คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กิตติ สีหนนทน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ความสำคัญอยู่ที่การรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม ไม่ใช่เวลาที่ใช้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยรับว่าได้นำไปใช้จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอมสารสำคัญของคำฟ้องจึงอยู่ที่ว่า จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม ส่วนวันเวลาที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ แม้วันเวลากระทำ ความผิดตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับที่กล่าวในฟ้องแต่จำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้นำไปใช้จริงศาลลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอม: ประเด็นสำคัญอยู่ที่จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารเป็นปลอม วันเวลาใช้ไม่ใช่สาระสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยรู้ว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยรับว่าได้นำไปใช้จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม สารสำคัญของคำฟ้องจึงอยู่ที่ว่า จำเลยรู้หรือไม่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม ส่วนวันเวลาที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ แม้วันเวลากระทำความผิดตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับที่กล่าวในฟ้องแต่จำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้นำไปใช้จริง ศาลลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: ศาลสั่งให้ฟ้องดำเนินคดีกับคู่กรณีอื่นก่อน ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: การสั่งให้ฟ้องคดีใหม่เป็นคำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากการปิดทำนบหลังสัญญาประนีประนอม แม้โจทก์มีหน้าที่เปิดทำนบ ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลยยอมให้เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะปิดเปิดทำนบในเมื่อต้องการหรือไม่ต้องการน้ำ ต่อมาโจทก์เปิดทำนบ จำเลยไปปิดทำให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยจะสู้ว่าโจทก์ไม่เปิดทำนบเอง โจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากสัญญาประนีประนอม: จำเลยปิดทำนบหลังโจทก์เปิด ย่อมเป็นฝ่ายละเมิดและต้องรับผิด
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลยยอมให้เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะปิดเปิดทำนบในเมื่อต้องการหรือไม่ต้องการน้ำ ต่อมาโจทก์เปิดทำนบ จำเลยไปปิดทำให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยจะสู้ว่าโจทก์ไม่เปิดทำนบเอง โจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231-1232/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดก และสัญญาประนีประนอมต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
บุตรบุญธรรมที่มิได้มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม
พูดยกที่พิพาทให้ โดยเป็นเรื่องที่สั่งเผื่อไว้เมื่อผู้พูดถึงแก่กรรมแล้ว มิได้ยกให้ในขณะนั้น ถือว่าเป็นพินัยกรรม ถ้าไม่ได้ทำเป็นพินัยกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตกลงยอมแบ่งที่พิพาทกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ย่อมไม่มีผลที่บังคับกันได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231-1232/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมที่ไม่ได้จดทะเบียน ไม่มีสิทธิรับมรดก การตกลงแบ่งมรดกต้องทำเป็นหนังสือจึงมีผล
บุตรบุญธรรมที่มิได้มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม
พูดยกที่พิพาทให้ โดยเป็นเรื่องที่สั่งเผื่อไว้เมื่อผู้พูดถึงแก่กรรมแล้ว มิได้ยกให้ในขณะนั้น ถือว่าเป็นพินัยกรรม ถ้าไม่ได้ทำเป็นพินัยกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตกลงยอมแบ่งที่พิพาทกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ย่อมไม่มีผลที่บังคับกันได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลที่ไม่รับคำร้องเรียกบุคคลภายนอกเป็นจำเลยร่วม ถือเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้อง ไม่เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำร้องขอของโจทก์ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในระหว่างพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลที่ไม่รับเรียกบุคคลภายนอกเป็นจำเลยร่วม เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ห้ามอุทธรณ์ทันที
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้อง ไม่เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำร้องขอของโจทก์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในระหว่างพิจารณา
of 60