คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
บุศย์ ขันธวิทย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 357 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารราชการปลอมและแจ้งความเท็จ ศาลอุทธรณ์ลดโทษและรอการลงโทษ โจทก์ฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268,265 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลดโทษ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 เหลือโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน และให้รอการลงโทษตามมาตรา 56 มีกำหนด 3 ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขมาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารราชการปลอมและแจ้งความเท็จ ศาลยืนตามคำพิพากษาลดโทษและรอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา268,265 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลดโทษ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 เหลือโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือนและให้รอการลงโทษตามมาตรา 56 มีกำหนด 3 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขมาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกาย: การสมทบกำลังและความรับผิดร่วม
จำเลยทั้งสองร่วมวงเสพสุรากันจำเลยที่ 2 พูดว่าจะทำร้ายผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ไปหาผู้เสียหายจำเลยที่ 1 ก็ตามไปด้วย และยืนอยู่ด้วยเป็นการสมทบกำลังให้จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ถือมีดตรงเข้าจะแทงผู้เสียหายและวิ่งไล่แทงผู้เสียหายซึ่งยืนห่างในระยะ 1 วา สามารถจะทำร้ายได้หากผู้เสียหายโดดหนีและวิ่งขึ้นเรือนได้ทัน จึงแทงไม่ได้สมความตั้งใจเป็นความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ไปด้วยถือว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดร่วมกัน
การกระทำที่ก่อให้เกิดความกลัวหรือตกใจรวมอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายแล้วและเป็นความผิดที่มีโทษเบากว่า จึงลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายอันเป็นบทหนักกว่าแต่บทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกายและการสมทบกำลัง ความรับผิดของจำเลยที่ 1
จำเลยทั้งสองร่วมวงเสพสุรากัน จำเลยที่ 2 พูดว่าจะทำร้ายผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ไปหาผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็ตามไปด้วย และยืนอยู่ด้วย เป็นการสมทบกำลังให้จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ถือมีดตรงเข้าจะแทงผู้เสียหายและวิ่งไล่แทงผู้เสียหายซึ่งยืนห่างในระยะ 1 วา สามารถจะทำร้ายได้ หากผู้เสียหายโดดหนีและวิ่งขึ้นเรือนได้ทัน จึงแทงไม่ได้สมความตั้งใจ เป็นความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ไปด้วย ถือว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดร่วมกัน
การกระทำที่ก่อให้เกิดความกลัวหรือตกใจรวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งของความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายแล้ว และเป็นความผิดที่มีโทษเบากว่า จึงลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายอันเป็นบทหนักกว่าแต่บทเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกัน: ผลของการบอกเลิกสัญญาค้ำประกันและการรับผิดชอบหนี้ก่อนและหลังบอกเลิก
จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการบริษัทโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดความรับผิดต่อมาจำเลยที่ 2 บอกเลิกสัญญาค้ำประกัน บริษัทโจทก์ว่ายังตรวจทรัพย์สินและทำงบดุลยังไม่เสร็จ จะถอนไม่ได้นั้น จำเลยที่ 2 บอกเลิกการค้ำประกันได้โดยไม่ต้องรับผิดในหนี้ภายหลังบอกเลิก ส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนที่จำเลยที่ 2 บอกเลิกสัญญา จำเลยที่ 2 ก็ยังต้องรับผิดต่อโจทก์อยู่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์เรียกร้องจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้ โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาค้ำประกันและความรับผิดในหนี้เก่าและหนี้ใหม่ของผู้ค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการบริษัทโจทก์ จำเลยที่2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดความรับผิด ต่อมาจำเลยที่ 2 บอกเลิกสัญญาค้ำประกัน บริษัทโจทก์ว่ายังตรวจทรัพย์สินและทำงบดุลยังไม่เสร็จ จะถอนไม่ได้นั้น จำเลยที่ 2 บอกเลิกการค้ำประกันได้โดยไม่ต้องรับผิดในหนี้ภายหลังบอกเลิก ส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนที่จำเลยที่ 2 บอกเลิกสัญญาจำเลยที่ 2 ก็ยังต้องรับผิดต่อโจทก์อยู่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์เรียกร้องจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้ โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาในคดีอาญา: ข้อเท็จจริงที่ไม่ผูกพันจำเลยในคดีต่อมา
คดีอาญาเรื่องก่อนกับคดีอาญาเรื่องนี้ แม้จะมีประเด็นอย่างเดียวกัน คือ ออกเช็คสั่งจ่ายเงินเพื่อประกันหนี้หรือเพื่อชำระหนี้ ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีก่อนก็ไม่ผูกพันจำเลยในคดีนี้ เพราะคดีอาญาโจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวหานั้น จึงจะฟังลงโทษจำเลยได้ ข้อเท็จจริงในคดีอาญาจะมีผลผูกพันคดีอื่นได้ก็เฉพาะที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 และเมื่อข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีก่อนไม่ผูกพันจำเลยในคดีนี้ ศาลก็ย่อมวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีนี้ตามที่ปรากฏในสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงในคดีก่อนไม่ผูกพันจำเลยในคดีอาญาใหม่ โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเอง
คดีอาญาเรื่องก่อนกับคดีอาญาเรื่องนี้ แม้จะมีประเด็นอย่างเดียวกัน คือ ออกเช็คสั่งจ่ายเงินเพื่อประกันหนี้หรือเพื่อชำระหนี้ ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีก่อนก็ไม่ผูกพันจำเลยในคดีนี้ เพราะคดีอาญาโจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวหานั้น จึงจะฟังลงโทษจำเลยได้ข้อเท็จจริงในคดีอาญาจะมีผลผูกพันคดีอื่นได้ก็เฉพาะที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 และเมื่อข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีก่อนไม่ผูกพันจำเลยในคดีนี้ ศาลก็ย่อมวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีนี้ตามที่ปรากฏในสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้า: หากไม่มีลักษณะทำให้สาธารณชนสับสน การจดทะเบียนย่อมสมเหตุสมผล
โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "ควิ้ง" ใช้กับสินค้าน้ำหมึก ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำว่า "ควีน" สำหรับสินค้าน้ำหมึกเช่นเดียวกัน เมื่อเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยไม่คล้ายกัน ทั้งชื่อและสีตลอดจนส่วนประกอบอื่นๆและไม่มีลักษณะถึงขนาดจะทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดด้วยเช่นนี้โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลบังคับให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียน หรือห้ามไม่ให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้านั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้า น้ำหมึก 'ควิ้ง' กับ 'ควีน' ไม่ถึงขนาดทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด
โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "ควิ้ง" ใช้กับสินค้าน้ำหมึก ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำว่า "ควีน" สำหรับสินค้าน้ำหมึกเช่นเดียวกัน เมื่อเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยไม่คล้ายกัน ทั้งชื่อและสีตลอดจนส่วนประกอบอื่นๆ และไม่มีลักษณะถึงขนาดจะทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดด้วยเช่นนี้ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลบังคับให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียน หรือห้ามไม่ให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้านั้นได้
of 36