คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไฉน บุญยก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่เป็นหนังสือขัดมาตรา 538, ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาทที่โจทก์ให้จำเลยอยู่อาศัยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าห้องพิพาทมีกำหนด 15 ปี ค่าเช่าเดือนละ 60 บาท เพราะจำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์ 20,000 บาท ดังนี้ เงินจำนวนดังที่กล่าวที่จำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์เป็นเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าที่จำเลยยอมให้โจทก์ในการเช่าห้องพิพาท เท่ากับเป็นการเช่าโดยมีเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าจึงเป็นการเช่าธรรมดาไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ เมื่อการเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยฟ้องแย้งคดีนี้ที่ว่าโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกัน เมื่อคิดบัญชีแล้วโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ ขอให้บังคับโจทก์ชำระหนี้ที่ค้างเช่นนี้เป็นฟ้องอีกเรื่องหนึ่งคนละอย่างไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ เป็นฟ้องที่ไม่รับเป็นฟ้องแย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน และข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาทที่โจทก์ให้จำเลยอยู่อาศัยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าห้องพิพาทมีกำหนด 15 ปี ค่าเช่าเดือนละ 60 บาท เพราะจำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์20,000 บาท ดังนี้ เงินจำนวนดังที่กล่าวที่จำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์เป็นเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าที่จำเลยยอมให้โจทก์ในการเช่าห้องพิพาท เท่ากับเป็นการเช่าโดยมีเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าจึงเป็นการเช่าธรรมดาไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ เมื่อการเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยฟ้องแย้งคดีนี้ที่ว่าโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกัน เมื่อคิดบัญชีแล้วโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ ขอให้บังคับโจทก์ชำระหนี้ที่ค้างเช่นนี้เป็นฟ้องอีกเรื่องหนึ่งคนละอย่างไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ เป็นฟ้องที่ไม่รับเป็นฟ้องแย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ้นสุด-กรรมสิทธิ์ตกเป็นของเจ้าของที่ดิน-การเช่าต่อโดยปราศจากอำนาจ-สิทธิและความคุ้มครองตาม พรบ.ควบคุมเคหะ
จำเลยเช่าบ้านพิพาทมาจากนายบุ้นซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินของโจทก์มาปลูกบ้านพิพาทขึ้น โดยมีกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือน และมีข้อตกลงระหว่างนายบุ้นกับโจทก์ว่าในระหว่างกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือนนายบุ้นมีสิทธิให้คนอื่นเช่าบ้านพิพาทได้ และเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือนแล้ว ให้กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทตกเป็นของโจทก์ ดังนี้ เมื่อครบกำหนดเวลาเช่าที่ดิน 8 ปี 4 เดือน แล้ว นายบุ้นย่อมไม่มีอำนาจจะให้จำเลยเช่าบ้านพิพาทอยู่ต่อไปเพราะกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทตกไปยังโจทก์แล้ว สิทธิและหน้าที่ในการเช่าบ้านพิพาทระหว่างจำเลยกับนายบุ้นผู้โอนย่อมไม่ตกไปยังโจทก์ผู้รับโอนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 โจทก์กับจำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน การอยู่ในบ้านพิพาทต่อมาเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือนไปแล้ว เป็นการอยู่โดยละเมิดสิทธิของโจทก์ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินและบ้าน สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าเมื่อกรรมสิทธิ์ที่ดินเปลี่ยนมือ การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมเคหะ
จำเลยเช่าบ้านพิพาทมาจากนายบุ้นซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินของโจทก์มาปลูกบ้านพิพาทขึ้น โดยมีกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือน และมีข้อตกลงระหว่างนายบุ้นกับโจทก์ว่าในระหว่างกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือนนายบุ้นมีสิทธิให้คนอื่นเช่าบ้านพิพาทได้ และเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า8 ปี 4 เดือนแล้ว ให้กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทตกเป็นของโจทก์ดังนี้เมื่อครบกำหนดเวลาเช่าที่ดิน 8 ปี 4 เดือน แล้ว นายบุ้นย่อมไม่มีอำนาจจะให้จำเลยเช่าบ้านพิพาทอยู่ต่อไปเพราะกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทตกไปยังโจทก์แล้ว สิทธิและหน้าที่ในการเช่าบ้านพิพาทระหว่างจำเลยกับนายบุ้นผู้โอนย่อมไม่ตกไปยังโจทก์ผู้รับโอนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 โจทก์กับจำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน การอยู่ในบ้านพิพาทต่อมาเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า 8 ปี 4 เดือนไปแล้ว เป็นการอยู่โดยละเมิดสิทธิของโจทก์ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อเมื่อนักโทษได้รับอภัยโทษแล้วกระทำผิดซ้ำ ศาลมีอำนาจพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละคดี
