คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วงษ์ วีระพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 586 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลิขสิทธิ์ในรูปซุปเปอร์แมนเป็นสิทธิในเครื่องหมายการค้า ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรม
ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้. ต้องเป็นศิลปกรรมที่ได้ทำขึ้นในแผนกศิลป. ดังนั้นรูป 'ซุปเปอร์แมน' ของโจทก์ซึ่งเป็นรูปคนสวมเสื้อคลุมยืนท้าวเอว.จึงไม่ใช่รูปศิลป.แต่เป็นเพียงเครื่องหมายการค้า. สิทธิของโจทก์เป็นสิทธิในเครื่องหมายการค้า. ไม่ใช่สิทธิในศิลปกรรม. โจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยโดยอ้างว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับคดีตามคำพิพากษาประนีประนอมยอมความ: บริวารของผู้เช่า
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์ศาลพิพากษาตามยอมเมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้องผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษาเมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเองไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษา – ห้องพิพาทเลขที่ผิดพลาด ไม่ถือว่าเป็นการบังคับนอกเหนือคำพิพากษา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า. จำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์. ศาลพิพากษาตามยอม. เมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้อง. ผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษา.เมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเอง. ไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีตามคำพิพากษา: การบังคับคดีต่อบริวารของผู้เช่า แม้เลขที่ห้องไม่ตรงกับคำพิพากษา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์ ศาลพิพากษาตามยอม เมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้อง ผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษา เมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเอง ไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับคดี: เมื่อข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินซ้ำซ้อนกับคำพิพากษาเดิม ศาลไม่รับวินิจฉัยซ้ำ
ที่ดินพิพาทตามที่โจทก์ยื่นคำร้องว่า.จำเลยได้บุกรุกเข้าไปปลูกพืชพันธุ์ลงไปและขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ออกไปนั้น. เป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจนคดีถึงที่สุดแล้ว. ดังนั้น การดำเนินการพิจารณาตามคำร้องของโจทก์จึงเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดีและมีปัญหาเพียงว่า จำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำพิพากษาหรือไม่เท่านั้น. ไม่มีปัญหาต้องวินิจฉัยซ้ำไปถึงว่าโจทก์จะมีสิทธิครอบครองที่พิพาทอีกหรือไม่.ดังข้อฎีกาของจำเลย. ฉะนั้น ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การพิจารณาเฉพาะการปฏิบัติตามคำพิพากษาเดิม
ที่ดินพิพาทตามที่โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยได้บุกรุกเข้าไปปลูกพืชพันธุ์ลงไปและขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ออกไปนั้น เป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจนคดีถึงที่สุดแล้วดังนั้น การดำเนินการพิจารณาตามคำร้องของโจทก์จึงเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดีและมีปัญหาเพียงว่า จำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำพิพากษาหรือไม่เท่านั้นไม่มีปัญหาต้องวินิจฉัยซ้ำไปถึงว่าโจทก์จะมีสิทธิครอบครองที่พิพาทอีกหรือไม่ดังข้อฎีกาของจำเลยฉะนั้น ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหลังประนีประนอม: ศาลพิจารณาเฉพาะการปฏิบัติตามคำพิพากษาเดิม ไม่ต้องวินิจฉัยสิทธิครอบครองใหม่
ที่ดินพิพาทตามที่โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยได้บุกรุกเข้าไปปลูกพืชพันธุ์ลงไปและขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ออกไปนั้น เป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจนคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น การดำเนินการพิจารณาตามคำร้องของโจทก์จึงเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดีและมีปัญหาเพียงว่า จำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำพิพากษาหรือไม่เท่านั้น ไม่มีปัญหาต้องวินิจฉัยซ้ำไปถึงว่าโจทก์จะมีสิทธิครอบครองที่พิพาทอีกหรือไม่ ดังข้อฎีกาของจำเลย ฉะนั้น ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนอุทธรณ์แล้วยื่นใหม่ไม่ได้ แม้ในอายุอุทธรณ์ หากคู่ความอีกฝ่ายไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีเด็ดขาดแล้ว
ภายหลังยื่นอุทธรณ์แล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์โดยว่าไม่ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์อีกต่อไป. แต่ครั้นแล้วจำเลยกลับยื่นอุทธรณ์ใหม่โดยว่าที่ถอนไปนั้นเพราะหลงเชื่อผู้แนะว่าจะมีการอภัยโทษ. ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้อุทธรณ์ด้วย. คำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมเด็ดขาดถึงที่สุดสำหรับจำเลยแล้ว. จำเลยไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ใหม่อีก.แม้จะยังอยู่ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ก็ตาม. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนอุทธรณ์แล้วยื่นใหม่: ผลเด็ดขาดเมื่อคู่ความอีกฝ่ายไม่ยื่นอุทธรณ์
ภายหลังยื่นอุทธรณ์แล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์โดยว่าไม่ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์อีกต่อไปแต่ครั้นแล้วจำเลยกลับยื่นอุทธรณ์ใหม่โดยว่าที่ถอนไปนั้นเพราะหลงเชื่อผู้แนะว่าจะมีการอภัยโทษดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้อุทธรณ์ด้วยคำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมเด็ดขาดถึงที่สุดสำหรับจำเลยแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ใหม่อีกแม้จะยังอยู่ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ก็ตาม
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนอุทธรณ์แล้วยื่นใหม่มิได้ แม้ยังอยู่ในอายุอุทธรณ์ หากคู่ความอีกฝ่ายมิได้อุทธรณ์
ภายหลังยื่นอุทธรณ์แล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์โดยว่าไม่ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์อีกต่อไป แต่ครั้นแล้วจำเลยกลับยื่นอุทธรณ์ใหม่โดยว่าที่ถอนไปนั้นเพราะหลงเชื่อผู้แนะว่าจะมีการอภัยโทษ ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้อุทธรณ์ด้วย คำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมเด็ดขาดถึงที่สุดสำหรับจำเลยแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ใหม่อีก แม้จะยังอยู่ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ก็ตาม
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2512)
of 59