสามล้อซึ่ง น.ขับ รถสามล้อเสียหายและ น.บาดเจ็บ อัยการและ น.ได้เป็นโจทก์ฟ้อง ย.เป็นคดีอาญา คดีนั้นศาลชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า น.เป็นฝ่ายประมาท ย.ไม่มีความผิดฐานประมาท ต่อมาเจ้าของรถสามล้อมาเป็นโจทก์ฟ้อง ย.กับนายจ้างเป็นคดีแพ่งเรียกร้องค่ารถสามล้อที่เสียหายกับค่าขาดประโยชน์ ดังนี้ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาอาญานั้นย่อมไม่ผูกพันโจทก์ในคดีแพ่ง (อ้างฎีกาที่ 36/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วัดได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ แม้เจ้าของเดิมยกให้แล้ว
วัดครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมีโฉนดซึ่งเจ้าของยกให้ได้แม้ต่อมาผู้ให้ตาย วัดยังคงครอบครองต่อมาอีกจนครบกำหนด 10 ปีแล้ว วัดย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้น พฤติการณ์ดังกล่าว ไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของวัดและหลักทางพระพุทธศาสนา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ของโจทก์ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิครอบครอง ไม่ได้ฟ้องเรียกมรดก จำเลยไม่อาจยกอายุความมรดกขึ้นมาอ้างได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ของโจทก์ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิครอบครอง ไม่ได้ฟ้องเรียกมรดก จำเลยไม่อาจยกอายุความมรดกขึ้นมาอ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ตกลงกันระหว่างผู้ออกและผู้รับว่าจะลงวันถึงกำหนดใช้เงินเมื่อใด ไม่ถือเป็นตั๋วที่ใช้เงินเมื่อเห็น และไม่ขาดอายุความ
ข้อเท็จจริงได้ความว่า บริษัทอุดม จำกัด ได้กู้เงินจากโจทก์ไป 500,000 บาท โดยมอบกระดาษฝากเข้าคลังสินค้าของโจทก์และจำนำกระดาษนั้นไว้เป็นประกัน โดยโจทก์ออกใบรับคลังสินค้าและใบประทวนสินค้าให้ไว้เป็นสำคัญ มีกำหนดชำระหนี้ภายใน 3 เดือน แต่โจทก์ยอมผ่อนผันให้ต่ออายุใบประทวนสินค้าไปได้เป็นระยะๆ เพื่อให้โจทก์อำนวยประโยชน์ต่ออายุใบประทวนสินค้าให้บริษัทอุดม จำกัด จำเลยจึงได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ไว้หนึ่งฉบับ ลงวันที่27 ธันวาคม 2494 มีข้อความว่า จำเลยในฐานะส่วนตัวสัญญาจะใช้เงิน 500,000 บาทให้แก่โจทก์ในวันถึงกำหนดและได้มอบตั๋วนี้ไว้แก่กรรมการบริษัทโจทก์โดยมีคำสั่งมอบหมายแก่กรรมการบริษัทโจทก์ว่า วันถึงกำหนดแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น เมื่อใดมีความจำเป็นที่โจทก์จะใช้ตั๋วนี้ฟ้องร้องชำระหนี้จากจำเลยเป็นส่วนตัว ก็ให้กรรมการบริษัทโจทก์กรอกวันถึงกำหนดแห่งตั๋วเอาเอง ดังนี้ กำหนดใช้เงินตามตั๋วต้องเป็นไปตามกำหนดเวลาในใบประทวนสินค้าคือ ระยะละ 3 เดือน ถ้ามีการต่ออายุใบประทวนสินค้าไปเท่าไร กำหนดใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินก็ตามไปด้วยถ้าไม่มีการต่ออายุใบประทวนสินค้าเมื่อไร การใช้เงินตามตั๋วก็ถึงกำหนดไปด้วยเมื่อนั้น แล้วจึงให้ฝ่ายโจทก์กรอกวันถึงกำหนดใช้เงินลงในตั๋ว ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยกันเองเช่นนี้ ต้องถือว่าตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้มีกำหนดเวลาใช้เงินตามกำหนดเวลาในใบประทวนสินค้า หาใช่กำหนดให้ใช้เงินเมื่อเห็นตั๋วไม่ ข้อตกลงเช่นว่านี้ไม่เป็นการผิดหรือขัดต่อกฎหมาย และไม่เป็นการขยายอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายลักษณะเคหะในฟ้องคดีค่ากินเปล่า จำเป็นต้องระบุชัดเจนเพื่อให้จำเลยทราบถึงข้อหา
ฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินมาตรา 20 นั้น อาคารเช่าที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเรียกเก็บค่ากินเปล่าเป็น "เคหะ" หรือเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นองค์ประกอบอันเป็นสารสำคัญที่โจทก์จำเป็นต้องกล่าวบรรยายมาในฟ้อง ถ้าโจทก์ไม่บรรยายมา ฟ้องของโจทก์ก็ฟังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกัน - ความรับผิดของผู้ค้ำประกันต่อการทุจริตของลูกจ้างที่ได้รับมอบหมาย
จำเลยได้ทำสัญญาค้ำประกันผู้มีชื่อคนหนึ่งในการเข้าทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์ว่า ถ้าผู้มีชื่อทำให้โจทก์เสียหายด้วยประการใดๆ แล้ว จำเลยยินยอมชำระค่าเสียหายให้นั้น เมื่อผู้มีชื่อได้รับมอบหมายให้ไปทำงานและได้บังอาจเบียดบังเอาเงินของโจทก์ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวแล้วหลบหนีไป เช่นนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันก็ย่อมต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ตามสัญญาค้ำประกันนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในคดีอาญา: การสอบถามเรื่องทนายก่อนพิจารณา แม้จำเลยรับสารภาพ
