คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไฉน บุญยก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807-808/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายข้าวเปลือกเกิน 500 บาท แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟ้องเรียกราคาได้ และอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การซื้อขายข้าวเปลือกราคาเกินกว่า 500 บาท เมื่อจำเลยตวงข้าวไปจากโจทก์แล้ว ถือว่าได้มีการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 วรรคสองแล้ว แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องเรียกราคาข้าวจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(2)ที่ห้ามมิให้นำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารนั้นต้องเป็นกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงเท่านั้น กรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกราคาข้าวที่ขายให้จำเลยโดยไม่ต้องมีเอกสารเป็นหนังสือมาแสดง แม้เอกสารจะมีข้อความว่า "รับฝากข้าวเปลือก" โจทก์ก็นำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าเป็นเรื่องซื้อขายข้าวกัน
จำเลยที่ 2 กระทำในนามผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ได้เอาตราของบริษัทจำเลยที่ 1 มาตีประทับด้วย ถือว่าจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ซื้อข้าวไปจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยซื้อเชื่อข้าวเปลือกเจ้าจากโจทก์ ดังนี้ จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้แล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ผู้ประกอบกสิกรรมฟ้องเรียกเอาค่าผลิตผลแห่งกสิกรรมที่ได้ขายให้จำเลยซึ่งเป็นบริษัทโรงสี กรณีไม่เข้าอยู่ในบังคับแห่งอายุความ 2 ปี อายุความจึงมีกำหนด 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในเช็ค: ผู้สั่งจ่ายลงลายมือชื่อโดยมิได้ระบุ 'ในนาม' ย่อมเป็นผู้รับผิด แม้จะอ้างว่าสั่งจ่ายแทนผู้อื่น
เช็ครายพิพาทจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่าย โดยมิได้เขียนว่ากระทำแทนห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแสงอุทัย จำเลยจึงต้องเป็นผู้รับผิดตามความในตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900, 901 การที่จำเลยขอสืบว่า จำเลยเซ็นสั่งจ่ายในนามของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแสงอุทัยนั้น แม้จำเลยจะสืบได้ จำเลยก็หาหลุดพ้นความรับผิดตามเช็คนั้นไม่
เช็ครายพิพาทมีชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงิน และโจทก์มีเช็ครายพิพาทไว้ในความครอบครอง นอกจากนี้เช็ครายพิพาทมีคำจดแจ้งว่าหรือให้ใช้เงินแก่ผู้ถือและฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ถือ ฉะนั้น โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คทั้งในฐานะผู้มีชื่อเป็นผู้รับเงินและในฐานะเป็นผู้ถือเช็ครายพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ข้อความในเช็ครายพิพาทมิได้ระบุว่าโจทก์รับเงินในฐานะเป็นตัวแทนผู้ใด ฉะนั้น แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าโจทก์รับเงินในฐานะเป็นตัวแทนบุคคลอื่น จำเลยก็หาพ้นความรับผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเช็ค: ผู้สั่งจ่ายลงนามเอง แม้จะอ้างว่าลงนามแทนห้างหุ้นส่วน ก็ต้องรับผิดชอบตามเช็ค
เช็ครายพิพาทจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่าย โดยมิได้เขียนว่ากระทำแทนห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแสงอุทัย จำเลยจึงต้องเป็นผู้รับผิดตามความในตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900, 901 การที่จำเลยขอสืบว่า จำเลยเซ็นสั่งจ่ายในนามของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแสงอุทัยนั้น แม้จำเลยจะสืบได้ จำเลยก็หาหลุดพ้นความรับผิดตามเช็คนั้นไม่
เช็ครายพิพาทมีชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงิน และโจทก์มีเช็ครายพิพาทไว้ในความครอบครอง นอกจากนี้เช็ครายพิพาทมีคำจดแจ้งว่าหรือให้ใช้เงินแก่ผู้ถือและฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ถือ ฉะนั้น โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คทั้งในฐานะผู้มีชื่อเป็นผู้รับเงินและในฐานะเป็นผู้ถือเช็ครายพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ข้อความในเช็ครายพิพาทมิได้ระบุว่าโจทก์รับเงินในฐานะเป็นตัวแทนผู้ใดฉะนั้น แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าโจทก์รับเงินในฐานะเป็นตัวแทนบุคคลอื่น จำเลยก็หาพ้นความรับผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการไม่อนุญาตถอนฟ้องอุทธรณ์ และความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาท
การถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตนั้น เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำ
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการไม่อนุญาตถอนฟ้องอุทธรณ์ และความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาท
การถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตนั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำ
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาวะตกใจกลัวจากการถูกข่มขู่ด้วยอาวุธ การกระทำโดยไม่ได้เจตนาหรือไม่ประมาทเลินเล่อ ไม่ถือเป็นละเมิด
จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียวขณะหยุดรถรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกาได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนา ตามพฤติการณ์เช่นนี้ จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้ เพราะบุคคลที่อยู่ในภาวะตกตลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิดจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่รถชนกันนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาวะตกตะลึงกลัวและข้อยกเว้นความประมาท: การตัดสินความรับผิดในอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ข่มขู่
จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียว ขณะหยุดรถรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกาได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่ และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนาตามพฤติการณ์เช่นนี้ จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้ เพราะบุคคลที่อยู่ ในภาวะตกตะลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ในความเสียหายที่รถชนกันนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการประเมินค่าเช่าเพื่อคำนวณภาษีโรงเรือนและที่ดิน แม้ต่างจากที่ระบุในสัญญา
พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 8 วรรค 2 บัญญัติเพียงให้เอาค่าเช่าเป็นหลักคำนวณค่ารายปีเท่านั้น มิใช่จะต้องคำนวณค่ารายปีจากค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับตามสัญญาที่ได้ทำไว้ต่อกันเสมอไปไม่ ถ้าเป็นกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจแก้หรือคำนวณใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจประเมินค่าเช่าเพื่อคำนวณภาษีโรงเรือนและที่ดิน เจ้าหน้าที่ประเมินได้หากค่าเช่าไม่สมควร
พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 8 วรรคสอง บัญญัติเพียงให้เอาค่าเช่าเป็นหลักคำนวณค่ารายปีเท่านั้น มิใช่จะต้องคำนวณค่ารายปีจากค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับตามสัญญาที่ได้ทำไว้ต่อกันเสมอไปไม่ ถ้าเป็นกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจแก้หรือคำนวณใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกทรัพย์มรดกจากบุคคลภายนอกทายาท ไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้มีคดีก่อนหน้านี้ แต่ทรัพย์สินเป็นของจำเลย
มรดกมีห้องแถว 3 ห้อง ปลูกอยู่ในที่ดินเช่าจากวัด ทายาทเป็นโจทก์ฟ้องเรียกห้องนี้ 2 ห้องจากจำเลยซึ่งไม่ใช่ทายาท ในที่สุดตกลงกันโดยแบ่งกันคนละห้อง แต่โจทก์แถลงไว้ด้วยว่า จะฟ้องเรียกห้องที่ 3 จากจำเลยอีก คดีนั้นถึงที่สุด
ต่อมาโจทก์มาฟ้องเรียกห้องที่ 3 จากจำเลยอีก โจทก์อ้างว่าเป็นมรดกของผู้ตาย ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะจำเลยไม่ใช่ทายาท และทรัพย์ที่เรียกเป็นคนละอันกับในคดีก่อน
of 72