คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวิง ลัดพลี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,124 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเอกสารปลอม จำเป็นต้องแสดงข้อเท็จจริงการสมคบหรือร่วมมือกระทำความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264, 265, 268, 83 ที่โจทก์อ้าง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องแสดงหลักฐานการสมคบร่วมกัน การให้การรับสารภาพเพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264,265,268,83 ที่โจทก์อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตขยายเวลา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การนั้น ตามกฎหมายเมื่อศาลสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้แล้วจึงจะถึงชั้นพิจารณาเกี่ยวกับการสั่งรับหรือสั่งไม่รับคำให้การต่อไปหากศาลสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาก็ไม่ต้องพิจารณาถึงการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การต่อไป
คำร้องขอขยายระยะเวลาไม่ใช่คำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(5) เพราะคำร้องดังกล่าวนี้ไม่ได้ตั้งประเด็นระหว่างคู่ความตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1(5) ฉะนั้น คำสั่งศาลในกรณีจึงมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความ และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลายื่นคำให้การและการสั่งรับ/ไม่รับคำให้การ: คำสั่งศาลเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความ
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การนั้น ตามกฎหมายเมื่อศาลสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้แล้ว จึงจะถึงชั้นพิจารณาเกี่ยวกับการสั่งรับหรือสั่งไม่รับคำให้การต่อไป หากศาลสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลา ก็ไม่ต้องพิจารณาถึงการสั่งรับหรือไม่รับคำให้การต่อไป
คำร้องขอขยายระยะเวลาไม่ใช่คำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1(5) เพราะคำร้องดังกล่าวนี้ไม่ได้ตั้งประเด็นระหว่างคู่ความตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1(5) ฉะนั้น คำสั่งศาลในกรณีนี้จึงมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความ และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินเพื่อชำระหนี้: ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา แต่เป็นการซื้อขาย
บิดาจำเลยได้ออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ไป และโจทก์ตกลงจะยกที่ดินให้จำเลย ต่อมาอีก 7 วันโจทก์ก็จดทะเบียนโอนที่ดินให้จำเลย ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หา แต่เป็นลักษณะการซื้อขายที่กัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินเพื่อชำระหนี้: ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา แต่เป็นการซื้อขาย
บิดาจำเลยได้ออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ไปและโจทก์ตกลงจะยกที่ดินให้จำเลยต่อมาอีก 7 วันโจทก์ก็จดทะเบียนโอนที่ดินให้จำเลยดังนี้ ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หาแต่เป็นลักษณะการซื้อขายที่กันโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินซื้อด้วยเงินสินเดิมระหว่างสมรส ถือเป็นสินสมรส
ที่ดินที่ภริยาซื้อมาระหว่างสมรส ถือว่าเป็นสินสมรส แม้ว่าภริยาจะเอาเงินสินเดิมของตนมาซื้อก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินซื้อระหว่างสมรสด้วยเงินสินเดิม ถือเป็นสินสมรส
ที่ดินที่ภริยาซื้อมาระหว่างสมรส ถือว่าเป็นสินสมรสแม้ว่าภริยาจะเอาเงินสินเดิมของตนมาซื้อก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการอายัดทรัพย์และการพิจารณาของศาลตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อายัดทรัพย์ของลูกหนี้ผู้ล้มละลาย แล้วต่อมามีผู้คัดค้าน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สอบสวนพยานของผู้คัดค้านแล้วสั่งถอนการอายัดนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจทำได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 19 และเมื่อผู้ร้องร้องต่อศาลขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งกลับคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลก็มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไรย่อมแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรเป็นราย ๆ ไป ตามมาตรา 146 กรณีไม่เข้ามาตรา 158 ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผู้คัดค้านว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการอายัดและถอนอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ และการพิจารณาของศาล
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อายัดทรัพย์ของลูกหนี้ผู้ล้มละลายแล้วต่อมามีผู้คัดค้านเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สอบสวนพยานของผู้คัดค้านแล้วสั่งถอนอายัดทรัพย์นั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจทำได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 19 และเมื่อผู้ร้องร้องต่อศาลขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งกลับคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ศาลก็มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไร ย่อมแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรเป็นรายๆไป ตามมาตรา 146 กรณีไม่เข้ามาตรา158 ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผู้คัดค้านว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์
of 113