คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อินท์ อุดล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 72 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบสันดานเด็กเกิดจากหญิงอยู่กินกับชายอื่นหลังสามีตาย บุตรเกิดหลัง 310 วัน ไม่เป็นบุตรตามกฎหมาย
เด็กซึ่งเกิดจากหญิงผู้ซึ่งได้อยู่กินกับชายฉันสามีภริยาหลังจากที่ชายได้ตายไปเกินกว่า 310 วันแล้ว ย่อมมิใช่บุตรของชายผู้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1519, 1520 และ 1521 และมาตรา 1519,1520,1521 นี้ย่อมนำมาใช้บังคับในกรณีที่ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสได้ ในเมื่อมีปัญหาว่าเด็กที่เกิดจากหญิงนั้นเป็นบุตรของชายที่อยู่กินด้วยกันหรือมิใช่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเป็นบุตรเมื่อพ่อเสียชีวิตก่อนเด็กเกิด และการใช้กฎหมายกับคู่ความที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
เด็กซึ่งเกิดจากหญิงผู้ซึ่งได้อยู่กินกับชายฉันสามีภริยา หลังจากที่ชายได้ตายไปเกินกว่า 310 วันแล้ว ย่อมมิใช่บุตรของชายผู้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1519,1520 และ 1521 และมาตรา 1519,1520,1521 นี้ ย่อมนำมาใช้บังคับในกรณีที่ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสได้ ในเมื่อมีปัญหาว่าเด็กที่เกิดจากหญิงนั้นเป็นบุตรของชายที่อยู่กินด้วยกันหรือมิใช่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญา CIF และการเสียภาษี กรณีผู้ซื้อชำระค่าระวางแทนผู้ขาย ถือเป็นรายรับที่ต้องเสียภาษี
สัญญาแบบ ซี.ไอ.เอฟ. เป็นสัญญาซื้อขายที่ระบุราคาสินค้าโดยคิดรวมค่าระวางบรรทุกและค่าประกันภัยไว้ด้วย เมื่อโจทก์ผู้ขายว่ามีข้อสัญญากันเป็นพิเศษให้ผู้ซื้อเป็นผู้เสียค่าระวางบรรทุก แต่จำเลยปฏิเสธ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้กล่าวอ้าง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบ
การที่โจทก์ผู้ขายได้รับเงินค่าขายไม้จากผู้ซื้อ ค่าระวางบรรทุกเป็นค่าใช้จ่ายอยู่ในการลงทุนของโจทก์ และผู้ซื้อได้ชำระค่าระวางแทนโจทก์จากเงินราคาค่าไม้ที่โจทก์ได้รับชำระจากผู้ซื้อ จึงต้องถือว่าเงินค่าขายไม้เป็นเงินที่โจทก์ได้รับชำระหรือรายรับของโจทก์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ฉะนั้น ที่เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลจากโจทก์สำหรับค่าระวางด้วย จึงเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ้างฎีกาที่ 785/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญา CIF และการเสียภาษี: การชำระค่าระวางบรรทุกโดยผู้ซื้อถือเป็นรายรับของผู้ขาย
สัญญาแบบ ซี.ไอ.เอฟ เป็นสัญญาซื้อขายที่ระบุราคาสินค้าโดยคิดรวมค่าระวางบรรทุกและค่าประกันภัยไว้ด้วย เมื่อโจทก์ผู้ขายว่ามีข้อสัญญากันเป็นพิเศษให้ผู้ซื้อเป็นผู้เสียค่าระวางบรรทุก แต่จำเลยปฏิเสธ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้กล่าวอ้าง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบ
การที่โจทก์ผู้ขายได้รับเงินค่าขายไม้จากผู้ซื้อค่าระวางบรรทุกเป็นค่าใช้จ่ายอยู่ในการลงทุนของโจทก์และผู้ซื้อได้ชำระค่าระวางแทนโจทก์จากเงินราคาค่าไม้ที่โจทก์ได้รับชำระจากผู้ซื้อ จึงต้องถือว่าเงินค่าขายไม้เป็นเงินที่โจทก์ได้รับชำระหรือรายรับของโจทก์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ฉะนั้น ที่เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลจากโจทก์สำหรับค่าระวางด้วย จึงเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ้างฎีกาที่ 785/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและแต่งทนายของบริษัทจำกัด: การใช้ตราบริษัทและอำนาจผู้ชำระบัญชี
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นส่วนตัว และฟ้องจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นกรรมการบริษัทนั้น แม้จำเลยที่ 1 จะลงชื่อในใบแต่งทนาย 2 แห่งโดยมิได้ระบุว่าลงชื่อในฐานะอะไรก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ลงชื่อในฐานะที่เป็นจำเลยเองแห่งหนึ่ง กับลงชื่อในนามบริษัทซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 อีกแห่งหนึ่งแล้ว
การใช้ดวงตราซึ่งมิใช่ดวงตราที่บริษัทจดทะเบียนไว้ไปประทับในใบแต่งทนายนั้น ถือว่าใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้อง แม้จะนำดวงตรานี้ไปจดทะเบียนภายหลัง ก็หามีผลย้อนหลังเป็นการรับรองให้การใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นการใช้ได้ขึ้นมาอย่างใดไม่
เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทมีมติให้เลิกบริษัท และตั้งผู้ชำระบัญชีแล้ว ผู้ชำระบัญชีนั้นก็ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีในนามบริษัท และอาจมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้แทนตนในคดีอีกชั้นหนึ่งได้ การลงลายมือชื่อของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องประทับตราอย่างใด ฉะนั้น เพียงแต่ผู้รับมอบอำนาจลงชื่ออย่างเดียวในใบแต่งทนาย ก็มีผลเป็นการแต่งทนายในนามบริษัทนั้นแล้ว แม้ผู้รับมอบอำนาจเอาดวงตราที่ไม่เคยจดทะเบียนมาประทับด้วย ก็ไม่ทำให้ใบแต่งทนายเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งทนายโดยใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้อง และอำนาจของผู้ชำระบัญชีในการดำเนินคดี
การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นส่วนตัวและฟ้องจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นกรรมการบริษัทนั้น แม้จำเลยที่ 1 จะลงชื่อในใบแต่งทนาย 2 แห่งโดยมิได้ระบุว่าลงชื่อในฐานะอะไรก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ลงชื่อในฐานะที่เป็นจำเลยเองแห่งหนึ่ง กับลงชื่อในนามบริษัทซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 อีกแห่งหนึ่งแล้ว
การใช้ดวงตราซึ่งมิใช่ดวงตราที่บริษัทจดทะเบียนไว้ไปประทับในใบแต่งทนายนั้น ถือว่าใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้อง แม้จะนำดวงตรานี้ไปจดทะเบียนภายหลัง ก็หามีผลย้อนหลังเป็นการรับรองให้การใช้ดวงตราที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นการใช้ได้ขึ้นมาอย่างใดไม่
เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้ว ผู้ชำระบัญชีนั้นก็ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีในนามบริษัท และอาจมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้แทนตนในคดีอีกชั้นหนึ่งได้ การลงลายมือชื่อของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องประทับตราอย่างใด ฉะนั้น เพียงแต่ผู้รับมอบอำนาจลงชื่ออย่างเดียวในใบแต่งทนาย ก็มีผลเป็นการแต่งทนายในนามบริษัทนั้นแล้ว แม้ผู้รับมอบอำนาจเอาดวงตราที่ไม่เคยจดทะเบียนมาประทับด้วย ก็ไม่ทำให้ใบแต่งทนายเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ปลดจำนอง สิทธิบังคับจำนองยังคงอยู่
เจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนอง ต่อมาเจ้าหนี้ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยลูกหนี้ยอมชำระเงินให้เจ้าหนี้ ศาลพิพากษาตามยอม แม้สัญญายอมจะระบุให้คดีเป็นอันเลิกกันก็ตาม ก็หมายความได้แต่เพียงว่ายังไม่ขอบังคับตามสัญญาจำนองเท่านั้น หาใช่เป็นการปลดจำนองไม่ ฉะนั้น เมื่อลูกหนี้ผิดสัญญายอม มีการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้อื่นย่อมไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ปลดจำนอง สิทธิบังคับจำนองยังคงอยู่
เจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนอง ต่อมาเจ้าหนี้ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยลูกหนี้ยอมชำระเงินให้เจ้าหนี้ศาลพิพากษาตามยอม แม้สัญญายอมจะระบุให้คดีเป็นอันเลิกกันก็ตาม ก็หมายความได้แต่เพียงว่ายังไม่ขอบังคับตามสัญญาจำนองเท่านั้น หาใช่เป็นการปลดจำนองไม่ ฉะนั้นเมื่อลูกหนี้ผิดสัญญายอม มีการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้อื่นย่อมไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977-978/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในประเด็นแบ่งแยกที่ดิน ทำให้ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาไม่มีอำนาจวินิจฉัย แม้จะมีการร้องขอในคำแก้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า ที่ดินเฉพาะส่วนเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และขอให้บังคับจำเลยแบ่งแยกให้โจทก์ด้วย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาเพียงว่า ที่เฉพาะส่วนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แล้วโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ฎีกา โจทก์คงเพียงแต่ร้องขอมาในคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกาขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกให้ด้วยเท่านั้น ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977-978/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการแบ่งแยกที่ดินต้องยกขึ้นอุทธรณ์หรือฎีกาเท่านั้น การร้องขอในคำแก้ไม่ถือเป็นประเด็น
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า ที่ดินเฉพาะส่วนเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และขอให้บังคับจำเลยแบ่งแยกให้โจทก์ด้วยเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาเพียงว่า ที่เฉพาะส่วนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แล้วโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ฎีกา โจทก์คงเพียงแต่ร้องขอมาในคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกาขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกให้ด้วยเท่านั้น ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้.
of 8