พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4140/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการมรดกในการฟ้องหนี้สินนอกพินัยกรรม และการซื้อขายโบราณวัตถุไม่ขัดกฎหมาย
อำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1719ไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะทรัพย์ที่กำหนดไว้ในพินัยกรรมเท่านั้นทรัพย์มรดกในส่วนที่มิได้จำหน่ายโดยพินัยกรรมหรือส่วนที่พินัยกรรมไม่มีผลบังคับย่อมตกได้แก่ทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1620ผู้จัดการมรดกก็มีอำนาจหน้าที่จัดการแบ่งปันให้แก่ทายาทด้วยดังนั้นผู้จัดการมรดกจึงมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม สัญญากู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อโบราณวัตถุตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวไม่เป็นโมฆะเพราะไม่มีกฎหมาย ห้ามมิให้มีการซื้อขายโบราณวัตถุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4140/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการมรดกในการฟ้องสิทธิเรียกร้องนอกพินัยกรรม และการซื้อขายโบราณวัตถุ
อำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1719 ไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะทรัพย์ที่กำหนดไว้ในพินัยกรรมเท่านั้นทรัพย์มรดกในส่วนที่มิได้จำหน่ายโดยพินัยกรรม หรือส่วนที่พินัยกรรมไม่มีผลบังคับย่อมตกได้แก่ทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1620 ผู้จัดการมรดกก็มีอำนาจหน้าที่จัดการแบ่งปันให้แก่ทายาทด้วย ดังนั้น ผู้จัดการมรดกจึงมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ที่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม
สัญญากู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อโบราณวัตถุตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวไม่เป็นโมฆะ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามมิให้มีการซื้อขายโบราณวัตถุ
สัญญากู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อโบราณวัตถุตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวไม่เป็นโมฆะ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามมิให้มีการซื้อขายโบราณวัตถุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายโบราณสถาน: ศาลต้องสืบข้อเท็จจริงว่ากำแพงเป็นส่วนหนึ่งของพระปรางค์หรือไม่ ก่อนพิพากษา
กรมศิลปากรได้ออกประกาศกำหนด 'พระปรางค์วัดหน้าพระธาตุฯลฯ' เป็นโบราณสถานแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องกล่าวว่า จำเลยทำลายกำแพงพระปรางค์วัดหน้าพระธาตุ แต่ก็บรรยายมาด้วยว่ากำแพงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพระปรางค์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงกัน เป็นรายๆไปว่า กำแพงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพระปรางค์หรือไม่ จะด่วนพิพากษายกฟ้องเสียโดยวินิจฉัยว่า ตามประกาศมิได้กำหนดเอากำแพงพระปรางค์เป็นโบราณสถานด้วยนั้น ยังไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายโบราณสถาน: ศาลต้องสืบข้อเท็จจริงว่ากำแพงเป็นส่วนหนึ่งของพระปรางค์หรือไม่ ก่อนพิพากษา
กรมศิลปากรได้ออกประกาศกำหนด "พระปรางค์วัดหน้าพระธาตุ ฯลฯ" เป็นโบราณสถาน แม้โจทก์จะบรรยายฟ้อง กล่าวว่า จำเลยทำลายกำแพงพระปรางค์วัดหน้าพระธาตุ แต่ก็บรรยายมาด้วยว่า กำแพงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพระ ปรางค์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงกัน เป็นราย ๆ ไปว่า กำแพงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพระปรางค์หรือไม่ จะด่วนพิพากษายกฟ้อง เสียโดยวินิจฉัยว่า ตามประกาศมิได้กำหนดเอากำแพงพระปรางค์เป็นโบราณสถานด้วย นั้น ยังไม่ชอบ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายโบราณสถานโดยผู้ไม่เป็นเจ้าของ ไม่ผิดตามมาตรา 10 พ.ร.บ.โบราณสถานฯ
เจดีย์ซึ่งทางราชการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอยู่ในอารักขาของทางราชการนั้น ถ้ามีผู้อื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของพระเจดีย์องค์นั้นไปขุดทำลายหรือทำให้เสียหายแก่พระเจดีย์นั้น ผู้นั้นยังไม่ผิดตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุฯลฯ พ.ศ.2477ฉะนั้นจึงจะลงโทษตามมาตรา 30 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายโบราณสถานโดยผู้ไม่เป็นเจ้าของ: ไม่มีผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน
เจดีย์ ซึ่งทางราชการขึ้นทะเบียนเป็นโบรารสถานอยู่ในอารักขาของทางราชการนั้น ถ้ามีผู้อื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของพระเจดีย์องค์นั้นไปขุดทำลายหรือทำให้เสียหายแก่พระเจดีย์นั้น ผู้นั้นยังไม่ผิดตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณสถานวัตถุ ฯลฯ พ.ศ.2477 ฉะนั้นจึงจะลงโทษตามมาตรา 30 ไม่ได้