คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 72 ทวิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4656/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราโทษจำคุกไม่ถึงสิบปี ศาลไม่ต้องสอบถามจำเลยเรื่องทนายก่อนพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิด 2 กรรมตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ฐานมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ตามมาตรา 7 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 72 วรรคสาม จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี กับฐานพาอาวุธปืนไปตามมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 72 ทวิ วรรคสอง จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปีนั้น ความผิดที่โจทก์ฟ้องมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึงสิบปี แม้คำขอท้ายฟ้อง ของโจทก์ไม่ระบุว่าวรรคใด ก็ต้องถือเอาคำขอที่สอดคล้องกับคำบรรยายฟ้อง เป็นสำคัญ กรณีเช่นนี้ศาลไม่ต้องสอบถามจำเลยในเรื่องทนายก่อนเริ่มพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้
ในชั้นอุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษหรือรอการกำหนดโทษไว้ แต่ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ เพื่อให้การพิจารณาคดี เป็นไปตามลำดับชั้นศาล ศาลฎีกาเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกระเบิดใช้การไม่ได้ ไม่เป็นวัตถุระเบิด/เครื่องกระสุนปืน ศาลแก้โทษพาอาวุธปืนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ลูกระเบิดของกลางอยู่ในสภาพที่ใช้ทำการระเบิดไม่ได้เพราะชนวนถูกทำลายและวัตถุระเบิดที.เอ็น.ที.ที่บรรจุอยู่ภายในถูกสำรอกออกหมดแล้วทั้งตัวเปลือกลูกระเบิดของกลางถูกตัดออกเป็นช่องสี่เหลี่ยมดังนั้นลูกระเบิดของกลางจึงไม่เป็นวัตถุระเบิดเมื่อลูกระเบิดของกลางไม่เป็นวัตถุระเบิดเสียแล้วย่อมไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนด้วย. ศาลอุทธรณ์พิพากษาข้อหาพาอาวุธปืนว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ.2490มาตรา8ทวิและ72ทวิและประมวลกฎหมายอาญามาตรา371ซึ่งการกระทำของจำเลยในข้อหานี้เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทโดยมิได้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยนั้นไม่ถูกต้องศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุระเบิดสภาพไม่ใช้งาน ไม่เป็นเครื่องกระสุนปืน, การลงโทษอาญาฐานพาอาวุธปืนต้องใช้บทหนักสุด
ลูกระเบิดของกลางอยู่ในสภาพที่ใช้ทำการระเบิดไม่ได้เพราะชนวนถูกทำลายและวัตถุระเบิด ที.เอ็น.ที.ที่บรรจุอยู่ภายในถูกสำรอกออกหมดแล้วทั้งตัวเปลือกลูกระเบิดของกลางถูกตัดออกเป็นช่องสี่เหลี่ยม ดังนั้น ลูกระเบิดของกลางจึงไม่เป็นวัตถุระเบิด เมื่อลูกระเบิดของกลางไม่เป็นวัตถุระเบิดเสียแล้วย่อมไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนด้วย.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาข้อหาพาอาวุธปืนว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ และ 72 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ซึ่งการกระทำของจำเลยในข้อหานี้เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทโดยมิได้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยนั้นไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครอง, พาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมือง แม้ไม่มีของกลาง ก็ลงโทษได้
คดีความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ และความผิดลหุโทษเกี่ยวกับอาวุธปืน แม้ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลาง แต่ฟังได้ว่าจำเลยชักอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ก็ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจากความผิดอาญาฐานฆ่าผู้อื่น เนื่องจากจำเลยมอบตัวและให้การเป็นประโยชน์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายต่อหน้าสาธารณชนในร้านอาหารประจักษ์พยานของโจทก์หลายคนต่างก็รู้จักจำเลยเป็นอย่างดีข้อเท็จจริงจากการนำสืบของโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดจริงเมื่อถูกฟ้องจำเลยจึงให้การรับสารภาพแสดงให้เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน อย่างไรก็ดีหลังจากเกิดเหตุแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ให้การรับสารภาพและนำชี้ที่เกิดเหตุให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่เกิดเหตุและถ่ายภาพไว้ ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78ลดโทษให้หนึ่งในสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดีอาญา เนื่องจากมอบตัว รับสารภาพ และให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายต่อหน้าสาธารณชนในร้านอาหารประจักษ์พยานของโจทก์หลายคนต่างก็รู้จักจำเลยเป็นอย่างดีข้อเท็จจริงจากการนำสืบของโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงเมื่อถูกฟ้องจำเลยจึงให้การรับสารภาพแสดงให้เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานอย่างไรก็ดีหลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนให้การรับสารภาพและนำชี้ที่เกิดเหตุให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่เกิดเหตุและถ่ายภาพไว้ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา78ลดโทษให้หนึ่งในสาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3729/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพกพาอาวุธปืนต้องมีการเคลื่อนย้าย การนั่งอยู่กับที่ถือว่าไม่เป็นความผิด
