คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 1

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177-1178/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำขอท้ายฟ้องและการฎีกา ศาลฎีกามิอาจแก้คำพิพากษาให้โจทก์ได้ประโยชน์เกินกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา
เดิม คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดเป็นเงิน 750 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้เพิ่มเติมฟ้องเฉพาะคำขอข้อนี้ว่า ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดเป็นเงินปีละ 750 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกไปจากที่ดินของโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาตแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์คนละ750 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์มิได้ฎีกา เป็นแต่ยื่นคำแถลงการณ์ว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้ไม่ชัดเจนขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ปีละ 750 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกไปจากที่ดินของโจทก์ ดังนี้ การที่จะพิพากษาให้เป็นไปตามที่โจทก์กล่าวในคำแถลงการณ์ จะเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับค่าเสียหายเพิ่มขึ้นจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นการวินิจฉัยประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการแก้ไขให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น แม้ศาลอุทธรณ์จะไม่ได้พิพากษาให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติม หากโจทก์ไม่พอใจ ก็ชอบที่จะฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่เมื่อโจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกาย่อมจะแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ได้รับค่าเสียหายเพิ่มขึ้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดก: การพิพาทระหว่างผู้จัดการมรดกกับผู้รับพินัยกรรม การคิดค่าฤชาธรรมเนียมและทนายความ
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นทรัพย์สินของกองมรดกอยู่ ยังไม่ตกได้แก่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทยังไม่ตกได้แก่จำเลย และให้จำเลยคืนเงินค่าเช่าที่จำเลยรับไว้จากผู้เช่าพร้อมทั้งดอกเบี้ย ให้แก่ผู้จัดการมรดกเป็นผู้เก็บรักษาไว้ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทตกได้แก่จำเลยตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกแล้ว เงินค่าเช่าที่พิพาทที่จำเลยรับไว้ก็ตกเป็นของจำเลยด้วย ศาลจึงกำหนดประเด็นที่โจทก์จำเลยจะนำสืบไว้ว่า ที่ดินวังพิพาทยังเป็นของกลางของทายาทหรือตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยตามพินัยกรรมแล้ว จำเลยแถลงต่อศาลขอยืนยันให้ศาลชี้ขาดกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทไปตามจำเลยให้การต่อสู้ ดังนี้ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลี้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลเมื่อจำเลยแพ้คดีชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจใช้ดุลยพินิจให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้ และเมื่อเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จำเลยจึงต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ตามราคาทรัพย์ที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทนายจำเลยในการยื่นคำให้การ และการพิจารณาค่าทนายในชั้นอุทธรณ์
ทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของผู้นั้น เสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรค 2 มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทนายจำเลยในการยื่นคำให้การล่าช้า และการปฏิบัติหน้าที่ทนายโจทก์ในชั้นอุทธรณ์
ทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของผู้นั้น เสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้ โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายฟ้องแทน และสิทธิเช่าที่ดินเมื่อสัญญาเช่าร่วมถูกบอกเลิกเฉพาะคู่สัญญาบางส่วน
ทนายโจทก์ลงนามฟ้องความแทนโจทก์โดยอาศัยใบแต่งทนายซึ่งโจทก์ทำให้เพียงใบเดียว แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องความ ก็ย่อมใช้ได้
การเช่าที่ราชพัสดุรายพิพาท โจทก์จำเลยที่ 1 และ นางชอุ่ม ได้ทำสัญญาเช่าร่วมกัน รับผิดต่อกระทรวงการคลัง แต่ทำสัญญาแยกกันคนละฉบับ ต่อมา จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวทำสัญญา โดยเอาที่นี้ไปให้จำเลยที่ 2 เช่าช่วงปลูกโรงภาพยนต์ กระทรวงการคลังจึงได้บอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว เช่นนี้สัญญาเช่าระหว่างกระทรวงการคลัง กับ โจทก์และ นางชอุ่ม ซึ่งมิได้ถูกบอกเลิกนั้น ยังคงใช้ได้อยู่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท การตรวจสอบหลักฐานข้ามสำนวนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาจะเรียกสำนวนคดีอื่นมาประกอบการวินิจฉัยก่อน มีคำพิพากษาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้ยกฟ้องเมื่อโจทก์ไม่มาศาล มิใช่การขอให้จำหน่ายคดี
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่าโจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาลตามเวลานัดคงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องของโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรค 2เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้นศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้นศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถลงขอให้ยกฟ้องกับการดำเนินกระบวนพิจารณาตาม ป.วิ.แพ่ง ม.201 วรรค 2
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่า โจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ๆไม่มาศาลตามเวลานัด คงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องชองโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 201 วรรค 2 เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้น ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น ศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ
of 3