พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถในการฟ้องคดีของผู้เยาว์ และอำนาจของผู้แทนโดยชอบธรรมในการฟ้องคดีแทน
ฟ้องซึ่งตั้งรูปว่าผู้เยาว์โดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นโจทก์นั้น เป็นเรื่องผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีเองโดยอาศัยอำนาจของบุคคลซึ่งอ้างเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมถึงหากจะฟังว่าบุคคลนั้นมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ และขณะฟ้องคดีโจทก์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เป็นเรื่องความสามารถในการฟ้องคดีของโจทก์ผู้เยาว์บกพร่อง ซึ่งศาลมีอำนาจสอบสวนและสั่งแก้ไขความบกพร่องนั้นให้บริบูรณ์ได้ก่อนศาลพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 ส่วนอำนาจของบุคคลซึ่งอ้างเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมนั้น ถ้าไม่มีหรือไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ศาลจะยกฟ้องหรือจะสั่งอย่างอื่นใดเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโดยไม่ต้องยกฟ้องก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 66
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปรากฏว่าโจทก์ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้ว มีอำนาจเป็นคู่ความด้วยตนเองได้แล้ว ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขเรื่องความสามารถ
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปรากฏว่าโจทก์ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้ว มีอำนาจเป็นคู่ความด้วยตนเองได้แล้ว ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขเรื่องความสามารถ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เยาว์และการแก้ไขความบกพร่องด้านความสามารถในการฟ้องคดี
ฟ้องซึ่งตั้งรูปว่า ผู้เยาว์โดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นโจทก์นั้น เป็นเรื่องผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีเองโดยอาศัยอำนาจของบุคคลซึ่งอ้างเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมถึงหากจะฟังว่าบุคคลนั้นมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ และขณะฟ้องคดีโจทก์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เป็นเรื่องความสามารถในการฟ้องคดีของโจทก์ผู้เยาว์บกพร่อง ซึ่งศาลมีอำนาจสอบสวนและสั่งแก้ไขความบกพร่องนั้นให้บริบูรณ์ได้ก่อนศาลพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา56 ส่วนอำนาจของบุคคลซึ่งอ้างเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมนั้น ถ้าไม่มีหรือไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ศาลจะยกฟ้องหรือจะสั่งอย่างอื่นใดเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโดยไม่ต้องยกฟ้องก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา66
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปรากฏว่าโจทก์ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้ว มีอำนาจเป็นคู่ความด้วยตนเองได้แล้ว ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขเรื่องความสามารถ
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปรากฏว่าโจทก์ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้ว มีอำนาจเป็นคู่ความด้วยตนเองได้แล้ว ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องสั่งให้โจทก์แก้ไขเรื่องความสามารถ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำร้องคัดค้านการจัดการมรดกที่ยื่นหลังนัดไต่สวน: ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
การที่ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในกรณีขอเป็นผู้จัดการมรดก ภายหลังจากศาลได้เริ่มสืบพยานผู้ร้องไปแล้วนั้น ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะเห็นสมควรรับคำร้องคัดค้านหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการรับคำคัดค้านหลังเริ่มไต่สวนพยานในคดีผู้จัดการมรดก
การที่ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในกรณีขอเป็นผู้จัดการมรดก ภายหลังจากศาลได้เริ่มสืบพยานผู้ร้องไปแล้วนั้น ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะเห็นสมควรรับคำร้องคัดค้านหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการรับคำคัดค้านหลังเริ่มไต่สวนพยานในคดีจัดการมรดก
การที่ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในกรณีขอเป็นผู้จัดการมรดก. ภายหลังจากศาลได้เริ่มสืบพยานผู้ร้องไปแล้วนั้น. ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะเห็นสมควรรับคำร้องคัดค้านหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกประเด็นใหม่ในฎีกาที่มิได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นอุปสรรคต่อการวินิจฉัย
จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นไว้ โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่ไม่ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยจะฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบไม่ได้ เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกประเด็นใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยถูกยกขึ้นในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เป็นการไม่ชอบ
จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นไว้. โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่ไม่ได้. เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่. จำเลยจะฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบไม่ได้. เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกประเด็นใหม่ในฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เป็นการขัดต่อหลักการพิจารณาคดี
จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นไว้ โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่ไม่ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยจะฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบไม่ได้ เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาที่ระบุความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือประมาท และการรับสารภาพความผิดฐานประมาท
ฟ้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็กระทำผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทโดยชัดแจ้ง แสดงว่าฟ้องมีความประสงค์จะให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็ขอให้ลงโทษฐานทำให้คนตายโดยประมาทประกอบกับฟ้องได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำเป็นท้องเรื่องมาครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคลือบคลุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือเอาเปรียบจำเลย จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี เมื่อจำเลยรับสารภาพฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 1780/2497และฎีกาที่ 86/2503). (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือประมาท และการรับสารภาพความผิดฐานประมาท
ฟ้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือมิฉะนั้นก็กระทำผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทโดยชัดแจ้ง แสดงว่าฟ้องมีความประสงค์จะให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็ขอให้ลงโทษฐานทำให้คนตายโดยประมาท ประกอบกับฟ้องได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำเป็นท้องเรื่องมาครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคลือบคลุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือเอาเปรียบจำเลย จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี เมื่อจำเลยรับสารภาพฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 1780/2497 และฎีกาที่ 86/2503) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2511)