พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,124 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัดฟ้อง: เหตุล่าช้าจากที่อยู่จัดส่งที่ไม่ถูกต้อง และการแสดงเหตุคัดค้านคำพิพากษา
คำขอของจำเลยกล่าวว่า เพราะโจทก์ส่งหมายเรียกหมายนัด ตลอดจนคำบังคับ ณ ที่ดินซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย เป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่ต้น ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้าอันเนื่องมาจากพฤติการณ์นอกเหนือ ซึ่งจำเลยไม่อาจรู้ได้ ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพิพาทที่ดินราคาประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ฎีกา ศาลไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามมาตรา 248
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 248
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานอกประเด็น: จำเลยอ้างเหตุไม่มีอำนาจทำสัญญาขายร่วมกับภริยา ซึ่งไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล
โจทย์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินและเรือนโรงที่จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาว่า เนื่องจากจำเลยกับภริยาทำสัญญาหย่ากัน จำเลยไม่อาจจัดการประการใดในการที่ภริยาคัดค้านการซื้อขาย เพราะเป็นสิทธิของภริยา แต่จำเลยยอมขายที่ดินและเรือนโรงเฉพาะส่วนของจำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยไม่มีอำนาจทำสัญญาขายทรัพย์พิพาทให้โจทก์โดยลำพัง เนื่องจากจำเลยกับภริยาไม่ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เป็นฎีกานอกประเด็นที่จำเลยให้การไว้ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานอกประเด็น: การที่จำเลยอ้างเรื่องภริยาเป็นเจ้าของร่วมทรัพย์สิน มิได้ยกขึ้นเป็นเหตุต่อสู้ในชั้นศาลต่ำกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินและเรือนโรงที่จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาว่า เนื่องจากจำเลยกับภริยาทำสัญญาหย่ากัน จำเลยไม่อาจจัดการประการใดในการที่ภริยาคัดค้านการซื้อขาย เพราะเป็นสิทธิของภริยาแต่จำเลยยอมขายที่ดินและเรือนโรงเฉพาะส่วนของจำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยไม่มีอำนาจทำสัญญาขายทรัพย์พิพาทให้โจทก์โดยลำพังเนื่องจากจำเลยกับภริยาไม่ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่เป็นฎีกานอกประเด็นที่จำเลยให้การไว้ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และเจตนาฆ่า: การพิจารณาจากระยะห่างและทิศทางของกระสุน
เจ้าพนักงานตำรวจจะจับกุมจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยไม่ยอมให้จับกุมหลบหนีเข้าป่า แล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงจากในป่านั้น แต่อยู่ห่างไกลกับเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่รู้ว่าวิถีกระสุนไปทางไหน ดังนี้ ยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยคงมีความผิดฐานต่อสู้เจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 เท่านั้นไม่มีความผิดฐานเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และเจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่า
เจ้าพนักงานตำรวจจะจับกุมจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยไม่ยอมให้จับกุมหลบหนีเข้าป่า แล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงจากในป่านั้น แต่อยู่ห่างไกลกับเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่รู้ว่าวิถีกระสุนไปทางไหน ดังนี้ ยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยคงมีความผิดฐานต่อสู้เจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 เท่านั้น ไม่มีความผิดฐานเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่อนุญาตยื่นคำให้การใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา มิใช่วิธีพิจารณาคดี ทำให้ไม่อุทธรณ์ได้ทันที
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การจำเลยเพราะพ้นกำหนด 8 วันแม้จะเป็นการสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 ซึ่งจำเลยอาจอุทธรณ์ได้ทันทีตามมาตรา 228 ข้อ (3) แต่จำเลยมิได้อุทธรณ์ จำเลยกลับใช้สิทธิตามมาตรา 199 ยื่นคำร้องขอ ให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต ดังนี้ คำสั่งศาลชั้นต้นในครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลย มิใช่คำสั่งไม่รับคำให้การหรือคำสั่งอันเกี่ยวกับคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทันทีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่อนุญาตยื่นคำให้การใหม่หลังขาดนัด เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา อุทธรณ์ไม่ได้
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การจำเลยเพราะพ้นกำหนด 8 วัน แม้จะเป็นการสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งจำเลยอาจอุทธรณ์ได้ทันทีตามมาตรา 228 ข้อ (3) แต่จำเลยมิได้อุทธรณ์ จำเลยกลับใช้สิทธิตามมาตรา 199 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต ดังนี้ คำสั่งศาลชั้นต้นในครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลย มิใช่คำสั่งไม่รับคำให้การหรือคำสั่งอันเกี่ยวกับคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทันทีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การซ้ำได้ หากศาลยังไม่วินิจฉัยชี้ขาดคดี แม้จะเคยมีคำสั่งยกคำร้องขอขยายเวลา
คำสั่งศาลที่ให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลขยายเวลายื่นคำให้การไม่ใช่คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 โจทก์ย่อมยื่นคำร้องขอให้ศาลรับคำให้การ โดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การได้อีก ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