คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กิตติ สีหนนทน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่า และประเด็นการพิจารณาตามกฎหมายเช่าทรัพย์
เมื่อจำเลยมิได้ยกประเด็นขึ้นสู้ว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ก็ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายว่าด้วยการเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์มิได้ตั้งประเด็นฟ้องว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีกำหนดเวลา คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเลิกการเช่าซึ่งไม่มีกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา566
โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่า เมื่อโจทก์รับโอนที่พิพาทมาเป็นของโจทก์โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบ ให้จำเลยปฏิบัติการชำระค่าเช่าให้โจทก์อย่างเคยแต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่า จำเลยสู้ว่าจำเลยเช่าที่พิพาทปลูกอาคารเพื่ออยู่อาศัย จำเลยมิได้ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าจึงมีข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่า จำเลยได้ผิดสัญญาดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าจำเลยผิดสัญญา โจทก์จะมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยและมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่จากการเช่าที่ดินและอาคาร จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่า โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่
เมื่อจำเลยมิได้ยกประเด็นขึ้นสู้ว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ก็ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายว่าด้วยการเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์มิได้ตั้งประเด็นฟ้องว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีกำหนดเวลา คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเลิกการเช่า ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566
โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่า เมื่อโจทก์รับโอนที่พิพาทมาเป็นของโจทก์ โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบ ให้จำเลยปฏิบัติการชำระค่าเช่าให้โจทก์อย่างเคย แต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่า จำเลยสู้ว่าจำเลยเช่าที่พิพาทปลูกอาคารเพื่ออยู่อาศัย จำเลยมิได้ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่า จึงมีข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่า จำเลยได้ผิดสัญญาดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าจำเลยผิดสัญญา โจทก์จะมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยและมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายและการนำสืบหักล้าง
โจทก์ฟ้องว่า ได้ที่พิพาทมาโดยจำเลยตีราคาชำระหนี้ให้โจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่เคยเอาที่พิพาทตีราคาใช้หนี้โจทก์โจทก์เข้าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยจำเลยดังนี้ เมื่อที่พิพาทเป็นที่ดินที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน และโจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าโจทก์เข้ายึดถือที่พิพาทเพื่อตนโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองจำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าว เมื่อจำเลยไม่สืบต้องถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายได้สิทธิครอบครองในที่พิพาทจำเลยต้องแพ้คดีโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินไม่มีโฉนด ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายและการนำสืบพิสูจน์
โจทก์ฟ้องว่า ได้ที่พิพาทมาโดยจำเลยตีราคาชำระหนี้ให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่เคยเอาที่พิพาทตีราคาใช้หนี้โจทก์ โจทก์เข้าไปอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยจำเลย ดังนี้เมื่อที่พิพาทเป็นที่ดินที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน และโจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าโจทก์เข้ายึดถือที่พิพาทเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอบ จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าว เมื่อจำเลยไม่สืบต้องถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายได้สิทธิครอบครองในที่พิพาทจำเลยต้องแพ้คดีโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การลดโทษอาญา มาตรา 72
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่า ได้เตะพ่อจำเลย แล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า 'กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน' นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ผู้ตายด่านายเที่ยงและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใดผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยง จำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลยจำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: ลดโทษอาญาฐานฆ่าคนตาย
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่าได้เตะพ่อจำเลยแล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า "กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน" นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ๆ ค่านายเที่ยวและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใด ผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยงจำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลย จำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำรุดเสียหายของสินค้าหลังส่งมอบ การลดจำนวนเงินที่ต้องชดใช้ และสิทธิในการรับคืนสินค้า
คดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ขายขายทรัพย์มีคุณภาพไม่ตรงตามคำโฆษณา ให้ผู้ขายรับทรัพย์คืนและคืนเงินให้ผู้ซื้อพร้อมด้วยดอกเบี้ยนัน เมื่อผู้ซื้อได้เอาทรัพย์นั้นไปใช้โดยไม่สุจริตจนชำรุดเสียหาย ผู้ขายก็ชอบที่จะชดใช้คืนเงินลดลงตามส่วนแห่งสภาพความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ซื้อได้ แต่จะบังคับให้ผู้ซื้อรับคืนทรัพย์โดยผู้ขายไม่ต้องชดใช้เงินอย่างใดไม่ได้ ในเมื่อทรัพย์นั้นยังอยู่ในสภาพที่พอจะซ่อมแซมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดจำนวนเงินชดใช้จากความชำรุดของทรัพย์สินที่ผู้ซื้อนำไปใช้โดยไม่สุจริต และการไม่บังคับให้รับคืนทรัพย์
คดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ขายขายทรัพย์มีคุณภาพไม่ตรงตามคำโฆษณาให้ผู้ขายรับทรัพย์คืนและคืนเงินให้ผู้ซื้อพร้อมด้วยดอกเบี้ยนั้น เมื่อผู้ซื้อได้เอาทรัพย์นั้นไปใช้โดยไม่สุจริตจนชำรุดเสียหาย ผู้ขายก็ชอบที่จะชดใช้คืนเงินลดลงตามส่วนแห่งสภาพความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ซื้อได้ แต่จะบังคับให้ผู้ซื้อรับคืนทรัพย์ โดยผู้ขายไม่ต้องชดใช้เงินอย่างใดไม่ได้ในเมื่อทรัพย์นั้นยังอยู่ในสภาพที่พอจะซ่อมแซมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด บาดเจ็บสาหัสเกิน 20 วัน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
ผู้เสียหายถูกฟันด้วยมีดบาดแผลที่ริมฝีปากล่าง บน ริมจมูก และหลังมือซ้ายกว้างแผลละ 1/3 เซ็นติเมตร ยาว 2 - 3 1/3 เซ็นติเมตร แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 21 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่า รักษาตัวในโรงพยาบาล 21 วัน แล้วกับไปอยู่บ้านก็ยังไม่หายดี เช่นนี้ ย่อมพอที่จะฟังได้ว่า ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินว่า 20 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม ส่งผลให้เกิดบาดแผลและต้องรักษาตัวเกิน 20 วัน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297
ผู้เสียหายถูกฟันด้วยมีดมีบาดแผลที่ริมฝีปากล่าง บนริมจมูกและหลังมือซ้ายกว้างแผลละ 1/3 เซนติเมตร ยาว2-3เซนติเมตรครึ่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 21 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่ารักษาตัวในโรงพยาบาล 21 วัน แล้วกลับไปอยู่บ้านก็ยังไม่หายดี เช่นนี้ย่อมพอที่จะฟังได้ว่าป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน
of 60