ในคดีอุกฉกรรจ์มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปนั้น ก่อนเริ่มพิจารณาศาลจะต้องถามจำเลยว่ามีทนายหรือไม่ ถ้าไม่มีและจำเลยต้องการ ศาลก็ต้องตั้งให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 แม้คดีนั้นต่อมาชั้นพิจารณาจำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง และศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ได้ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เสียทรัพย์และการยกฟ้องในคดีอาญา แม้จำเลยไม่อุทธรณ์
คดีอาญาซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุก โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด: จำเลยที่ 2-3 อุทธรณ์คำสั่งศาลได้
จำเลยที่ 2-3 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าชนะคดีโจทก์และคดีถึงที่สุดแล้วขอให้ศาลบังคับโจทก์นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาชำระให้แก่จำเลยที่ 2-3 ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำพิพากษาของศาลฎีกามีความหมายว่า จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวจะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายและค่าฤชาธรรมเนียมตลอดจนค่าทนาย 3 ศาลแทนโจทก์ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2-3 กรณีเช่นนี้จำเลยที่ 2-3 ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องห้ามชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่ตรงกับประเด็นที่ฟ้อง และไม่มีเหตุให้บังคับวางประกัน
โจทก์ฟ้องว่า ป. ทำพินัยกรรมยกที่นาพิพาทให้โจทก์เมื่อ ป. ตายแล้ว จำเลยลอบไปขอรับมรดกที่นานั้นเจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงทำนิติกรรมโอนที่พิพาทให้จำเลยขอให้ศาลแสดงว่าการโอนมรดกที่พิพาทนั้นเป็นโมฆะ และแสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง ต่อมาในระหว่างการพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ห้ามชั่วคราวก่อนพิพากษา ความว่า โจทก์เคยให้ ช. เช่าทำนาในที่พิพาท แต่จำเลยให้ผู้อื่นเข้าไถหว่านในนาพิพาททำให้โจทก์เสียหายขาดรายได้เปลืองไปเปล่าปีละ 2,500 บาท ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งห้ามจำเลยและบริวารเข้าครอบครองทำนาพิพาท หรือมิฉะนั้นก็ให้จำเลยวางเงินประกันการเสียหายปีละ2,500 บาท คำขอของโจทก์ดังนี้ไม่เข้ากรณีแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) และมาตรา 264 ศาลอาจยกคำร้องโจทก์เสียได้โดยไม่ต้องไต่สวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดซ้ำเกี่ยวกับสถานที่ขายอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นต่างกรรมต่างวาระ
การใช้สถานที่เอกชนทำการขายและสะสมอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น การกระทำแต่ละคราวย่อมเกิดเป็นความผิดได้
ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2505 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยได้ถูกฟ้องและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว ต่อมาในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2505 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาตอีก จำเลยจึงถูกฟ้องหาว่ากระทำผิดในครั้งหลังนี้อีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยในครั้งหลังนี้เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวคราวเดียวต่อเนื่องกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2505 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยได้ถูกฟ้องและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว ต่อมาในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2505 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาตอีก จำเลยจึงถูกฟ้องหาว่ากระทำผิดในครั้งหลังนี้อีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยในครั้งหลังนี้เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวคราวเดียวต่อเนื่องกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