การที่ศาลจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่นนั้นเป็นดุลพินิจของศาลจะพิจารณาเห็นสมควร การที่จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีอื่นซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษจนเหลือโทษจำคุกอีก 10 ปี และระหว่างกำลังรับโทษที่เหลืออยู่นี้ได้กระทำผิดฐานฆ่านักโทษซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุก 20 ปี เช่นนี้ เมื่อพิจารณาว่าจำเลยต้องรับโทษต่อไปอีกถึง 20 ปีข้างหน้าแล้วเห็นว่าเหมาะสมแก่ความผิดที่กระทำในคดีนี้แล้ว เหตุผลที่จำเลยมากระทำผิดในข้อหาฐานความผิดเดียวกันซ้ำอีก รวมทั้งการได้รับพระราชทานอภัยโทษในคดีที่ขอให้นับโทษคดีนี้ต่อซึ่งคงเหลือจำคุกอีกเป็น 10 ปีนั้น ยังไม่ถือเป็นเหตุพิเศษที่จะควรนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญาซ้ำ กรณีได้รับอภัยโทษและมีโทษเหลืออยู่ ศาลมีดุลพินิจพิจารณาความเหมาะสม
การที่ศาลจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่นนั้นเป็นดุลพินิจของศาลจะพิจารณาเห็นสมควร การที่จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีอื่นซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษจนเหลือโทษจำคุกอีก 10 ปี และระหว่างกำลังรับโทษที่เหลืออยู่นี้ได้กระทำผิดฐานฆ่านักโทษซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุก 20 ปี เช่นนี้ เมื่อพิจารณาว่าจำเลยต้องรับโทษต่อไปอีกถึง 20 ปีข้างหน้าแล้ว เห็นว่าเหมาะสมแก่ความผิดที่กระทำในคดีนี้แล้ว เหตุผลที่จำเลยมากระทำผิดในข้อหาฐานความผิดเดียวกันซ้ำอีก รวมทั้งการได้รับพระราชทานอภัยโทษในคดีที่ขอให้นับโทษคดีนี้ต่อซึ่งคงเหลือจำคุกอีกเป็น 10 ปีนั้น ยังไม่ถือเป็นเหตุพิเศษที่จะควรนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าก่อนล้มละลาย และผลกระทบต่อผู้รับโอนรายต่อๆ ไป
ก่อนมีการขอให้ล้มละลาย 3 วัน บุคคลล้มละลายได้โอนสิทธิการเช่าตึกแถวให้กับเจ้าหนี้ของตน เพื่อให้เจ้าหนี้นั้นโอนขายสิทธิการเช่าต่อไปและเอาเงินมาชำระหนี้ ต่อมาเจ้าหนี้นั้นก็โอนสิทธิการเช่าตึกนั้นไปและได้เอาเงินที่ได้รับไปแต่ผู้เดียว เป็นกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 และพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 115
แต่เมื่อสิทธิการเช่าได้ถูกโอนต่อไปหลายทอดและผู้ที่ได้รับโอนรายหลัง ๆ มิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย คำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าและให้สิทธิการเช่ากลับมาเป็นของบุคคลล้มละลายตามเดิม จึงบังคับให้ไม่ได้ ต้องยกเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนสิทธิเช่าก่อนล้มละลาย และผลกระทบเมื่อผู้รับโอนรายหลังมิได้เป็นคู่ความ
ก่อนมีการขอให้ล้มละลาย 3 วัน บุคคลล้มละลายได้โอนสิทธิการเช่าตึกแถวให้กับเจ้าหนี้ของตนเพื่อให้เจ้าหนี้นั้นโอนขายสิทธิการเช่าต่อไปและเอาเงินมาชำระหนี้ ต่อมาเจ้าหนี้นั้นก็โอนสิทธิการเช่าตึกนั้นไปและได้เอาเงินที่ได้รับไปแต่ผู้เดียว เป็นกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 และพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 115
แต่เมื่อสิทธิการเช่าได้ถูกโอนต่อไปหลายทอดและผู้ที่ได้รับโอนรายหลัง ๆ มิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วยคำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าและให้สิทธิการเช่ากลับมาเป็นของบุคคลล้มละลายตามเดิม จึงบังคับให้ไม่ได้ต้องยกเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมในความสัมพันธ์ชู้สาว ไม่ถือเป็นการละเมิดเกียรติยศวงศ์ตระกูล
ในกรณีที่จำเลยและหญิงผู้เยาว์รักใคร่ชอบพอกัน พากันไปฐานชู้สาว แล้วหญิงผู้เยาว์ยินยอมให้จำเลยกระทำชำเรา เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของมารดาผู้ใช้อำนาจปกครองหญิงผู้เยาว์นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมในความสัมพันธ์ชู้สาวไม่ถือเป็นการละเมิดเกียรติยศวงศ์ตระกูล
ในกรณีที่จำเลยและหญิงผู้เยาว์รักใคร่ชอบพอกัน พากันไปฐานชู้สาวแล้วหญิงผู้เยาว์ยินยอมให้จำเลยกระทำชำเรา เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อเกียรติยศชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของมารดาผู้ใช้อำนาจปกครองหญิงผู้เยาว์นั้น
of 72