พบผลลัพธ์ทั้งหมด 586 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีบัญชีเงินฝากหลังล้มละลาย: ห้างหุ้นส่วน vs. หุ้นส่วน
ห้างหุ้นส่วนจำกัดเปิดบัญชีฝากเงินไว้กับธนาคารจำเลยต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย แม้ต่อมาศาลจะมีคำสั่งให้ปลดจากการล้มละลายแล้วก็ตามผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในฐานะนี้ก็ดี หรือในฐานะส่วนตัวก็ดีย่อมไม่มีอำนาจที่จะฟ้องธนาคารจำเลยเกี่ยวกับเรื่องบัญชีฝากเงินนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานโจทก์ขัดแย้ง ไม่น่าเชื่อถือ ศาลยกฟ้องจำเลย แม้ไม่ได้ฎีกา
คดีโจทก์มีประจักษ์พยานเพียง 2 ปาก. แต่ประจักษ์พยานทั้ง 2 ปาก ให้การขัดแย้งกันและไม่สมเหตุผลจนเป็นที่เชื่อถือไม่ได้. ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มั่นคงพอจะลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์. การที่พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้เช่นนี้เป็นเหตุลักษณะคดี.แม้จำเลยบางคนจะมิได้ฎีกาขึ้นมา. ศาลก็พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้นมาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย คดีไม้หวงห้าม แม้จำเลยมิได้ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องได้
คดีโจทก์มีประจักษ์พยานเพียง 2 ปาก แต่ประจักษ์พยานทั้ง 2 ปาก ให้การขัดแย้งกันและไม่สมเหตุผลจนเป็นที่เชื่อถือไม่ได้ ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มั่นคงพอจะลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์ การที่พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้เช่นนี้เป็นเหตุลักษณะคดี แม้จำเลยบางคนจะมิได้ฎีกาขึ้นมาศาลก็พิพากษาให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้นมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ ศาลยกฟ้องแม้จำเลยมิได้ฎีกา
คดีโจทก์มีประจักษ์พยานเพียง 2 ปากแต่ประจักษ์พยานทั้ง 2 ปากให้การขัดแย้งกันและไม่สมเหตุผลจนเป็นที่เชื่อถือไม่ได้ ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มั่นคงพอจะลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์การที่พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้เช่นนี้เป็นเหตุลักษณะคดีแม้จำเลยบางคนจะมิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้นมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293-294/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความ รวมถึงการฟ้องคดีตามเช็ค
เอกสารมีว่า "ฯลฯ เพราะฉะนั้น เพื่อความสะดวกและถูกต้องในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนคุณ ซึ่งบัดนี้ผมได้เตรียมไว้แล้วตามสมควร ผมขอเชิญคุณไปพบเพื่อคิดบัญชีเงินกู้ดังกล่าวให้ทราบจำนวนแน่นอน ในการนี้ขอคุณได้โปรดนำหลักฐานแห่งหนี้ต่าง ๆ คือเช็คที่ผมออกให้ไว้ไปแสดงด้วย เพื่อจะได้ตรวจสอบหลักฐานที่ผมได้ทำไว้ว่าจะตรงกันหรือไม่" และฉบับต่อมามีว่า "ขอให้คุณคิดอัตราดอกเบี้ยเสียใหม่เป็นร้อยละ 2 ตามข้อตกลงเดิมที่แล้วมา ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อผมจะได้จัดการชำระหนี้ของคุณให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วที่สุด ฯลฯ " ข้อความดังกล่าวนี้แสดงรับความเป็นหนี้และจำเลยยินยอมที่จะชำระหนี้ เมื่อยอมรับถึงความเป็นหนี้อยู่ แม้จะมีข้อโต้เถียงกันในเรื่องจำนวนเงินที่คิดไม่ตรงกัน ก็เป็นการรับสภาพหนี้ เหตุว่าลูกหนี้ยอมรับแล้วว่าเป็นหนี้อยู่จริง ไม่จำต้องรับให้ตรงถึงจำนวนบาทสตางค์ด้วย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2510)
การรับสภาพหนี้มีผลเพียงให้อายุความสะดุดหยุดลง แล้วเริ่มนับใหม่ต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 โดยถืออายุความตามสิทธิเรียกร้องเดิม
ฟ้องโจทก์มิได้ฟ้องในมูลหนี้กู้เงิน เป็นแต่กล่าว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้โดยมิได้กล่าวว่าเป็นหนี้อะไร เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามเช็คแล้ว ก็ไม่ได้ขอให้ชำระหนี้ตามมูลหนี้เงินกู้ คงขอให้ชำระหนี้ตามจำนวนในเช็ค จึงเป็นการฟ้องเรียกเงินตามเช็คอย่างเดียว และต้องนับอายุความตามสิทธิเรียกร้องที่ฟ้องคดี คือสิทธิเรียกร้องตามเช็คนั้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2510)
การรับสภาพหนี้มีผลเพียงให้อายุความสะดุดหยุดลง แล้วเริ่มนับใหม่ต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 โดยถืออายุความตามสิทธิเรียกร้องเดิม
ฟ้องโจทก์มิได้ฟ้องในมูลหนี้กู้เงิน เป็นแต่กล่าว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้โดยมิได้กล่าวว่าเป็นหนี้อะไร เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามเช็คแล้ว ก็ไม่ได้ขอให้ชำระหนี้ตามมูลหนี้เงินกู้ คงขอให้ชำระหนี้ตามจำนวนในเช็ค จึงเป็นการฟ้องเรียกเงินตามเช็คอย่างเดียว และต้องนับอายุความตามสิทธิเรียกร้องที่ฟ้องคดี คือสิทธิเรียกร้องตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหา และการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริงแต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงโทษ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์. แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง. แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น. และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ. แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม. ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2).
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแทนผู้เยาว์โดยพนักงานอัยการ และการละเลยอายุความมรดกจากการเจรจาต่อรอง
พนักงานอัยการมีสิทธิยกคดีขึ้นกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 ได้. โดยผู้เยาว์ไม่ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน.
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลย. แต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้น.จนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี. ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น. ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192. จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้.
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้น. เพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง.
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลย. แต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้น.จนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี. ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น. ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192. จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้.
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้น. เพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการฟ้องแทนผู้เยาว์ & อายุความมรดกเมื่อจำเลยยังเจรจาแบ่งมรดกอยู่
พนักงานอัยการมีสิทธิยกคดีขึ้นกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 ได้โดยผู้เยาว์ไม่ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลยแต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้นจนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้นเพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลยแต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้นจนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้นเพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง