พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ว่าฯประกาศเขตควบคุมการค้าข้าวและการริบข้าวสารที่ไม่ได้แจ้งปริมาณ
คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว มีอำนาจประกาศเขตควบคุมการค้าข้าวได้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจประกาศเขตควบคุมการค้าข้าว
ตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้กำหนดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็นเขตควบคุมการค้าข้าว และแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนั้น ๆ ให้มีอำนาจสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าว ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจประกาศสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวได้ แม้ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะกำหนดเขตควบคุมการค้าข้าวไว้ด้วย ก็มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดได้อ้างถึงฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัดและกล่าวถึงที่มาของอำนาจซึ่งได้รับจากคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ดังนี้ แสดงว่าประกาศนั้นมิได้ออกไปตามอำนาจและหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามปกติ
ข้าวสารที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่เป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิด ต้องริบข้าวสารและกระสอบบรรจุข้าวสารนั้น ตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2511)
ตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้กำหนดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็นเขตควบคุมการค้าข้าว และแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนั้น ๆ ให้มีอำนาจสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าว ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจประกาศสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวได้ แม้ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะกำหนดเขตควบคุมการค้าข้าวไว้ด้วย ก็มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดได้อ้างถึงฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัดและกล่าวถึงที่มาของอำนาจซึ่งได้รับจากคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ดังนี้ แสดงว่าประกาศนั้นมิได้ออกไปตามอำนาจและหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามปกติ
ข้าวสารที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่เป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิด ต้องริบข้าวสารและกระสอบบรรจุข้าวสารนั้น ตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการประกาศเขตควบคุมการค้าข้าวและการสั่งให้แจ้งปริมาณข้าว ต้องอาศัยอำนาจจากคณะกรรมการฯ
คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว มีอำนาจประกาศเขตควบคุมการค้าข้าวได้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.2489 ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจประกาศเขตควบคุมการค้าข้าว
ตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้กำหนดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวและแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนั้นๆ ให้มีอำนาจสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจประกาศสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวได้แม้ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะกำหนดเขตควบคุมการค้าข้าวไว้ด้วยก็มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดได้อ้างถึงฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัดและกล่าวถึงที่มาของอำนาจซึ่งได้รับจากคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ดังนี้แสดงว่าประกาศนั้นมิได้ออกไปตามอำนาจและหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามปกติ
ข้าวสารที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดต้องริบข้าวสารและกระสอบบรรจุข้าวสารนั้นตามมาตรา 21ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าวพ.ศ.2489
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2511)
ตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้กำหนดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวและแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนั้นๆ ให้มีอำนาจสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจประกาศสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวได้แม้ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะกำหนดเขตควบคุมการค้าข้าวไว้ด้วยก็มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดได้อ้างถึงฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัดและกล่าวถึงที่มาของอำนาจซึ่งได้รับจากคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ดังนี้แสดงว่าประกาศนั้นมิได้ออกไปตามอำนาจและหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามปกติ
ข้าวสารที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดต้องริบข้าวสารและกระสอบบรรจุข้าวสารนั้นตามมาตรา 21ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าวพ.ศ.2489
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ตามคำพิพากษาในคดีล้มละลาย ศาลมีอำนาจตรวจสอบมูลหนี้ แม้เป็นหนี้ที่ถึงที่สุด
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลมีอำนาจจะฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้ตามคำพิพากษานั้นมีมูลหนี้อันจะพึงอนุญาตให้รับชำระหนี้หรือไม่ได้ คำพิพากษาในคดีของเจ้าหนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ผูกพันเฉพาะคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีนั้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ตามคำพิพากษาในคดีล้มละลาย: ศาลมีอำนาจตรวจสอบมูลหนี้ แม้เป็นหนี้ที่ถึงที่สุดแล้ว
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลมีอำนาจจะฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้ตามคำพิพากษานั้นมีมูลหนี้อันจะพึงอนุญาตให้รับชำระหนี้หรือไม่ได้. คำพิพากษาในคดีของเจ้าหนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ผูกพันเฉพาะคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีนั้นเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ตามคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีล้มละลาย ศาลมีอำนาจตรวจสอบมูลหนี้เพื่อพิจารณาการรับชำระหนี้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลมีอำนาจจะฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้ตามคำพิพากษานั้นมีมูลหนี้อันจะพึงอนุญาตให้รับชำระหนี้หรือไม่ได้ คำพิพากษาในคดีของเจ้าหนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ผูกพัน เฉพาะคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีนั้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบต่อละเมิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่อื่น การพิสูจน์ความเสียหายโดยตรง
ภารโรงในกองยานพาหนะได้ปลอมใบเบิกเงินค่าแรงของคนงานในกองยานพาหนะ. โดยปลอมชื่อคนงานและปลอมลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กองยานพาหนะที่จะต้องลงชื่อในใบสำคัญนั้น. แล้วเอาไปแสดงต่อแผนกบัญชีเพื่อขอรับเงิน เจ้าหน้าที่แผนกบัญชีไม่ได้ตรวจสอบดูความถูกต้อง. กลับเสนอหัวหน้าแผนกลงชื่อแล้วส่งไปแผนกเงินเพื่อจ่ายเงิน. แผนกเงินได้จ่ายเงินโดยผิดระเบียบ กล่าวคือ ไม่ได้จ่ายให้แก่คนงานเป็นรายคนไป. กลับจ่ายให้แก่ภารโรงผู้นั้นทั้งหมด แล้วส่งใบสำคัญคืนแผนกบัญชี. แผนกบัญชีได้คัดบัญชีใบสำคัญที่จ่ายเงินไปแล้วส่งไปกองยานพาหนะซึ่งจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อรับรองความถูกต้อง. การทุจริตรายนี้สำเร็จลงได้เพราะการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่แผนกบัญชีและแผนกเงิน.การทุจริตสำเร็จไปก่อนที่จำเลยจะรับรองความถูกต้องของใบสำคัญนั้น. เพราะฉะนั้นถึงแม้จำเลยจะตรวจพบรายการจ่ายเงินอันเนื่องจากการทุจริตหรือกระทำการโดยบกพร่องประการใดก็ตาม. ก็ไม่อาจยับยั้งการจ่ายเงินของแผนกเงินได้. เพราะได้จ่ายเงินไปแล้ว. ความเสียหายที่โจทก์ได้รับหาใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลยไม่. จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดฐานละเมิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่อื่น: จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหากความเสียหายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่แผนกบัญชีและแผนกเงิน
