พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดถืออาวุธปืนราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยนำอาวุธปืนเล็กกลซึ่งมีไว้ในราชการและนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนของกลางออกไปนอกหน่วยที่ตั้งซึ่งจำเลยประจำการอยู่ ติดตัวไปเป็นเวลาหลายวันโดยจะต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลออกไปต่างจังหวัด ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยในการยึดถืออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางไว้เพื่อตนโดยมุ่งหวังจะใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้นในทางก่อประโยชน์แก่ตนตลอดระยะเวลาดังกล่าว มิใช่เป็นการมีหรือใช้ในราชการเนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการลาพักผ่อนของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง และมิได้รับยกเว้นตามบทบัญญัติมาตรา 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนนอกหน่วยงานช่วงลาพักผ่อน ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยนำอาวุธปืนเล็กกลซึ่งมีไว้ในราชการและนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนของกลางออกไปนอกหน่วยที่ตั้งซึ่งจำเลยประจำการอยู่ ติดตัวไปเป็นเวลาหลายวันโดยจะต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลออกไปต่างจังหวัด ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยในการยึดถืออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางไว้เพื่อตนโดยมุ่งหวังจะใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้นในทางก่อประโยชน์แก่ตนตลอดระยะเวลาดังกล่าว มิใช่เป็นการมีหรือใช้ในราชการเนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการลาพักผ่อนของจำเลยการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55,78 วรรคหนึ่ง และมิได้รับยกเว้นตามบทบัญญัติมาตรา 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่คุ้มครองราษฎรที่มีอาวุธของทางราชการ
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 5(1) ที่บัญญัติว่า "พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ (1) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนของราชการทหารและตำรวจ ฯลฯ" นั้น มีความหมายถึง อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ของทางราชการทหารหรือตำรวจ ที่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ มิได้มีความหมายเลยไปถึงราษฎรเช่นจำเลยซึ่งมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนของทางราชการตำรวจแล้วจะไม่เป็นความผิด จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองโดยบทบัญญัติมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1852/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลางคดีอาวุธปืนภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ผ่อนผันโทษ แม้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ริบแล้ว
สำหรับปืน ปลอกกระสุนปืนและเม็ดตะกั่วของกลางนั้น. เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นของที่จำเลยใช้กระทำผิด.แม้จะเป็นปืนที่ไม่มีทะเบียน. และในขณะฟ้องตลอดจนเมื่อศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษ จะเป็นทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดให้ริบเสียสิ้น. ไม่ว่าจะเป็นของผู้กระทำความผิดและมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32. แต่เมื่อคดีมาสู่ศาลอุทธรณ์และอยู่ระหว่างพิจารณา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2510 มาตรา 5. ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน กระสุนปืนฯ. โดยไม่ได้รับอนุญาต.นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน. โดยผู้นั้นไม่ต้องได้รับโทษ. ต้องถือว่าในระหว่างนั้น กฎหมายยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืน กระสุนปืนฯ. โดยไม่ได้รับอนุญาต. แม้เป็นเรื่องที่ถูกฟ้องและศาลลงโทษไปก่อนใช้พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวแล้วก็ตามศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาคืนของกลางให้เจ้าของไปได้. และแม้จะได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายหลังระยะเวลา 90 วันตามที่กฎหมายกำหนดไว้. ก็หาทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปไม่.
อนึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์อ้างบทมาตราของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ข้างต้นผิด.แต่ก็ไม่เป็นเหตุให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป.
อนึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์อ้างบทมาตราของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ข้างต้นผิด.แต่ก็ไม่เป็นเหตุให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องอาวุธปืนเมื่อกฎหมายใหม่ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้กระทำผิดในช่วงเวลาที่ศาลพิจารณาคดี
แม้ในขณะที่โจทก์ฟ้อง จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490ก็ดี. แต่ในระหว่างที่ศาลชั้นต้นพิจารณาคดี ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4)พ.ศ.2510ประกาศใช้บังคับ. ซึ่งตามมาตรา 5 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต. นำไปขอรับอนุญาตต่อนายทะเบียนท้องที่ได้ภายใน90 วัน นับแต่วันใช้บังคับพระราชบัญญัติฉบับนี้. คือตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2510 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2511ซึ่งได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมาย. ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2510 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างเวลาที่กฎหมายให้สิทธิไม่เอาโทษแก่จำเลยด้วย. ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจยกฟ้องโจทก์ได้. ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อนี้จึงชอบแล้ว. แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่ล่วงพ้นระยะเวลา 90 วันตามพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ไม่สำคัญ. (อ้างฎีกาประชุมใหญ่ที่ 889/2503).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบความรู้เรื่องกระสุนปืน: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นกระสุนสงคราม
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานแสดงให้เห็นว่า ความจริงจำเลยย่อมทราบตั้งแต่ได้ครอบครองกระสุนปืนของกลางว่าเป็นกระสุนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงคราม ก็จะลงโทษจำเลยในความผิดฐานนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กับอาวุธของทางราชการทหาร: การเก็บรักษากระสุนปืนโดยนายคลังยุทธภัณฑ์
จำเลยเป็นนายคลังยุทธภัณฑ์ย่อมมีอำนาจเก็บรักษากระสุนปืนของทหารไว้ในความควบคุมได้ การที่จำเลยนำกระสุนปืนไปเก็บไว้ที่บ้านในบริเวณของทหารนั่นเองจะฟังว่ากระสุนปืนไม่ใช่ของราชการทหารยังไม่ได้จำเลยจึงยังไม่มีผิดฐานมีอาวุธปืนสำหรับจะใช้แต่เฉพาะในการสงครามตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน2490 มาตรา 55,78
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการทหารนั้น พระราชบัญญัติอาวุธปืนไม่ใช้บังคับ (อ้างฎีกาที่ 1958/2492)
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการทหารนั้น พระราชบัญญัติอาวุธปืนไม่ใช้บังคับ (อ้างฎีกาที่ 1958/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระสุนปืนของทางราชการทหาร ไม่อยู่ภายใต้บังคับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ หากจำเลยมีอำนาจเก็บรักษา
จำเลยเป็นคลังยุทธภัณฑ์ย่อมมีอำนาจเก็บรักษากระสุนปืนของทหารไว้ในความควบคุมได้ การที่จำเลยนำกระสุนปืนไปเก็บไว้ที่บ้านในบริเวณของทหารนั่นเอง จะฟังว่ากระสุนปืนไม่ใช่ของราชการทหารยังไม่ได้ จำเลยจึงยังไม่มีผิดฐานมีอาวุธปืนสำหรับจะใช่แต่เฉพาะในการสงครามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 55,78
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการทหารนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนไม่ใช้บังคับ
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการทหารนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนไม่ใช้บังคับ