พบผลลัพธ์ทั้งหมด 615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าสมาชิกสมาคมที่มิได้จดทะเบียนชอบด้วยกฎหมาย เข้าลักษณะลาภมิควรได้
การฌาปนกิจสงเคราะห์ที่จำเลยแต่ละคนเป็นกรรมการ แต่มิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมนั้นถ้าจำเลยรับเงินค่าเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นจึงถือได้ว่า เป็นเงินที่จำเลยรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นลาภมิควรได้อย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจับกุมในที่รโหฐาน: กรณีฉุกเฉินและขอบเขตการป้องกันสิทธิ
การจับในที่รโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีหมายจับนั้นเมื่อพฤติการณ์ปรากฏว่าความผิดซึ่งหน้าซึ่งจำเลยผู้ถูกจับได้กระทำแล้วหลบหนีเข้าไปเป็นเพียงความผิดฐานลหุโทษตำรวจผู้จับรู้จักจำเลยและหลักแหล่งของจำเลยมาก่อนทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยจะหลบหนีต่อไปเช่นนี้ ก็ไม่เป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 96(2) จ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจโท และพลตำรวจจึงไม่มีอำนาจเข้าไปจับ การเข้าไปจับโดยไม่มีอำนาจเช่นนี้จำเลยย่อมกระทำการป้องกันได้และเมื่อไม่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยก็ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจับกุมในที่รโหฐาน: กรณีความผิดลหุโทษและเหตุฉุกเฉินที่ไม่เพียงพอ
การจับในที่รโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีหมายจับนั้น เมื่อพฤติการณ์ปรากฎว่าความผิดซึ่งหน้าซึ่งจำเลยผู้ถูกจับได้กระทำแล้วหลบหนีเข้าไปเป็นเพียงความผิดฐานลหุโทษ ตำรวจผู้จับรู้จักจำเลยและหลักแหล่งของจำเลยมาก่อน ทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยจะหลบหนีต่อไป เช่นนี้ ก็ไม่เป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46(2) จ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจโท และพลตำรวจ จึงไม่มีอำนาจเข้าไปจับ การเข้าไปจับโดยไม่มีอำนาจเช่นนี้ จำเลยย่อมกระทำการป้องกันได้ และเมื่อไม่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยก็ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ขนไม้ผิดกฎหมาย: พิจารณาความเชื่อมโยงระหว่างการขนส่งกับความผิดฐานครอบครองไม้
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูปไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลประทับไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น รถยนต์ทีจำเลยใช้บรรทุกขัดลาภไม้ของกลางนั้นมาจนถูกจับจึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ให้ได้รับผลในการกระทำผิดอันเข้าข่ายต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ขนไม้ผิดกฎหมาย: ศาลฎีกาชี้ว่าเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูปไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลประทับไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกชักลากไม้ของกลางนั้นมาจนถูกจับจึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ให้ได้รับผลในการกระทำผิด อันเข้าข่ายต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษในความผิดฉ้อโกงและการจำกัดสิทธิในการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 266, 268 และ 341 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง แต่ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 266 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 4 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 กระทงเดียว ให้จำคุกจำเลย 2 ปี ลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือนเช่นนี้ความผิดฐานฉ้อโกงมีการแก้ไขเฉพาะโทษและเป็นการแก้ไขเล็กน้อยจำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการชำระหนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระบือ 3 ตัว ราคา 6,300 บาท โจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยรับว่าจะส่งกระบือทั้ง 3 ตัวให้แก่โจทก์แต่แล้วจำเลยไม่นำกระบือไปให้โจทก์ตามที่ตกลงกันข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาจะซื้อขาย เมื่อโจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลย ถือได้ว่ามีการชำระหนี้แล้วโจทก์จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและผลของการชำระเงินมัดจำ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระบือ 3 ตัว ราคา 6,000 บาท โจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยรับว่าจะส่งกระบือทั้ง 3 ตัวให้แก่โจทก์ แต่แล้วจำเลยไม่นำกระบือไปให้โจทก์ตามที่ตกลงกัน ข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาจะซื้อขาย เมื่อโจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลย ถือได้ว่ามีการชำระหนี้แล้ว โจทก์จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการงดบังคับคดี แม้มีคดีแย่งคืนที่ดิน
การให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาล แม้ในระหว่างนั้นโจทก์จะถูกบุคคลภายนอกฟ้องเรียกที่พิพาทคืนก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีที่บังคับให้จำเลยรื้อห้องแถว และคืนที่พิพาทแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการประวิงคดี: ศาลยืนยันบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม แม้มีการฟ้องคดีใหม่เพื่อโต้แย้งกรรมสิทธิ์
ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโดยให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งบังคับให้จำเลยรื้อถอนห้องแถว 3 ห้องของจำเลยออกไปจากที่พิพาทแล้วส่งคืนที่พิพาทในสภาพอันเรียบร้อยแก่โจทก์ ชั้นบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องว่า ที่พิพาทที่จำเลยปลูกบ้านอยู่นี้เป็นของวัดกำแพง(วัดร้าง) ซึ่งจำเลยเช่าจากวัดโบสถ์ และวัดร้างอยู่ในความดูแลของกรมการศาสนา บัดนี้ กรมการศาสนาได้ยื่นฟ้องโจทก์เพื่อเรียกที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์แล้ว หากกรมการศาสนาชนะคดีโจทก์แล้วอำนาจบังคับคดีของโจทก์ก็หมดไปในตัว จึงขอให้ศาลชั้นต้นรอการบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อรอผลคดีที่กรมการศาสนาฟ้องโจทก์ดังกล่าวให้ถึงที่สุดก่อน ดังนี้ คำร้องของจำเลยเป็นเรื่องขอให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งตามสมควรแก่รูปคดี ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยได้ใช้วิธีการต่าง ๆ ในเชิงคดีที่จะประวิงการบังคับคดีตามคำพิพากษาให้เนิ่นนานตลอดมา และปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้ผ่อนผันให้โอกาสและเวลานานพอที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำบังคับแล้ว การที่กรมการศาสนาฟ้องโจทก์ตามที่จำเลยกล่าวอ้างในคำร้อง ไม่เป็นเหตุที่จะงดการบังคับคดี