การกระทำความผิดฐานพาอาวุธปืนนั้นต้องได้ความว่า จำเลยได้นำอาวุธปืนเคลื่อนที่ไปในถนนหรือทางสาธารณะหรือนำเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยการกระทำที่เป็นสาระสำคัญคือการนำอาวุธปืนเคลื่อนที่ไปในขณะกระทำผิด หากปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่หยิบเอาอาวุธปืนสั้นของเพื่อนที่วางไว้บนโต๊ะหน้าร้านขายอาหารริมถนนมาเหน็บไว้ที่เอว และคงนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน ดังนี้ ไม่เป็นความผิดฐานพาอาวุธปืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม การพกพาอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต และอำนาจยกฟ้องของศาลฎีกา
การวิวาทหมายถึงการสมัครใจเข้าต่อสู้ทำร้ายกันคำพูดของจำเลย ที่ว่าการย้ายตำรวจต้องมีขั้นตอนต้องมีคณะกรรมการอย่าไปเชื่อให้มากนัก เป็นเพียงการแสดงความเห็นในการสนทนาเท่านั้น มิได้มีข้อความใด ที่เป็นการท้าทายให้ผู้ตายหรือผู้เสียหายออกมาต่อสู้ทำร้ายกับจำเลย เพียงแค่นี้จะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทมิได้
จำเลยถูกตีที่ทัดดอกไม้ด้านขวาจนร่วงตกจากเก้าอี้เข่าทรุดลงกับพื้น ผู้ตายเข้าล็อกคอและดึงคอเสื้อจำเลยไว้พร้อมกับพูดว่าเอาให้ตาย และมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจะรุมทำร้ายจำเลยจำเลยสะบัดหลุด แล้วชักปืนออกมาขู่ โดยหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนว่าอย่าเข้ามาทันใดนั้นมีคนเข้ามาตะปบปืนในมือจำเลยเพื่อจะแย่งปืน ปืนลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายจำเลยวิ่งหนี แต่คนกลุ่มนั้นวิ่งไล่ตามจะทำร้ายจำเลย จำเลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าอีก 1 นัด แล้ววิ่งไปได้หน่อยหนึ่งก็หมดสติล้มลงกระสุนปืนนัดที่สองพลาดไป ถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือพยายามฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดและจะถือว่าจำเลยกระทำให้ผู้อื่นตายโดยประมาท หรือรับอันตรายสาหัสโดยประมาทมิได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปืนของกรมตำรวจซึ่งจำเลย มีสิทธิพกอาวุธปืนได้ทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน กรณีของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 8 ทวิ และจำเลย ย่อมไม่มีความผิดตาม มาตรา 72 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เมื่อปรากฏแก่ศาลฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว การใช้กำลังเกินสมควร และการยกฟ้องอาญาเมื่อไม่มีความผิดตามกฎหมายอาวุธปืน
การวิวาทหมายถึงการสมัครใจเข้าต่อสู้ทำร้ายกันคำพูดของจำเลยที่ว่าการย้ายตำรวจต้องมีขั้นตอนต้องมีคณะกรรมการอย่าไปเชื่อให้มากนักเป็นเพียงการแสดงความเห็นในการสนทนาเท่านั้น มิได้มีข้อความใดที่เป็นการท้าทายให้ผู้ตายหรือผู้เสียหายออกมาต่อสู้ทำร้ายกับจำเลยเพียงแค่นี้จะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทมิได้ จำเลยถูกตีที่ทัดดอกไม้ด้านขวาจนร่วงตกจากเก้าอี้เข่าทรุดลงกับพื้น ผู้ตายเข้าล็อกคอและดึงคอเสื้อจำเลยไว้พร้อมกับพูดว่าเอาให้ตายและมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจะรุมทำร้ายจำเลยจำเลยสะบัดหลุดแล้วชักปืนออกมาขู่ โดยหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนว่าอย่าเข้ามาทันใดนั้นมีคนเข้ามาตะปบปืนในมือจำเลยเพื่อจะแย่งปืนปืนลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายจำเลยวิ่งหนีแต่คนกลุ่มนั้นวิ่งไล่ตามจะ ทำร้ายจำเลย จำเลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าอีก 1นัดแล้ววิ่งไปได้หน่อยหนึ่งก็หมดสติล้มลงกระสุนปืนนัดที่สองพลาดไปถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือพยายามฆ่าจำเลยจึงไม่มีความผิดและจะถือว่าจำเลยกระทำให้ผู้อื่นตายโดยประมาทหรือรับอันตรายสาหัสโดยประมาทมิได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปืนของกรมตำรวจซึ่งจำเลยมีสิทธิพกอาวุธปืนได้ทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน กรณีของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 8ทวิ และจำเลยย่อมไม่มีความผิดตาม มาตรา 72ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯเมื่อปรากฏแก่ศาลฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพาอาวุธปืนเพื่อป้องกันการกระทำผิดของผู้อื่น ไม่ถือเป็นการพาอาวุธปืนในทางสาธารณะ
การที่จำเลยที่ 1 ถือปืนกลับบ้านพร้อมจำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และการพาอาวุธปืนนั้นไปเป็นการป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 2 นำไปใช้กระทำผิดและนำกลับบ้านเท่านั้น มิได้มีเจตนาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ
of 10