คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ม.ร.ว.ชัยวัฒน์ ชมพูนุท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 181 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกคดี ไม่มีสิทธิร้องขอเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความในคดี จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ก็แต่ด้วยการร้องสอดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำระหว่างคู่ความในคดี
บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความในคดี จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ก็แต่ด้วยการร้องสอดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2589/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนทรัพย์ที่ยืมใช้คงรูป: ใช้มาตรา 164 (10 ปี) ไม่ใช่มาตรา 649
อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 649 เป็นกรณีฟ้องให้รับผิดเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูปเช่นค่าเสียหายเกี่ยวกับความชำรุดหรือเสื่อมราคาเนื่องจากการใช้สอยทรัพย์ที่ยืม ในกรณีฟ้องเรียกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยืมไม่มีบทกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2589/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนทรัพย์ที่ยืมใช้คงรูป: มาตรา 164 (10 ปี) มิใช่มาตรา 649
อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 649 เป็นกรณีฟ้องให้รับผิดเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูป เช่นค่าเสียหายเกี่ยวกับความชำรุดหรือเสื่อมราคาเนื่องจากการใช้สอยทรัพย์ที่ยืม ในกรณีฟ้องเรียกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยืมไม่มีบทกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: อายุความ 10 ปี เริ่มนับจากวันทำสัญญา ไม่ใช่ตามมูลหนี้เดิม
การที่จำเลยตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ป. เนื่องจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างจำเลย เป็นการตกลงระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้เรียกร้องนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 สิทธิเรียกร้องของ ป.ในมูลหนี้ละเมิดจึงระงับสิ้นไป และได้สิทธิเรียกร้องใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
สิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานโดยการประนีประนอมยอมความมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา168 มิใช่ถืออายุความตามมูลหนี้เดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: อายุความ 10 ปี เริ่มนับจากวันทำสัญญา ไม่ใช่ตามมูลหนี้เดิม
การที่จำเลยตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ป. เนื่องจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างจำเลย เป็นการตกลงระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้เรียกร้องนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 สิทธิเรียกร้องของ ป.ในมูลหนี้ละเมิดจึงระงับสิ้นไป และได้สิทธิเรียกร้องใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
สิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานโดยการประนีประนอมยอมความมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา168 มิใช่ถืออายุความตามมูลหนี้เดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 หากไม่มีหลักฐานการเป็นตัวแทน และการระงับมูลหนี้ละเมิด
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1 กับตัวแทนของโจทก์ระบุว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ มิได้ระบุว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 2 ทั้งไม่ปรากฏหลักฐานเป็นหนังสือแสดงการตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 2 จะลงลายมือชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความด้วยก็ลงในฐานะเป็นพยานเจ้าของรถ หาใช่กระทำในฐานะนายจ้างหรือคู่สัญญาไม่ สัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2
โจทก์กับจำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาท อันเป็นเหตุให้มูลหนี้ละเมิดระงับสิ้นไปและโจทก์ได้สิทธิใหม่ตามสัญญา ความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างและตัวการเพื่อการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ย่อมระงับ เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 หากไม่มีหลักฐานการเป็นตัวแทน และเมื่อระงับหนี้ละเมิดแล้ว ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 ขับรถไปชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับตัวแทนโจทก์ ระบุว่าจำเลยที่ 1 ยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ไม่ปรากฏมีหลักฐานเป็นหนังสือแสดงการตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนจำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 2 จะลงชื่อในสัญญาด้วยก็ลงไว้ในฐานะเป็นพยานเจ้าของรถ หาใช่ในฐานะนายจ้างหรือตัวการหรือคู่สัญญาไม่ สัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 เมื่อโจทก์กับจำเลยที่ 1ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาท อันเป็นเหตุให้มูลหนี้ละเมิดระงับสิ้นไป และโจทก์ได้สิทธิใหม่ตามสัญญา ความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างและตัวการเพื่อการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 และ มาตรา427 ย่อมระงับ เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย จำเลยที่ 3ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการยึดถือโฉนดที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิเรียกร้องโฉนดเมื่อไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์ให้จำเลยชำระหนี้แก่ ส.แทนโจทก์โดยมีข้อตกลงกันว่าถ้าโจทก์ต้องการที่ดินแปลงนี้โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยหรือสามีจำนวนหนึ่ง และให้จำเลยกับสามียึดถือโฉนด จำเลยและสามีจึงมีสิทธิยึดโฉนดไว้จนกว่าโจทก์จะได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว โจทก์จะอาศัยอำนาจของผู้จัดการมรดกเรียกร้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดให้แก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าวหาได้ไม่
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก แม้จำเลยจะกล่าวแก้ในคำให้การเป็นทำนองว่าที่ดินตามโฉนดฉบับนี้เป็นของจำเลย แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่จำต้องส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์ เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ มิใช่เป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการยึดโฉนดเพื่อชำระหนี้: ผู้จัดการมรดกผูกพันตามสัญญา
โจทก์ให้จำเลยชำระหนี้แก่ ส.แทนโจทก์โดยมีข้อตกลงกันว่าถ้าโจทก์ต้องการที่ดินแปลงนี้โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยหรือสามีจำนวนหนึ่ง และให้จำเลยกับสามียึดถือโฉนด จำเลยและสามีจึงมีสิทธิยึดโฉนดไว้จนกว่าโจทก์จะได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว โจทก์จะอาศัยอำนาจของผู้จัดการมรดกเรียกร้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดให้แก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าวหาได้ไม่
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก แม้จำเลยจะกล่าวแก้ในคำให้การเป็นทำนองว่าที่ดินตามโฉนดฉบับนี้เป็นของจำเลย แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่จำต้องส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์ เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ มิใช่เป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
of 19