คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เพรียง โรจนรัส

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 449 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำต่อบุคคลหนึ่ง ผลกระทบต่ออีกบุคคลหนึ่ง มาตรา 60 ประมวลกฎหมายอาญา ไม่เป็นการกระทำโดยประมาท
จำเลยเป็นภารโรงมีหน้าที่เฝ้าโรงเรียน ได้มีคนร้ายมางัดแงะโรงเรียนซึ่งเก็บของที่มีค่าในเวลาที่จำเลยไม่อยู่ ครั้นจำเลยมา คนร้ายหนีไป จำเลยติดตามไล่จับ และใช้อาวุธปืนยิงไปโดยเจตนาป้องกันทรัพย์สินของโรงเรียน กระสุนปืนไปถูกผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาป้องกันทรัพย์ที่เกินสมควรแก่เหตุ
การที่จำเลยติดตามขับไล่คนร้ายไปแล้วใช้ปืนยิงคนร้าย แต่กระสุนปืนไปถูกผู้เสียหายนั้นเป็นการกระทำที่จำเลยได้มีเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 60 ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งรับผลร้ายจากการกระทำนั้น การกระทำดังกล่าวของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น แม้มีสิทธิจดทะเบียน แต่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยผลิตและจำหน่ายยาสีฟันบรรจุในฉลากกล่องซึ่งมีรูปลักษณะของกล่องและการวางตัวอักษรเหมือนคล้ายกับกล่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามที่ขอจดทะเบียนไว้ก็ตามแต่จำเลยไม่อาจใช้เครื่องหมายการค้านั้นมาประดิษฐ์ดัดแปลงโดยจงใจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่โจทก์
จำเลยกระทำละเมิดอันเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายแต่ปริมาณแห่งความเสียหายนั้นข้อเท็จจริงยังไม่แจ้งชัดศาลกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น แม้มีสิทธิจดทะเบียนได้ ก็ถือเป็นการละเมิดหากจงใจทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยผลิตและจำหน่ายยาสีฟันบรรจุในฉลากกล่องซึ่งมีรูปลักษณะของกล่องและการวางตัวอักษรเหมือนคล้ายกับกล่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามที่ขอจดทะเบียนไว้ก็ตาม แต่จำเลยไม่อาจใช้เครื่องหมายการค้านั้นมาประดิษฐ์ดัดแปลงโดยจงใจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่โจทก์
จำเลยกระทำละเมิดอันเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย แต่ปริมาณแห่งความเสียหายนั้น ข้อเท็จจริงยังไม่แจ้งชัด ศาลกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรโดยมิได้จดทะเบียนสมรส: การอยู่ร่วมกันอย่างเปิดเผยและการแสดงออกซึ่งความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเป็นหลักฐานสำคัญ
พยานโจทก์เบิกความถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ ของโจทก์จำเลยตามที่ตนเห็น ย่อมเป็นประจักษ์พยาน มิใช่พยานบอกเล่า
จำเลยมิได้ยกเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์จำเลยได้แสดงโดยเปิดเผยต่อลูกจ้างเพื่อนและลูกจ้างของโจทก์ ให้เห็นความสัมพันธ์ที่โจทก์จำเลยมีต่อกันฉันชู้สาว โจทก์ได้เล่าให้มารดาและเพื่อน ๆ ฟังถึงการได้เสียและความสัมพันธ์กับจำเลยทั้งก่อนและหลังตั้งครรภ์และคลอดบุตร อันแสดงว่าไม่ใช่เป็นการอยู่ด้วยกันอย่างลักลอบปกปิด กรณีต้องด้วยมาตรา 1529(4) ที่โจทก์จะฟ้องขอให้รับรองบุตรได้ ไม่จำเป็นต้องมีพฤติการณ์ถึงขนาดอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยาจริง ๆ แต่มิได้จดทะเบียนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรโดยไม่จดทะเบียนสมรส: พฤติการณ์เปิดเผยความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเพียงพอตามกฎหมาย
พยานโจทก์เบิกความถึงพฤติการณ์ต่างๆ ของโจทก์จำเลยตามที่ตนเห็นย่อมเป็นประจักษ์พยาน มิใช่พยานบอกเล่า
