คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 391

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295
จำเลยทำร้ายผู้เสียหาย ปรากฏบาดแผลตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลคือ ริมฝีปากบนช้ำบวม แก้มข้างซ้ายบวมปวด ข้อเท้าซ้ายเคล็ดปวด คอด้านหลังปวดเวลาก้มเงย และปวดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก รักษาประมาณ 5 วัน นับได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดบาดแผลทางกาย ถือเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295
จำเลยทำร้ายผู้เสียหาย ปรากฏบาดแผลตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลคือ ริมฝีปากบนช้ำบวมแก้มข้างซ้ายบวมปวด ข้อเท้าซ้ายเคล็ดปวดคอด้านหลังปวดเวลาก้มเงยและปวดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก รักษาประมาณ 5 วัน นับได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อันตรายแก่กายจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความรุนแรงของการกระทำและบาดแผล
การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายนั้น จะต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์ความรุนแรงแห่งการกระทำของจำเลยประกอบกับบาดแผลที่ผู้ถูกทำร้ายได้รับ จำเลยซึ่งเป็นหญิงใช้เล็บข่วนดั้งจมูกผู้เสียหายเป็นรอยเล็บข่วนยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีโลหิตไหล ยังถือไม่ได้ว่าเป็นอันตรายแก่กาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดฟันคอ แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ถือเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 ศอกเศษ ซึ่งมีใบมีดกว้าง 3 เซนติเมตร ฟันถูกที่คอผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญและเป็นที่รวมของเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง หากเส้นโลหิตใหญ่ขาดก็อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แม้บาดแผลของผู้เสียหายจะไม่ฉกรรจ์ไม่ถึงกับเส้นโลหิตใหญ่ขาด ผู้เสียหายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดดาบฟันคอ แม้ไม่ถึงแก่ชีวิตก็เป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 ศอกเศษ ซึ่งมีใบมีดกว้าง 3 เซนติเมตร ฟันถูกที่คอผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญและเป็นที่รวมของเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง หากเส้นโลหิตใหญ่ขาดก็อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แม้บาดแผลของผู้เสียหายจะไม่ฉกรรจ์ไม่ถึงกับเส้นโลหิตใหญ่ขาด ผู้เสียหายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้เจตนาฆ่า ศาลแก้ไขข้อหาเป็นทำร้ายร่างกายไม่ถึงอันตรายแก่กาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289,80,83 เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ศาลก็ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้เจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากความผิดร้ายแรงลงเหลือเพียงทำร้ายร่างกายไม่ถึงแก่ชีวิต
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 80, 83 เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ศาลก็ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งมีดทำร้ายร่างกาย: ศาลลดโทษจากเจตนาแทงเป็นความผิดลหุโทษจากการชกต่อย
การที่จำเลยกับผู้เสียหายกอดปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมาเพื่อแย่งมีดกันนั้น อาจเป็นเหตุให้มีดที่แย่งกันซึ่งเป็นมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่สะบักซ้ายด้านหลังของผู้เสียหายโดยจำเลยไม่มีเจตนาแทงได้ กรณีไม่อาจสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยเหตุที่เกิดขึ้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายที่ ท้าจำเลยให้ต่อยกันก่อน มีดที่แย่งกันก็เป็นมีดของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายหยิบขึ้นมาเพื่อใช้แทงจำเลยก่อนฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยชกต่อยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. ม.391 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่าและการทำร้ายร่างกาย: การกระทำที่ไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่ถึงขั้นทำร้าย
จำเลยทั้งสองไม่พอใจโจทก์เพราะเข้าใจว่าโจทก์บีบแตรไล่รถยนต์ของจำเลย และโจทก์พูดว่าจำเลยที่ 1 เกเร แม้จำเลยที่ 1 พยายามแก้แค้นด้วยการขับรถปาดหน้ารถยนต์ของโจทก์หลายครั้ง เพื่อให้รถยนต์ของโจทก์ชนรถยนต์ของจำเลยโจทก์ก็หลบหลีกและหยุดทันทุกครั้ง จำเลยทั้งสองจึงเกิดโทสะ และจำเลยที่ 1 เอาปืนที่มีอยู่ในรถยนต์ก่อนแล้วยิงโจทก์ตามที่จำเลยที่ 2 ยุ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการพยายามฆ่าโจทก์โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
การที่จำเลยที่ 1 เพียงแต่จับแขนโจทก์ซึ่งวางที่ประตูรถยนต์มิได้ดึงกระชาก ไม่เป็นการใช้กำลังทำร้ายโจทก์โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของรายละเอียดการทำร้ายในฟ้อง กับข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา ไม่ทำให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มือชกทำร้ายผู้เสียหายถูกที่ขอบตาขวาถึงบาดเจ็บ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยชกต้นคอผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บ และใช้สันขวานตีถูกที่ขอบตาของผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ดังนี้ เป็นเพียงข้อแตกต่างในรายละเอียดที่โจทก์ต้องกล่าวบรรยายในฟ้อง อันเป็นข้อแตกต่างมิใช่ในข้อสารสำคัญ และจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้
of 13