คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวิง ลัดพลี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,124 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วางแผนร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมีพฤติการณ์หลอกล่อเหยื่อและเตรียมอาวุธ
จำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 2,3 ไปตามผู้ตายให้ไปกินข้าวที่บ้านถึง 2 ครั้ง ผู้ตายจึงยอมไป ส่วนจำเลยที่ 1 แทนที่จะคอยต้อนรับผู้ตายที่บ้าน กลับไปรออยู่กลางทางเมื่อจำเลยที่ 1 ยกปืนจะยิงผู้ตายผู้ตายปัดกระบอกปืน จำเลยที่ 2,3,4 ก็กลุ้มรุมทำร้ายผู้ตายทันที โดยจำเลยที่ 1 มิได้ขอร้องให้ช่วย พฤติการณ์จึงส่อแสดงว่าจำเลยวางแผนการหลอกผู้ตายมาทำร้ายระหว่างทาง เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว ยังได้ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าผู้ตายกับพวกมาฉุดลูกสาวจำเลยที่ 1 ไป อันเป็นแผนต่อไปที่จะสู้คดีข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา และโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกา: ประเด็นใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ ไม่อาจนำมาฎีกาได้
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้น ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับ เพราะประเด็นข้อกฎหมายใหม่ ไม่เคยยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้น ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, หน่วงเหนี่ยว, ทำร้ายร่างกาย: จำเลยกระทำผิดฐานดังกล่าวแม้ไม่ใช่เจ้าพนักงานจริง
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน แต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานจับกุมควบคุมตัวผู้เสียหายไปและเตะทำร้ายผู้เสียหายมีบาดเจ็บ มีรอยถลอกและเขียวช้ำบริเวณลิ้นปี่ หน้าท้องนูนขึ้นมา เวลากดบริเวณหน้าท้องเจ็บทั่ว ๆ ไปรักษาประมาณ 15 วันหายเป็นความผิดตามมาตรา 145,310 และ 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน ทำร้ายร่างกาย และหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน แต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานจับกุมควบคุมตัวผู้เสียหายไปและเตะทำร้ายผู้เสียหายมีบาดเจ็บ มีรอยถลอกและเขียวช้ำบริเวณลิ้นปี่ หน้าท้องนูนขึ้นมา เวลากดบริเวณหน้าท้องเจ็บทั่วๆ ไปรักษาประมาณ 15 วันหายเป็นความผิดตามมาตรา145,310 และ 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดี: ผู้แพ้คดีต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แม้จะมีการถอนการยึดทรัพย์โดยคำสั่งศาล
จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้น โจทก์ขอหมายบังคับคดี และนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 251 ศาลสั่งอนุญาต และให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี นั้น เป็นการที่ชอบ เพราะโจทก์เป็นผู้แพ้คดี โจทก์ต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมไปจนกว่าศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น และเรื่องความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมนั้น เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดีและการใช้ดุลพินิจศาลเมื่อมีการถอนการยึดทรัพย์หลังแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้น โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย ในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251 ศาลสั่งอนุญาตและให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี นั้นเป็นการที่ชอบ เพราะโจทก์เป็นผู้แพ้คดี โจทก์ต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมไปจนกว่าศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น และเรื่องความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากเรือน (อสังหาริมทรัพย์) ที่มิได้จดทะเบียนเป็นโมฆะ ทำให้สิทธิในเรือนยังคงเป็นของจำเลย
เมื่อจำเลยปลูกเรือนพิพาทลงในที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ เรือนพิพาทย่อมมีสภาพติดอยู่กับดิน ไม่อาจเคลื่อนจากที่ได้ จึงเป็นอสังหาริมทรัพย์
ตามสำเนาสัญญาขายฝากท้ายฟ้องโจทก์ โจทก์จำเลยมีเจตนาขายฝากเรือนพิพาทอย่างเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อสัญญานั้นมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากเรือนซึ่งติดกับที่ดินเช่าตกเป็นโมฆะเนื่องจากไม่จดทะเบียน ทำให้สิทธิในเรือนยังเป็นของผู้ขาย
เมื่อจำเลยปลูกเรือนพิพาทลงในที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ เรือนพิพาทย่อมมีสภาพติดอยู่กับดิน ไม่อาจเคลื่อนจากที่ได้ จึงเป็นอสังหาริมทรัพย์
ตามสำเนาสัญญาขายฝากท้ายฟ้องโจทก์ โจทก์จำเลยมีเจตนาขายฝากเรือนพิพาทอย่างเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อสัญญานั้นมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดจากการสมรสหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และหน้าที่การนำสืบ
แม้เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ถ้าจะขาดจากการสมรสภายหลังที่ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กรณีเรื่องขาดจากการสมรสไม่ใช่ความสัมพันธ์ในครอบครัวอันเกิดจากการสมรสตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2477 แต่เป็นกรณีที่จะสิ้นความสัมพันธ์ต่อกัน
การหย่ากันโดยความยินยอม โดยมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่กฎหมายบัญญัติไว้นั้น ไม่มีผลทำให้ขาดจากการสมรส
โจทก์เป็นสามีภริยากับผู้ตาย เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์กับผู้ตายขาดจากกัน จำเลยต้องนำสืบ
of 113