จำเลยมิได้ยกเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์จำเลยได้แสดงโดยเปิดเผยต่อลูกจ้างเพื่อนและลูกจ้างของโจทก์ให้เห็นความสัมพันธ์ที่โจทก์จำเลยมีต่อกันฉันชู้สาว โจทก์ได้เล่าให้มารดาและเพื่อนๆ ฟังถึงการได้เสียและความสัมพันธ์กับจำเลยทั้งก่อนและหลังตั้งครรภ์และคลอดบุตรอันแสดงว่าไม่ใช่เป็นการอยู่ด้วยกันอย่างลักลอบปกปิด กรณีต้องด้วยมาตรา 1529(4) ที่โจทก์จะฟ้องขอให้รับรองบุตรได้ไม่จำเป็นต้องมีพฤติการณ์ถึงขนาดอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยาจริงๆ แต่มิได้จดทะเบียนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ตามคำท้า การขุดเสาเข็มเพื่อพิสูจน์จำนวนและตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความยาวทุกต้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตรฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตรเป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียงจำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้นไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุดส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดินการท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ในคำท้า: จำนวนและขนาดเสาเข็มสำคัญอย่างไรในการทำละเมิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตร ฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตร เป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียง จำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้น ไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุด ส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดิน การท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขจำนวนเงินในหลักฐานกู้ยืม ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ แม้จะเพิ่มจำนวนเงินภายหลัง
เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงินไว้ให้โจทก์จำนวนหนึ่งต่อมาโจทก์ลอบเติมเลข 1 ลงหน้าจำนวนเงินในเอกสารนั้นทำให้จำนวนเงินกู้มากขึ้นแล้วเอาเอกสารนั้นมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนเดิมคือ จำนวนที่จำเลยยืมไปได้ การเติมเลข 1 ลงเพื่อเพิ่มจำนวนเงินกู้เดิมไม่ทำให้หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือเดิมเสียไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญากู้ยืมเงินหลังทำสัญญาแล้ว ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ หากจำเลยได้รับเงินกู้จริง
เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงินไว้ให้โจทก์จำนวนหนึ่ง ต่อมาโจทก์ลอบเติมเลข 1 ลงหน้าจำนวนเงินในเอกสารนั้น ทำให้จำนวนเงินกู้มากขึ้นแล้วเอาเอกสารนั้นมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนเดิม คือจำนวนที่จำเลยยืมไปได้ การเติมเลข 1 ลงเพื่อเพิ่มจำนวนเงินกู้เดิมไม่ทำให้หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือเดิมเสียไป.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนเช่าช่วง สิทธิหน้าที่โอนได้ แม้ไม่ได้จดทะเบียน
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ตกลงให้ อ. ปลูกสร้างตึกในที่ดินด้วยทุนทรัพย์ของ อ. โดย อ. ยอมเสียค่าหน้าดินให้โจทก์ และโจทก์ตกลงให้ อ. เช่าตึกดังกล่าวมีกำหนด 8 ปี และให้สิทธิแก่ อ. ให้เช่าช่วงและเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างได้ด้วย เมื่อปลูกสร้างตึกเสร็จ อ. ให้ ญ. เป็นผู้เช่าช่วงห้องรายพิพาท แต่ ญ. โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าต่อ อ. จำเลยที่ 1 เสียเงินค่าก่อสร้างให้ อ. โดยมีกำหนดเวลาเช่า 8 ปี ต่อมา อ. โอนหนี้รายนี้ทั้งสิทธิและหน้าที่แก่ น. น. โอนสิทธิต่าง ๆ ที่ได้มาจาก อ. ให้โจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าห้องรายพิพาทแก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาเช่าระหว่าง อ. กับจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นสัญญาเช่าธรรมดา แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งคู่สัญญาต่างมีสิทธิและหน้าที่จะต้องปฏิบัติ การชำระหนี้ต่อกันตามข้อตกลง อ.ซึ่งได้รับเงินช่วยค่าก่อสร้างจากจำเลยที่ 1 ย่อมมีข้อผูกพันหรือหน้าที่ที่จะให้จำเลยที่ 1 เช่ามีกำหนด 8 ปี แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการเช่าก็ตาม สัญญาเช่าระหว่าง อ. กับจำเลยที่ 1 จึงมีผลผูกพันโจทก์ตามระยะเวลาที่ อ. กับจำเลยที่ 1 ตกลงกัน.
of 45