คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 48

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 174 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิดฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตสำหรับผู้ได้รับอนุญาตโรงงานแปรรูปไม้
ผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ นำไม้ที่ไม่ได้เสียหายค่าภาคหลวงเข้ามาในโรงงานมีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 51 เท่านั้น หามีผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา อีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิดฐานแปรรูปไม้เถื่อน: แยกความผิดฐานครอบครองและแปรรูป
ผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้นำไม้ที่ไม่ได้เสียค่าภาคหลวงเข้ามาในโรงงานมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 51 เท่านั้น หามีผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 48 อีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณไม้แปรรูปที่ไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยมิไม้สักแปรรูปจำนวนปริมาตร 0.09 เมตรลูกบาศก์ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณไม้แปรรูปที่ไม่เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวนปริมาตร .09 เมตรลูกบาศก์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และการพิพากษาริบไม้ของกลาง
คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ในมาตรา 5 พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 แต่ประการใด (ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องพิสูจน์การประกาศพระราชกฤษฎีกา
คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ใน มาตรา 5 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ประการใด(ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตร ลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งจำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องด้วยวาจาและการบันทึกข้อหา - เขตควบคุมการแปรรูปไม้และไม้หวงห้าม - การรับสารภาพ
คดีผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวง เมื่อจำเลยรับสารภาพ ผู้ว่าคดีนำมาฟ้องต่อศาลแขวงด้วยวาจา ศาลบันทึกใจความฟ้องในแบบพิมพ์บันทึกคำฟ้อง ฯลฯ ตามมาตรา 20 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯลฯว่า จำเลยบังอาจตั้งโรงค้าไม้แปรรูปเพื่อทำการจำหน่าย และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่รัฐมนตรีได้กำหนดและประกาศตามกฎหมายแล้ว และไม้ที่มีไว้ในครอบครองก็เป็นไม้ประเภทหวงห้ามด้วย ซึ่งไม่ใช่ใจความสำคัญ ศาลจึงไม่บันทึกไว้ ข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์จึงเข้าหลักเกณฑ์เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษแล้ว
บันทึกที่ว่า "จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา" ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ในแบบพิมพ์ ต้องถือว่าศาลได้สอบถามจำเลยแล้วจึงเท่ากับศาลได้บันทึกคำให้การจำเลยตามที่สอบถามด้วยลายมือของศาลเหมือนกัน ย่อมมีผลใช้ได้ตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ทุกประการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องด้วยวาจาคดีป่าไม้ ศาลต้องบันทึกใจความสำคัญครบถ้วน แม้ไม่ใช่รายละเอียดทั้งหมด
คดีผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวง เมื่อจำเลยรับสารภาพ ผู้ว่าคดีนำมาฟ้องต่อศาลแขวงด้วยวาจา ศาลบันทึกใจความฟ้องในแบบพิมพ์บันทึกคำฟ้อง ฯลฯ ตามมาตรา 20 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ ว่าจำเลยบังอาจตั้งโรงค้าไม้แปรรูปเพื่อทำการจำหน่าย และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ตลอดข้อหา ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่รัฐมนตรีได้กำหนดและประกาศตามกฎหมายแล้ว และไม้ที่มีไว้ในครอบครองก็เป็นไม้ประเภทหวงห้ามด้วย ซึ่งไม่ใช่ใจความสำคัญ ศาลจึงไม่บันทึกไว้ ข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์จึงเข้าหลักเกณฑ์เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษแล้ว
บันทึกที่ว่า จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ในแบบพิมพ์ ต้องถือว่าศาลได้สอบถามจำเลยแล้ว จึงเท่ากับ ศาลได้บันทึกคำให้การจำเลยตามที่สอบถามด้วยลายมือของศาลเหมือนกัน ย่อมมีผลใช้ได้ตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ทุกประการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปผิดกฎหมาย: เจ้าของไม้ยังคงมีความรับผิดชอบแม้ไม่ได้ดูแลรักษาด้วยตนเอง
การที่ลูกจ้างของเจ้าของไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต เคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปตามคำสั่งของเจ้าของก็แสดงว่าเจ้าของยังยึดถือเป็นเจ้าของไม้นั้นอยู่ เจ้าของไม้จะไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทำให้การครอบครองตามความหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ในฐานะเป็นเจ้าของสิ้นสุดไป และ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ก็มิได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เจ้าของไม้จำต้องดูแลรักษาด้วยตนเองแต่อย่างไร เจ้าของไม้ต้องมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปโดยเจ้าของ แม้ไม่ได้ดูแลรักษาเอง ก็ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
การที่ลูกจ้างของเจ้าของไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปตามคำสั่งของเจ้าของ ก็แสดงว่าเจ้าของยังยึดถือเป็นเจ้าของไม้นั้นอยู่ เจ้าของไม้จะไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทำให้การครอบครองตามความหมายพระราชบัญญัติป่าไม้ในฐานะเป็นเจ้าของสิ้นสุดไป และตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ก็มิได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เจ้าของไม้จำต้องดูแลรักษาด้วยตนเองแต่อย่างไรเจ้าของไม้ต้องมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
of 18