พบผลลัพธ์ทั้งหมด 181 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ห้างหุ้นส่วนจำกัดและหุ้นส่วนผู้จัดการต้องรับผิดร่วมกันตามเช็คที่ออกโดยได้รับมอบอำนาจ
เช็คพิพาทสั่งจ่ายโดย ช. ผู้ได้รับมอบอำนาจให้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินแทนห้างฯ จำเลยที่ 1 และประทับตราของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามเช็คนั้น ส่วนจำเลยที่ 2ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งต้องรับผิดในบรรดาหนี้ของจำเลยที่ 1 โดยไม่มีจำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1077(2) ย่อมต้องรับผิดตามเช็คนั้นด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในฐานะส่วนตัวและในฐานะแทนจำเลยที่ 1 การที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 2 มอบอำนาจให้ ช.เป็นผู้ลงลายมือชื่สั่งจ่ายและประทับตราแทนห้างจำเลยที่ 1 ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะเป็นการนำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการต้องรับผิดในหนี้ตามเช็ค และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในฐานะส่วนตัวและในฐานะแทนจำเลยที่ 1 การที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 2 มอบอำนาจให้ ช.เป็นผู้ลงลายมือชื่สั่งจ่ายและประทับตราแทนห้างจำเลยที่ 1 ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะเป็นการนำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการต้องรับผิดในหนี้ตามเช็ค และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือพยานหลักฐาน: การเบิกความไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและชั้นศาล
ประจักษ์พยานโจทก์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งเมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้พยานดูตัวพยานก็ยืนยันอีกว่าจำเลยเป็นคนร้ายและลงชื่อไว้ในบันทึกการจับกุมแต่มาชั้นศาล พยานกลับเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่าตอนพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้ดูนั้น พยานดูแล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า จำเลยคล้ายๆคนร้าย เห็นได้ชัดว่าพยานเบิกความชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย คำเบิกความของพยานในชั้นศาลน่าจะไม่เป็นความจริง ส่วนคำยืนยันและคำให้การชั้นสอบสวนของพยานนั้น โจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่า ชั้นสอบสวนพยานได้ยืนยันและให้การดังกล่าวน่าจะเป็นความจริงและรับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดกและสินสมรส: การครอบครองและฟ้องคดีจัดการสินสมรส
ที่พิพาทสินสมรสซึ่งเป็นสินบริคณห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1462 เดิมสามีย่อมมีสิทธิจัดการสินบริคณห์รวมทั้งฟ้องคดีด้วย ตามพระราชบัญญัติ ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 โดยไม่ต้องได้รับ ความยินยอมจากภรรยา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898-1899/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผิดเงื่อนไข ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีผู้ออกเช็คได้ แม้ผู้สั่งจ่ายไม่เสียหาย
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร. ได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้แก่ธนาคารจำเลยเช็คพิพาทเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด ร. ซึ่งผู้สั่งจ่ายได้ลงลายมือชื่ออันแม้จริงของตนไว้ มิใช่ลายมือปลอม รายการในเช็คก็ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย เพียงแต่ผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้แก่ธนาคารจำเลยลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่มีลายมือชื่อเป็นภาษาอังกฤษด้วย เมื่อธนาคารจำเลยจ่ายเงินไปตามเช็คดังกล่าวโดยมิได้รับความเสียหายจากการที่ธนาคารจำเลยจ่ายเงินไปตามเช็คนั้น ธนาคารจำเลยย่อมมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากหรือเพิ่มยอมจำนวนหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ร. ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2526)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2526)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยกฎหมาย: การตีความข้อความในหนังสือแจ้งความประสงค์
