คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วงษ์ วีระพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 586 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำท้าพิสูจน์ หากผลเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ศาลต้องตัดสินตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้วศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในคำท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้วจำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำท้ากันในศาล: การรังวัดที่ดินพิพาทเป็นข้อตัดสิน หากผลเป็นไปตามเงื่อนไข จำเลยต้องแพ้คดี
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือ ให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่ โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์แล้ว จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในค้าท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้ว จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเพื่อพิสูจน์สิทธิในทรัพย์มรดกและการยึดทรัพย์: การสละสิทธิในมรดก
ผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวในคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดว่าจำเลยไม่มีสิทธิรับมรดกของ ค. โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาท ผู้ร้องย่อมนำสืบได้ว่า ก.ภริยาจำเลยได้ขอร้องบรรดาพี่น้องขอแบ่งเงินสดและได้ตกลงแบ่งเงินสดให้ ก. ก.สละสิทธิไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดกต่อไป เป็นเรื่องที่อยู่ในประเด็นตามคำร้องที่นำสืบได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบสิทธิในทรัพย์มรดกเพื่อขัดทรัพย์ยึด ศาลรับฟังได้หากอยู่ในประเด็นคำร้อง
ผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวในคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดว่าจำเลยไม่มีสิทธิรับมรดกของ ค. โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาท ผู้ร้องย่อมนำสืบได้ว่า ก. ภริยาจำเลยได้ขอร้องบรรดาพี่น้องขอแบ่งเงินสดและได้ตกลงแบ่งเงินสดให้ ก. ก. สละสิทธิไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดกต่อไปเป็นเรื่องที่อยู่ในประเด็นตามคำร้องที่นำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบเชื่อ แม้เป็นการซื้อขาด ก็มีอายุความ 5 ปี
พ่อค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซื้อเชื่อสลากกินแบ่งจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขายต่อ แม้ว่าการซื้อสลากกินแบ่งจะเป็นการซื้อขาดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็มีอายุความฟ้องร้อง 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (5) และ 165 วรรคสุดท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหนี้ซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล แม้เป็นการซื้อขาด ก็มีอายุความ 5 ปี
พ่อค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซื้อเชื่อสลากกินแบ่งจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขายต่อ แม้ว่าการซื้อสลากกินแบ่งจะเป็นการซื้อขาดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีอายุความฟ้องร้อง 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(5) และ 165 วรรคสุดท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดตำบลไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ศาลลงโทษได้ตามข้อเท็จจริง
ฟ้องผิดตำบล ถ้าจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ศาลพิพากษาลงโทษได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดตำบลที่เกิดเหตุ แต่จำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลลงโทษได้ตามข้อเท็จจริง
ฟ้องผิดตำบล ถ้าจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลพิพากษาลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้ผู้ตายยิงก่อน แต่จำเลยเป็นผู้เริ่มก่อเหตุ
ในเวลากลางคืน จำเลยกับพวกถือปืนขึ้นไปหาผู้ตายบนเรือนของ ส. เพื่อจะทำร้ายผู้ตายเพราะความโกรธเคืองผู้ตายไปเบิกความเป็นพยานในคดีจำเลยปล้นทรัพย์ จนศาลพิพากษาจำคุกจำเลยและจำเลยอาฆาตไว้ และขึ้นไปยืนคุมในลักษณะจะทำร้ายผู้ตายถือว่าจำเลยกับพวกเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนผู้ตายใช้ปืนยิงต่อสู้ป้องกันตน เพราะจำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนคนละกระบอกขู่ผู้ตาย แม้กระสุนปืนของผู้ตายจะลั่นออกไปก่อนจำเลยจะอ้างเหตุว่าจำเลยกระทำไปโดยป้องกันหาได้ไม่
แม้ผู้ตายถูกกระสุนปืนของพวกจำเลยยิง มิใช่กระสุนปืนที่จำเลยยิงไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นความผิดไปได้เพราะจำเลยกับพวกร่วมขึ้นไปจะทำร้ายผู้ตายเป็นการร่วมกันกระทำผิดจำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีเจตนาและร่วมกันกระทำความผิด แม้ผู้ถูกกระทำจะยิงก่อนแต่ไม่ถือว่าเป็นการป้องกันตัว
ในเวลากลางคืน จำเลยกับพวกถือปืนขึ้นไปหาผู้ตายบนเรือนของ ส. เพื่อจะทำร้ายผู้ตายเพราะความโกรธเคืองผู้ตายไปเบิกความเป็นพยานในคดีจำเลยปล้นทรัพย์ จนศาลพิพากษาจำคุกจำเลยและจำเลยอาฆาตไว้ และขึ้นไปยืนคุมในลักษณะจะทำร้ายผู้ตาย ถือว่าจำเลยกับพวกเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน ผู้ตายใช้ปืนยิงต่อสู้ป้องกันตน เพราะจำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนคนละกระบอกขู่ผู้ตาย แม้กระสุนปืนของผู้ตายจะลั่นออกไปก่อน จำเลยจะอ้างเหตุว่าจำเลยกระทำไปโดยป้องกันหาได้ไม่
แม้ผู้ตายถูกกระสุนปืนของพวกจำเลยยิง มิใช่กระสุนปืนที่จำเลยยิง ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นความผิดไปได้ เพราะจำเลยกับพวกร่วมขึ้นไปจะทำร้ายผู้ตาย เป็นการร่วมกันกระทำผิด จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่าผู้ตาย
of 59