ภารโรงในกองยานพาหนะได้ปลอมใบเบิกเงินค่าแรงของคนงานในกองยานพาหนะ โดยปลอมชื่อคนงานและปลอมลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กองยานพาหนะที่จะต้องลงชื่อในใบสำคัญนั้น แล้วเอาไปแสดงต่อแผนกบัญชีเพื่อขอรับเงิน เจ้าหน้าที่แผนกบัญชีไม่ได้ตรวจสอบดูความถูกต้อง กลับเสนอหัวหน้าแผนกลงชื่อแล้วส่งไปแผนกเงินเพื่อจ่ายเงิน แผนกเงินได้จ่ายเงินโดยผิดระเบียบ กล่าวคือ ไม่ได้จ่ายให้แก่คนงานเป็นรายคนไป กลับจ่ายให้แก่ภารโรงผู้นั้นทั้งหมด แล้วส่งใบสำคัญคือแผนกบัญชี แผนกบัญชีได้คัดบัญชีใบสำคัญที่จ่ายเงินไปแล้วส่งไปกองยานพาหนะซึ่งจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อรับรองความถูกต้อง การทุจริตรายนี้สำเร็จลงได้ เพราะการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่แผนกบัญชีและแผนกเงิน การทุจริตสำเร็จไปก่อนที่จำเลยจะรับรองความถูกต้องของใบสำคัญนั้น เพราะฉะนั้นถึงแม้จำเลยจะตรวจพบรายการจ่ายเงินอันเนื่องจากการทุจริตหรือกระทำการโดยบกพร่องประการใดก็ตาม ก็ไม่อาจยับยั้งการจ่ายเงินของแผนกเงินได้ เพราะได้จ่ายเงินไปแล้ว ความเสียหายที่โจทก์ได้รับหาใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลยไม่ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากทุจริตการเบิกจ่ายเงิน การตรวจสอบหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และผลกระทบต่อความเสียหาย
ภารโรงในกองยานพาหนะได้ปลอมใบเบิกเงินค่าแรงของคนงานในกองยานพาหนะ โดยปลอมชื่อคนงานและปลอมลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กองยานพาหนะที่จะต้องลงชื่อในใบสำคัญนั้นแล้วเอาไปแสดงต่อแผนกบัญชีเพื่อขอรับเงิน เจ้าหน้าที่แผนกบัญชีไม่ได้ตรวจสอบดูความถูกต้องกลับเสนอหัวหน้าแผนกลงชื่อแล้วส่งไปแผนกเงินเพื่อจ่ายเงิน แผนกเงินได้จ่ายเงินโดยผิดระเบียบ กล่าวคือ ไม่ได้จ่ายให้แก่คนงานเป็นรายคนไป กลับจ่ายให้แก่ภารโรงผู้นั้นทั้งหมด แล้วส่งใบสำคัญคืนแผนกบัญชีแผนกบัญชีได้คัดบัญชีใบสำคัญที่จ่ายเงินไปแล้วส่งไปกองยานพาหนะซึ่งจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อรับรองความถูกต้องการทุจริตรายนี้สำเร็จลงได้เพราะการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่แผนกบัญชีและแผนกเงินการทุจริตสำเร็จไปก่อนที่จำเลยจะรับรองความถูกต้องของใบสำคัญนั้นเพราะฉะนั้นถึงแม้จำเลยจะตรวจพบรายการจ่ายเงินอันเนื่องจากการทุจริตหรือกระทำการโดยบกพร่องประการใดก็ตามก็ไม่อาจยับยั้งการจ่ายเงินของแผนกเงินได้ เพราะได้จ่ายเงินไปแล้ว ความเสียหายที่โจทก์ได้รับหาใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลยไม่ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องความรักและการกีดกัน
ผู้ตายไม่พอใจที่จำเลยมารักใคร่ในทางชู้สาวกับบุตรสาว จึงกีดกันจำเลยมิให้ติดต่อ หากฝ่าฝืนจะให้ตำรวจจับกุม ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน จำเลยได้ยิงปืนใกล้บ้านผู้ตาย ผู้ตายได้พูดจาว่ากล่าว จำเลยโกรธได้ชักปืนออกแต่มิได้ยิง และคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีว่า สาเหตุดังกล่าวทำให้จำเลยนึกเจ็บใจที่ถูกว่ากล่าว ทั้งกลัวผู้ตายจะทำร้ายเพราะโกรธเรื่องที่รักใคร่บุตรสาวผู้ตาย จึงตั้งใจจะไปยิงผู้ตาย แล้วจำเลยลอบเข้าไปในบ้านผู้ตายในเวลากลางคืนแล้วยิงผู้ตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องความรักและการกีดกัน
ผู้ตายไม่พอใจที่จำเลยมารักใคร่ในทางชู้สาวกับบุตรสาวจึงกีดกันจำเลยมิให้ติดต่อ หากฝ่าฝืนจะให้ตำรวจจับกุม ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน จำเลยได้ยิงปืนใกล้บ้านผู้ตายผู้ตายได้พูดจาว่ากล่าวจำเลยโกรธได้ชักปืนออกแต่มิได้ยิง และคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีว่าสาเหตุดังกล่าวทำให้จำเลยนึกเจ็บใจที่ถูกว่ากล่าว ทั้งกลัวผู้ตายจะทำร้ายเพราะโกรธเรื่องที่รักใคร่บุตรสาวผู้ตายจึงตั้งใจจะไปยิงผู้ตายแล้วจำเลยลอบเข้าไปในบ้านผู้ตายในเวลากลางคืนแล้วยิงผู้ตายดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289