ทนายความของผู้รับจำนองมีหนังสือถึงผู้จำนองมีความว่า'นางสาวศิริวรรณได้มอบอำนาจให้ข้าพเจ้าใช้สิทธิเรียกร้องและบอกเลิกสัญญาจำนองต่อท่าน. ดังนี้ ด้วยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านไปจัดการไถ่ถอนจำนองที่ดินทั้ง 3โฉนดภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523 หากพ้นกำหนดไปแล้วท่านเพิกเฉยก็ดี ฯลฯ ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับท่านตามที่ได้รับมอบหมายไว้' ดังนี้เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยกฎหมาย: หนังสือแจ้งให้ชำระหนี้และไถ่ถอนจำนองถือเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนอง
ทนายความของผู้รับจำนองมีหนังสือถึงผู้จำนองมีความว่า "นางสาวศิริวรรณได้มอบอำนาจให้ข้าพเจ้าใช้สิทธิเรียกร้องและบอกเลิกสัญญาจำนองต่อท่าน ดังนี้ ด้วยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านไปจัดการไถ่ถอนจำนองที่ดินทั้ง 3 โฉนดภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523 หากพ้นกำหนดไปแล้วท่านเพิกเฉยก็ดี ฯลฯ ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับท่านตามที่ได้รับมอบหมายไว้" ดังนี้เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คออกให้แก่ผู้ถือ: ผู้รับโอนมีอำนาจฟ้อง แม้ไม่มีมูลหนี้ระหว่างผู้สั่งจ่ายกับผู้ทรงคนก่อน
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์รับโอนมาย่อมเป็นผู้ทรงจำเลยจะยกข้อต่อสู้โจทก์ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยผู้สั่งจ่ายกับบิดาโจทก์ผู้ทรงคนก่อนหาได้ไม่คดีจึงไม่จำเป็นต้องสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661-1667/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติ การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ที่พิพาทเดิมเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(1) ซึ่งพระราชบัญญัติ ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 ที่ใช้บังคับในระหว่างโจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทบัญญัติว่า จะต้องขอจับจองและได้รับใบอนุญาตให้จับจองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนจึงจะมีสิทธิเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ผู้ใดฝ่าฝืนเข้าครอบครองพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ออกไปเสียจากที่ดินได้ หากยังขัดคำสั่งก็มีความผิดต้องระวางโทษ เมื่อโจทก์มิได้รับอนุญาตแม้ต่อมาจะได้แจ้งการครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ ที่พิพาทยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่เช่นเดิม โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่จะเรียกร้องให้กองทัพเรือจำเลยซึ่งเข้าครอบครองที่ดินตามอำนาจและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในท้องที่ตำบลบางพระอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2499 จำต้องจัดสรรที่ดินหรือจ่ายเงินชดเชยค่าที่ดินแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสินค้าหนีภาษีในเวลากลางคืน พฤติการณ์บ่งชี้ถึงความรู้และการควบคุมการขน
จำเลยไปขนถ่ายของในเวลาค่ำคืนในที่เปลี่ยวห่างไกลบ้านคนเป็นการกระทำในลักษณะซ่อนเร้นเพื่อไม่ให้มีผู้พบเห็น สินค้าที่ขนมีจำนวนมากราคาหลายล้านบาท ควรจะต้องรู้ว่าสินค้าที่ขนมีอะไร จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกถูกจับพร้อมสินค้าของกลางขณะจำเลยนั่งอยู่ในรถพร้อมคนขับ เป็นพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยควบคุมการขนสินค้าของกลางด้วยความระมัดระวังนับได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันซื้อ รับไว้และพาเอาไปเสียซึ่งสินค้าของกลางโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามหรือข้อจำกัด มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 27 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดเพื่อดำเนินคดีแทน เป็นนิติกรรมขัดขวางความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ผู้ร้องร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ถอนการยึดทรัพย์โดยที่ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียอยู่ในขณะที่มีการยึดทรัพย์ แต่เป็นผู้รับโอนสิทธิมาในระหว่างที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์รายพิพาทไว้แล้วโดยผู้ร้องเองก็ทราบดี เหตุที่มีการโอนก็เพราะผู้ซื้อทรัพย์รายพิพาทในระหว่างการยึดถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกไปสอบสวน เกรงจะมีข้อยุ่งยากจึงขอร้องให้ผู้ร้องซื้อทรัพย์รายพิพาทไว้ เห็นได้ว่าเป็นการโอนสิทธิในการดำเนินคดีให้ผู้ร้องเข้าเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพื่อดำเนินคดีแทนหรือซื้อขายความนั่นเอง จึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตกเป็นโมฆะ และปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง